มหกรรมบ้านและคอนโดฯคึก ประชาชนแห่ชมงาน-ซื้อบ้าน หวั่นรัฐไม่ต่อมาตรการ ด้าน “อธิป” อาสาเจรจารัฐต่ออามาตรการอสังหาฯ หวั่นผลกระทบรุนแรงหากหมดมาตรการ ด้านผู้ประกอบการอสังหาฯขู่ ไม่ต่อมาตรการผู้บริโภคต้องซื้อบ้านแพงขึ้น 6.3%
นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 22 ว่า เป็นที่ทราบกันดัว่าภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เพราะมีความเกี่ยวเนื่องกับธุรกิจอื่นๆจำนวนมาก และช่วยสร้างรายได้ให้แก่ประเทศ อย่างไรก็ตาม การต่อหรือไม่ต่อมาตรการกระตุ้นอสังหาฯนั้นยังไม่สามารถตอบได้ เนื่องจากยังไม่ได้รับข้อมูลที่สมบูรณ์จากภาคเอกชน ซึ่งจะต้องสรุปให้ได้ก่อนวันที่ 28 มีนาคมว่าจะต่อหรือไม่
นายขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า เรื่องการต่ออายุมาตรการดังกล่าวไม่ใช่เรื่องสำคัญ เพราะการลดภาษีอสังหาฯ เป็นเพียงส่วนหนึ่งในการช่วยกระตุ้นยอดขาย นอกจากนี้ยังเป็นการลดเพียงครั้งเดียวในช่วงที่ซื้อและโอนเท่านั้น หากเที่ยบกับอัตราดอกเบี้ยแล้วต่างกันมาก ที่สำคัญคือการอนุมัติสินเชื่อของธนาคาร เพราะหากธนาคารไม่ปล่อยสินเชื่อผู้บริโภคก็ไม่สามารถซื้อบ้านได้
นายอธิป พีชานนท์ กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทอาจปรับขึ้นราคาขายที่บ้านอีก 4% ในเดือน เม.ย.นี้ หากรัฐบาลไม่ต่ออายุมาตรการภาษีอสังหาฯ และอาจส่งผลให้ผู้ประกอบการรายอื่นที่อาจจะมีการปรับขึ้นราคาขายบ้านเช่นเดียวกัน ขณะเดียวกันราคาวัสดุก่อสร้างยังมีแนวโน้มปรับสูงขึ้นตามราคาน้ำมัน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่ออัตรากำไรสุทธิให้ลดลงมาเหลือ 20% จากปีก่อนที่อยู่ที่ 21-22% และเชื่อว่าการสิ้นสุดมาตรการในวันที่ 28 มี.ค.นี้ จะส่งผลต่อธุรกิจค่อนข้างมาก ดังนั้น ตนเองจะรับเป็นตัวแทนผู้ประกอบการเข้าเจรจากับทางการในช่วงปลายเดือน ก.พ. เพื่อเรียกร้องให้ทางการต่ออายุมาตรการภาษีออกไป โดยชี้แจงผลดีของมาตรภาษีภาษีที่จะช่วยเหลือผู้ประกอบการและช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
นายธีรวัฒน์ พิพัฒน์ดิฐกุล อุปนายกฝ่ายกิจกรรมและประชาสัมพันธ์ สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้ คึกคักกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เพราะลูกค้าเกรงว่ารัฐบาลจะไม่ต่ออายุมาตรการอสังหาฯ จึงเร่งซื้อบ้านสร้างเสร็จพร้อมโอนเพื่อจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี โดยปัจจัยหลักๆ 3 ข้อคือ 1.หากรัฐบาลไม่ต่ออายุมาตรการภาษีจะส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการซื้อบ้านเพิ่มขึ้น 6.3%
2. ผู้ประกอบการจะนำบ้านสร้างเสร็จพร้อมโอนมาลดราคาหรือทำโปรโมชั่นแรงๆ และการยึดคืนบ้านที่ลูกค้าไม่ยอมโอนมาขายในราคาถูก 3.อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ
นายอิสระ บุญยัง นายกสมาคมธุรกิจบ้าน จัดสรร กล่าวว่า โปรโมชั่นปีนี้ถือว่า แรงกว่าทุกปีเพราะตลาดประเมินเรื่องมาตรการว่าอาจไม่ต่อออกไปอีก หรือได้ต่อเฉพาะบาง ทำให้เกิดแคมเปญแรงๆ เช่น อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0%นานสองปี โดยผู้ประกอบการยอมจ่ายดอกเบี้ยให้ ซึ่งเดิมอัตราดอกเบี้ย 0% มีระยะเฉลี่ยสูงสุดแค่ 3 เดือน โปรโมชั่นในรูปส่วนลดเงินสด 5-10% อยู่ฟรี และให้เฟอร์นิเจอร์ฟรีเป็นต้น
นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 22 ว่า เป็นที่ทราบกันดัว่าภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เพราะมีความเกี่ยวเนื่องกับธุรกิจอื่นๆจำนวนมาก และช่วยสร้างรายได้ให้แก่ประเทศ อย่างไรก็ตาม การต่อหรือไม่ต่อมาตรการกระตุ้นอสังหาฯนั้นยังไม่สามารถตอบได้ เนื่องจากยังไม่ได้รับข้อมูลที่สมบูรณ์จากภาคเอกชน ซึ่งจะต้องสรุปให้ได้ก่อนวันที่ 28 มีนาคมว่าจะต่อหรือไม่
นายขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า เรื่องการต่ออายุมาตรการดังกล่าวไม่ใช่เรื่องสำคัญ เพราะการลดภาษีอสังหาฯ เป็นเพียงส่วนหนึ่งในการช่วยกระตุ้นยอดขาย นอกจากนี้ยังเป็นการลดเพียงครั้งเดียวในช่วงที่ซื้อและโอนเท่านั้น หากเที่ยบกับอัตราดอกเบี้ยแล้วต่างกันมาก ที่สำคัญคือการอนุมัติสินเชื่อของธนาคาร เพราะหากธนาคารไม่ปล่อยสินเชื่อผู้บริโภคก็ไม่สามารถซื้อบ้านได้
นายอธิป พีชานนท์ กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทอาจปรับขึ้นราคาขายที่บ้านอีก 4% ในเดือน เม.ย.นี้ หากรัฐบาลไม่ต่ออายุมาตรการภาษีอสังหาฯ และอาจส่งผลให้ผู้ประกอบการรายอื่นที่อาจจะมีการปรับขึ้นราคาขายบ้านเช่นเดียวกัน ขณะเดียวกันราคาวัสดุก่อสร้างยังมีแนวโน้มปรับสูงขึ้นตามราคาน้ำมัน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่ออัตรากำไรสุทธิให้ลดลงมาเหลือ 20% จากปีก่อนที่อยู่ที่ 21-22% และเชื่อว่าการสิ้นสุดมาตรการในวันที่ 28 มี.ค.นี้ จะส่งผลต่อธุรกิจค่อนข้างมาก ดังนั้น ตนเองจะรับเป็นตัวแทนผู้ประกอบการเข้าเจรจากับทางการในช่วงปลายเดือน ก.พ. เพื่อเรียกร้องให้ทางการต่ออายุมาตรการภาษีออกไป โดยชี้แจงผลดีของมาตรภาษีภาษีที่จะช่วยเหลือผู้ประกอบการและช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
นายธีรวัฒน์ พิพัฒน์ดิฐกุล อุปนายกฝ่ายกิจกรรมและประชาสัมพันธ์ สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้ คึกคักกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เพราะลูกค้าเกรงว่ารัฐบาลจะไม่ต่ออายุมาตรการอสังหาฯ จึงเร่งซื้อบ้านสร้างเสร็จพร้อมโอนเพื่อจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี โดยปัจจัยหลักๆ 3 ข้อคือ 1.หากรัฐบาลไม่ต่ออายุมาตรการภาษีจะส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการซื้อบ้านเพิ่มขึ้น 6.3%
2. ผู้ประกอบการจะนำบ้านสร้างเสร็จพร้อมโอนมาลดราคาหรือทำโปรโมชั่นแรงๆ และการยึดคืนบ้านที่ลูกค้าไม่ยอมโอนมาขายในราคาถูก 3.อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ
นายอิสระ บุญยัง นายกสมาคมธุรกิจบ้าน จัดสรร กล่าวว่า โปรโมชั่นปีนี้ถือว่า แรงกว่าทุกปีเพราะตลาดประเมินเรื่องมาตรการว่าอาจไม่ต่อออกไปอีก หรือได้ต่อเฉพาะบาง ทำให้เกิดแคมเปญแรงๆ เช่น อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0%นานสองปี โดยผู้ประกอบการยอมจ่ายดอกเบี้ยให้ ซึ่งเดิมอัตราดอกเบี้ย 0% มีระยะเฉลี่ยสูงสุดแค่ 3 เดือน โปรโมชั่นในรูปส่วนลดเงินสด 5-10% อยู่ฟรี และให้เฟอร์นิเจอร์ฟรีเป็นต้น
