นายกสมาคมบล.ยืนยันไม่ยกเลิกค่าคอมมิชชั่นขั้นบันได เหตุ อีก 2 ปี ก็เปิดเสรีแล้ว หลังก.ล.ต.เสนอเปิดเสรีค่าคอมมิชชั่นแก้ปัญหาการแข่งขันไม่เป็นธรรมแก่บล.ที่มีฐานลูกค้าเฉพาะรายย่อย แจงขณะนี้อยู่ระหว่างตั้งชมรมเพื่อพิจารณาผลกระทบ ด้านตลท.ก็ไม่เห็นด้วย ส่วนก.ล.ต.หวังให้เกิดความเป็นระเบียบและเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย
นางภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า จากสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ได้มีการประชุมร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)ซึ่งก.ล.ต.ได้มีการเสนอให้มีการยกเลิกอัตราค่าธรรมเนียมขั้นบันได โดยจะเปิดให้มีการต่อรองค่าคอมมิชชั่เสรี เพื่อแก้ปัญหาความไม่เสมอภาคในการแข่งขัน เพราะ บล.บางแห่งนำรายได้จากลูกค้ารายย่อยที่ซื้อขายไม่ถึง 20 ล้านบาทซึ่งมีการกำหนดค่าคอมมิชชั่นอยู่ไปชดมาชดเชยส่วนที่เป็นต้นทุนการให้บริการลูกค้ารายใหญ่หรือลูกค้าสถาบัน ทำให้มีการเสนออัตราค่าธรรมเนียมการซื้อขายจากลูกค้ารายใหญ่หรือลูกค้าสถาบันในอัตราที่ต่ำกว่าต้นทุน ซึ่งไม่เป็นธรรมต่อ บล. ที่ทำธุรกิจเน้นเฉพาะลูกค้าสถาบันเป็นหลัก
สำหรับส่วนตัวมองว่าคงไม่มีการยกเลิกค่าคอมมิชชั่นขั้นบันได เพราะ อีกแค่ 2 ปี ก็จะมีการเปิดเสรีค่าคอมมิชชั่นแล้ว ซึ่งถือว่าเป็นเวลาที่ไม่นาน แต่จากปัจจุบันที่มีปัญหาความเลื่อมล้ำในการการแข่งขันระหว่างบล.ที่มีฐานลูกค้าสถาบันอย่างเดียว กับบล.ที่มีฐานลูกค้าย่อยและสถาบันนั้น ซึ่งขณะนี้ต้องมีการพิจารณาว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร และมีความรุนแรงหรือไม่ ซึ่งทางสมาคมบล.จะมีการจัดตั้งชมรมผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์สถาบัน เพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าวและนำผลการหารือไปรายงานต่อก.ล.ต.ทราบในการประชุมประจำไตรมาสครั้งต่อไป
“การจัดตั้งชมรมผู้ประกอบธุรกิจหลักททรัพย์สถาบันคาดว่าจะใช้เวลาจัดตั้งประมาณ 1-2 เดือน เนื่องจาก จะต้องมีการร่างกฎระเบียบในการตั้งชมรม และจะต้องมีการแต่งตั้งกรรมการชมรม และประธานชมรม แต่จากที่มีการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาหารือนั้น อาจจะมีการหารือควบคู่ไปกับการจัดตั้งชมรมด้วย”นางภัทรีรากล่าว
นอกจากนี้กรณีที่ ก.ล.ต.จะให้มีการทำบทวิเคราะห์ในหุ้นทุกตัวที่เจ้าหน้าที่การตลาด(มาร์เก็ตติ้ง) แนะนำให้แก่ลูกค้า รวมทั้งหุ้นที่ลูกค้าส่งคำสั่งซื้อขายผ่าน บล. นั้นๆ เป็นหลักนั้น ส่วนตัวมองว่าหากมีการทำดังข้อเสนอดังกล่าวนั้นอาจมีปัญหา เพราะ หุ้นบางตัวนั้นนักลงทุนต้องการที่จะมีการซื้อทันที โดยที่บล.อาจจะยังไม่มีบทวิเคราะห์ และการทำบทวิเคราะห์นั้นก็จะต้องใช้เวลา โดยสมาคมบล.จะมีการทำสำรวจ บริษัทสมาชิกว่าปัจจุบันมีการจัดทำบทวิเคราะห์ครอบคลุมหุ้นที่เจ้าหน้าที่การตลาด (มาร์เกตติ้ง) และสำรวจความคิดเห็นกับสมาชิกว่าจะสามารถจัดทำบทวิเคราะห์จำนวนเท่าไร
นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) กล่าวว่า ส่วนตัวไม่เห็นด้วยที่จะมีการยกเลิกอัตราการคิดค่าคอมมิชชั่นขั้นบันได เพราะ จะทำให้อุตสาหกรรมหลักทรัพย์มีปัญหา โดยควรที่จะเดินไปตามที่ได้มีการประกาศเอาไว้ก่อนหน้า เพราะ แค่อีก 2 ปี ก็จะมีการเปิดเสรีค่าคอมมิชชั่นเกิดขึ้น ซึ่งขณะนี้ทางสมาคมบล.ได้มีการปฏิบัติหน้าที่ได้ โดยได้เริ่มมีการประชุมหารือในเรื่องดังกล่าวแล้ว โดยตลาดหลักทรัพย์ฯพร้อมที่จะให้การสนับสนุนในการผลักดันให้สมาคมบล.เป็นองค์กรที่ดูแลสมาชิก (SRO)
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขาธิการก.ล.ต. กล่าวว่า การประชุมประจำไตรมาส ครั้งต่อไปนั้น สมาคมบล.จะเข้ามารายงานผลในเรื่องการแก้ปัญหาการแข่งขันไม่เป็นธรรมในเรื่องการแข่งขันของบล.ที่มีลูกค้าเฉพาะสถาบัน กับบล.ที่มีฐานลูกค้ารายย่อยและสถาบัน ว่าจะมีการดำเนินการอย่างไร ซึ่งประเด็นที่ก.ล.ต.ต้องให้เกิดความเป็นระเบียบในการประกอบธุรกิจและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานและต้องการให้มีการดูแลนักลงทุนอย่างเป็นธรรม และไม่ต้องการให้มีการใช้ประโยชน์จากการที่มีการกำหนดค่าคอมมิชชั่นรายย่อยเพื่อนำรายได้ดังกล่าวมาชดเชยต้นทุนเพื่อลดราคาให้กับลูกค้าสถาบัน
นางภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า จากสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ได้มีการประชุมร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)ซึ่งก.ล.ต.ได้มีการเสนอให้มีการยกเลิกอัตราค่าธรรมเนียมขั้นบันได โดยจะเปิดให้มีการต่อรองค่าคอมมิชชั่เสรี เพื่อแก้ปัญหาความไม่เสมอภาคในการแข่งขัน เพราะ บล.บางแห่งนำรายได้จากลูกค้ารายย่อยที่ซื้อขายไม่ถึง 20 ล้านบาทซึ่งมีการกำหนดค่าคอมมิชชั่นอยู่ไปชดมาชดเชยส่วนที่เป็นต้นทุนการให้บริการลูกค้ารายใหญ่หรือลูกค้าสถาบัน ทำให้มีการเสนออัตราค่าธรรมเนียมการซื้อขายจากลูกค้ารายใหญ่หรือลูกค้าสถาบันในอัตราที่ต่ำกว่าต้นทุน ซึ่งไม่เป็นธรรมต่อ บล. ที่ทำธุรกิจเน้นเฉพาะลูกค้าสถาบันเป็นหลัก
สำหรับส่วนตัวมองว่าคงไม่มีการยกเลิกค่าคอมมิชชั่นขั้นบันได เพราะ อีกแค่ 2 ปี ก็จะมีการเปิดเสรีค่าคอมมิชชั่นแล้ว ซึ่งถือว่าเป็นเวลาที่ไม่นาน แต่จากปัจจุบันที่มีปัญหาความเลื่อมล้ำในการการแข่งขันระหว่างบล.ที่มีฐานลูกค้าสถาบันอย่างเดียว กับบล.ที่มีฐานลูกค้าย่อยและสถาบันนั้น ซึ่งขณะนี้ต้องมีการพิจารณาว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร และมีความรุนแรงหรือไม่ ซึ่งทางสมาคมบล.จะมีการจัดตั้งชมรมผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์สถาบัน เพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าวและนำผลการหารือไปรายงานต่อก.ล.ต.ทราบในการประชุมประจำไตรมาสครั้งต่อไป
“การจัดตั้งชมรมผู้ประกอบธุรกิจหลักททรัพย์สถาบันคาดว่าจะใช้เวลาจัดตั้งประมาณ 1-2 เดือน เนื่องจาก จะต้องมีการร่างกฎระเบียบในการตั้งชมรม และจะต้องมีการแต่งตั้งกรรมการชมรม และประธานชมรม แต่จากที่มีการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาหารือนั้น อาจจะมีการหารือควบคู่ไปกับการจัดตั้งชมรมด้วย”นางภัทรีรากล่าว
นอกจากนี้กรณีที่ ก.ล.ต.จะให้มีการทำบทวิเคราะห์ในหุ้นทุกตัวที่เจ้าหน้าที่การตลาด(มาร์เก็ตติ้ง) แนะนำให้แก่ลูกค้า รวมทั้งหุ้นที่ลูกค้าส่งคำสั่งซื้อขายผ่าน บล. นั้นๆ เป็นหลักนั้น ส่วนตัวมองว่าหากมีการทำดังข้อเสนอดังกล่าวนั้นอาจมีปัญหา เพราะ หุ้นบางตัวนั้นนักลงทุนต้องการที่จะมีการซื้อทันที โดยที่บล.อาจจะยังไม่มีบทวิเคราะห์ และการทำบทวิเคราะห์นั้นก็จะต้องใช้เวลา โดยสมาคมบล.จะมีการทำสำรวจ บริษัทสมาชิกว่าปัจจุบันมีการจัดทำบทวิเคราะห์ครอบคลุมหุ้นที่เจ้าหน้าที่การตลาด (มาร์เกตติ้ง) และสำรวจความคิดเห็นกับสมาชิกว่าจะสามารถจัดทำบทวิเคราะห์จำนวนเท่าไร
นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) กล่าวว่า ส่วนตัวไม่เห็นด้วยที่จะมีการยกเลิกอัตราการคิดค่าคอมมิชชั่นขั้นบันได เพราะ จะทำให้อุตสาหกรรมหลักทรัพย์มีปัญหา โดยควรที่จะเดินไปตามที่ได้มีการประกาศเอาไว้ก่อนหน้า เพราะ แค่อีก 2 ปี ก็จะมีการเปิดเสรีค่าคอมมิชชั่นเกิดขึ้น ซึ่งขณะนี้ทางสมาคมบล.ได้มีการปฏิบัติหน้าที่ได้ โดยได้เริ่มมีการประชุมหารือในเรื่องดังกล่าวแล้ว โดยตลาดหลักทรัพย์ฯพร้อมที่จะให้การสนับสนุนในการผลักดันให้สมาคมบล.เป็นองค์กรที่ดูแลสมาชิก (SRO)
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขาธิการก.ล.ต. กล่าวว่า การประชุมประจำไตรมาส ครั้งต่อไปนั้น สมาคมบล.จะเข้ามารายงานผลในเรื่องการแก้ปัญหาการแข่งขันไม่เป็นธรรมในเรื่องการแข่งขันของบล.ที่มีลูกค้าเฉพาะสถาบัน กับบล.ที่มีฐานลูกค้ารายย่อยและสถาบัน ว่าจะมีการดำเนินการอย่างไร ซึ่งประเด็นที่ก.ล.ต.ต้องให้เกิดความเป็นระเบียบในการประกอบธุรกิจและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานและต้องการให้มีการดูแลนักลงทุนอย่างเป็นธรรม และไม่ต้องการให้มีการใช้ประโยชน์จากการที่มีการกำหนดค่าคอมมิชชั่นรายย่อยเพื่อนำรายได้ดังกล่าวมาชดเชยต้นทุนเพื่อลดราคาให้กับลูกค้าสถาบัน
