ขสมก.ขีดเส้นตาย "มินิบัสเขียว" 17 ก.พ.นี้ หากยังเพิกเฉย ไม่ปรับปรุงสภาพ-ติดเอ็นจีวี ยกเลิกใบอนุญาตแน่ พร้อมแฉมินิบัสในระบบกว่า 1 พันคัน ทำตามระเบียนแค่ 200 คัน พร้อมฝากประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตา หากพบพฤติกรรมถ่อยให้แจ้งได้ที่ Call center 184 ได้ทุกวัน
นายโอภาส เพชรมุณี ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า ภายหลังจาก ขสมก.ได้ขยายเวลาให้ผู้ประกอบการรถมินิบัสดำเนินการปรับปรุงเครื่องยนต์และตัวถัง โดยรถที่เปลี่ยนเครื่องยนต์ต้องเปลี่ยนมาใช้ก๊าซเอ็นจีวี แต่ยอมรับว่ายังมีผู้ประกอบการรถมินิบัสจำนวนมากที่เพิกเฉย ไม่มีการปรับปรุงตามเงื่อนไขดังกล่าว ซึ่งขัดกับนโยบายของ ขสมก. ซึ่งต้องการให้บริการรถสาธารณะที่ให้แก่ประชาชนต้องคำนึงถึงความปลอดภัยและมีสภาพการบริการที่ดี ดังนั้น หากผู้ประกอบการรถมินิบัสรายใดที่ยังเพิกเฉยไม่มีการดำเนินการเปลี่ยนตัวรถ หรือปรับปรุงสภาพรถใหม่ ภายในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2553 นี้ ขสมก.ก็จำเป็นต้องยกเลิกใบอนุญาตประกอบการทันที
“ปัจจุบันมีรถมินิบัสในระบบจำนวน 1,000 คัน แต่มีเพียง 200 คัน ที่มีการดำเนินการตามที่กำหนดไว้ เมื่อผู้ประกอบการไม่มีการเปลี่ยนเครื่องยนต์มาใช้เอ็นจีวี ภายในเวลาที่กำหนด ขสมก.จำเป็นต้องยกเลิกใบอนุญาต ส่วนกรณีที่มีการขู่หยุดเดินรถประท้วง ขสมก.ก็พร้อมนำรถที่มีอยู่มาให้บริการแก่ประชาชน ซึ่งเชื่อว่าจะเพียงพอ ขณะเดียวกันก็จะมีบทลงโทษกับผู้ประกอบการที่ร่วมกันหยุดเดินด้วย”
นอกจากนี้ ขสมก.ยังได้ ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดรณรงค์เมาไม่ขับ ในโครงการ “บริการประทับใจ ปลอดภัยตลอดทาง” สำหรับพนักงานประจำรถรถของ ขสมก. เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน การให้บริการให้ผู้ใช้พึงพอใจ ปลอดภัยและลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุโดยผู้โดยสารที่เห็นพนักงานขับรถเมล์ ขสมก.และรถร่วมบริการฯ ขับเร็วเกินกว่ากำหนด ไม่จอดรับผู้โดยสาร หรือพนักงานบริการเก็บตั๋วแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม สามารถร้องเรียนได้ที่ศูนย์ Call center 184 ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.
