เลขาธิการ กบข.คนใหม่ ประกาศภาระกิจเร่งด่วน ฟื้นศรัทธากองทุน-เร่งกู้ภาพลักษณ์ เพื่อนำ กบข.กลับมาเป็นองค์กรแห่งธรรมาพิบาล ลั่นกฎเหล็กใหม่ ห้ามผู้บริหาร-พนักงาน เล่นหุ้นโดยเด็ดขาด เพื่อให้ "สังคม-สมาชิก" ไว้วางใจ ย้ำชัด! กบข.ต้องเป็นนักลงทุนสถาบันหลักของชาติ และเป็นแบบอย่างนักลงทุนที่ดี พร้อมคาดผลตอบแทนในปี 53 ไม่สูงเท่าปี 52 เน้นการลงทุนแบบงมั่นคงไม่หวือหวา เล็งเพิ่มสัดส่วนลงทุน ตปท. กระจายความเสี่ยง
นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) คนล่าสุด กล่าวในการเปิดเผยวิสัยทัศน์การบริหารต่อสื่อมวลชนสายตลาดทุน โดยประกาศภารกิจเร่งด่วน ในการปรับภาพลักษณ์ กบข.ให้เป็นองค์กรแห่งธรรมาภิบาลที่สมาชิกมีความเชื่อมั่นและไว้วางใจ รวมถึงสังคมทั่วไปมอง กบข.เป็นองค์กรต้นแบบแห่งธรรมาภิบาล
โดยในส่วนภารกิจภายใน เลขาธิการ กบข. กล่าวว่า พนักงานและผู้บริหารทุกคน ต้องยึดหลักธรรมาภิบาลอย่างเคร่งครัด ผู้บริหารและพนักงานที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน ห้ามซื้อขายหุ้นโดยเด็ดขาด พร้อมประกาศว่า การดำเนินงานใดๆ ต่อไปนี้ต้องยึดแนวนโยบายที่ชัดเจนว่า ผลประโยชน์สมาชิกต้องมาก่อน รวมทั้งการตัดสินใจการลงทุนใดๆ ต้องมีการศึกษาให้รอบคอบ วิเคราะห์โอกาสและความเสี่ยงให้ดี พร้อมทั้งปรับแผนการลงทุนให้เหมาะสม และสอดคล้องกับสถานการณ์ต่างๆ อยู่เสมอ
ขณะเดียวกัน กบข.ก็ต้องหาช่องทางการลงทุนในสินทรัพย์ใหม่ๆ ให้มากขึ้นเพื่อกระจายความเสี่ยง รักษาสมดุลของเป้าหมาย ผลตอบแทนระยะยาวกับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ เพื่อสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงในระยะยาวให้กับสมาชิก
ทางด้านภารกิจภายนอกนั้น จะส่งเสริมการนำหลักการเป็นองค์กรแห่งธรรมาภิบาลที่ดีเข้ามาอยู่ในกระบวนการทำงานและบริหารกิจการโดยจะยึดหลักในธรรมาภิบาล จรรยาบรรณ และหลักปฎิบัติที่เกี่ยวข้องทั้งตัวองค์กรและพนักงานในทุกระดับชั้น รวมทั้งการแสดงออกซึ่งสิทธิขั้นพื้นฐานทั้งในฐานะนักลงทุนสถาบันหลักของประเทศ และในฐานะผู้ถือหุ้นในบริษัทที่ กบข.ร่วมลงทุน เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีแก่นักลงทุน
สำหรับการบริหารงานกองทุนนั้น เลขาธิการ กบข.คาดว่า ผลตอบแทนจากการลงทุนในปี 2553 จะไม่สูงเท่าในปี 2552 ที่มีผลตอบแทน 8.9% ซึ่งเป็นไปตามภาวะตลาดหุ้น และในปีนี้จะมีการขยับสัดส่วนลงทุนต่างประเทศเพิ่มขึ้นจาก 13% จากปี 2552 โดยจะเน้นประเทศแถบเอเชีย เพื่อกระจายความเสี่ยง