โตโย-ไทย คอร์ปอเรชั่น ร่วมทุน ตั้ง "โกลบอล นิว เอ็นเนอร์ยี " เข้าถือหุ้นใหญ่ 60% ลุยธุรกิจวางระบบพลังงานทดแทน ต่อยอดธุรกิจกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ มั่นใจได้รับความสนใจจากโรงงานทั้งในและต่างประเทศ เชื่อหนุนรายได้มั่นคงเพิ่มขึ้นในอนาคต
นายฮิโรโนบุ อิริยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโย-ไทย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TTCL แจ้งว่าบริษัทได้ร่วมมือกับบริษัท มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น ตั้ง " บริษัท โกลบอล นิว เอ็นเนอร์ยี่ หรือ GNE " เพื่อให้บริการวางระบบพลังงานทดแทนให้กับโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ โดยใช้เทคโนโลยีระดับโลกจากญี่ปุ่น ในการเปลี่ยน พลังงานความร้อน ซึ่งปกติจะเป็นของเสียจากกระบวนการผลิต เป็น พลังงานไฟฟ้าและน้ำสะอาด ดังนั้น โรงงานต่าง ๆ ที่ใช้ระบบของ GNE จะได้ประโยชน์ 4 ด้านคือสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าใช้เองได้เป็นการประหยัดค่าไฟฟ้าต่อปีได้จำนวนมาก สร้างน้ำบริสุทธิ์ใช้ได้เองเป็นการลดค่าใช้จ่าย แก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมจากการปล่อยพลังงานความร้อนสู่ชั้นบรรยากาศและช่วยลดสภาวะโลกร้อน และลดความเสี่ยงทางธุรกิจจากสภาวะการขาดแคลนไฟฟ้าและน้ำประปาโดย GNE จะมีทุนจดทะเบียนเริ่มต้น 60 ล้านบาท และมี TTCL ถือหุ้น 60% และมิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น (ญี่ปุ่น) ถือหุ้น 40%
" GNE จะเป็นผู้บุกเบิกด้านการวางระบบพลังงานทดแทน และระบบประหยัดพลังงานให้กับโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ เนื่องจากโรงงานเหล่านี้มีความร้อนที่ไม่ได้ใช้งานเป็นจำนวนมาก ซึ่งสามารถใช้เทคโนโลยีระดับโลกของ GNE เพื่อเปลี่ยนความร้อนเหลือใช้นี้ เป็นกระแสไฟฟ้าไว้ใช้ในกระบวนการผลิต และยังใช้ผลิตน้ำสะอาดได้ ขณะนี้มีโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่จำนวนมากในไทย ทวีปเอเชียโดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศตะวันออกกลางซึ่งเป็นแหล่งผลิตน้ำมันของโลกที่จะได้ประโยชน์จากบริการของ GNE" นายฮิโรโนบุ กล่าว
นอกจากนี้ บริการวางระบบประหยัดพลังงานของ GNE จะสามารถช่วยให้โรงงานต่าง ๆ ยกระดับมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมของตนและผ่านเกณฑ์มาตรฐานสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดมากยิ่งขึ้นที่รัฐบาลกำลังเป็นแกนนำในการกำหนด เพราะจะช่วยลดปัญหาเรือนกระจก (Green House Gas Reduction) อันเกิดจากการปล่อยความร้อนสู่ชั้นบรรยากาศ และเป็นการลดการเกิดสภาวะโลกร้อน (Global Warming) โดยตรง เชื่อมั่นใจว่าโรงงานขนาดใหญ่ทั้งในและต่างประเทศจะให้ความสนใจในระบบประหยัดพลังงานของ GNE
การตั้งบริษัทดังกล่าวคาดว่า GNE จะได้รับประโยชน์โดยตรงจากฐานธุรกิจและกลุ่มลูกค้าโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของ TTCL ซึ่งดำเนินธุรกิจมากว่า 24 ปี และจากฐานธุรกิจของกลุ่มมิตซูบิชิ ซึ่งมีเครือข่ายกว่า 500 บริษัททั่วโลก นอกจากนี้การวางมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดขึ้นอย่างมากของรัฐบาล จะทำให้โรงงานขนาดใหญ่จำนวนมากต้องมีการลงทุนด้านการลดปริมาณของเสียซึ่งบริการของ GNE จะช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ คาดว่าธุรกิจวางระบบประหยัดพลังงานนี้ จะเป็นหนึ่งในธุรกิจที่สร้างรายได้อย่างมั่นคงให้กับบริษัทในอนาคต
นายฮิโรโนบุ อิริยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโย-ไทย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TTCL แจ้งว่าบริษัทได้ร่วมมือกับบริษัท มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น ตั้ง " บริษัท โกลบอล นิว เอ็นเนอร์ยี่ หรือ GNE " เพื่อให้บริการวางระบบพลังงานทดแทนให้กับโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ โดยใช้เทคโนโลยีระดับโลกจากญี่ปุ่น ในการเปลี่ยน พลังงานความร้อน ซึ่งปกติจะเป็นของเสียจากกระบวนการผลิต เป็น พลังงานไฟฟ้าและน้ำสะอาด ดังนั้น โรงงานต่าง ๆ ที่ใช้ระบบของ GNE จะได้ประโยชน์ 4 ด้านคือสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าใช้เองได้เป็นการประหยัดค่าไฟฟ้าต่อปีได้จำนวนมาก สร้างน้ำบริสุทธิ์ใช้ได้เองเป็นการลดค่าใช้จ่าย แก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมจากการปล่อยพลังงานความร้อนสู่ชั้นบรรยากาศและช่วยลดสภาวะโลกร้อน และลดความเสี่ยงทางธุรกิจจากสภาวะการขาดแคลนไฟฟ้าและน้ำประปาโดย GNE จะมีทุนจดทะเบียนเริ่มต้น 60 ล้านบาท และมี TTCL ถือหุ้น 60% และมิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น (ญี่ปุ่น) ถือหุ้น 40%
" GNE จะเป็นผู้บุกเบิกด้านการวางระบบพลังงานทดแทน และระบบประหยัดพลังงานให้กับโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ เนื่องจากโรงงานเหล่านี้มีความร้อนที่ไม่ได้ใช้งานเป็นจำนวนมาก ซึ่งสามารถใช้เทคโนโลยีระดับโลกของ GNE เพื่อเปลี่ยนความร้อนเหลือใช้นี้ เป็นกระแสไฟฟ้าไว้ใช้ในกระบวนการผลิต และยังใช้ผลิตน้ำสะอาดได้ ขณะนี้มีโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่จำนวนมากในไทย ทวีปเอเชียโดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศตะวันออกกลางซึ่งเป็นแหล่งผลิตน้ำมันของโลกที่จะได้ประโยชน์จากบริการของ GNE" นายฮิโรโนบุ กล่าว
นอกจากนี้ บริการวางระบบประหยัดพลังงานของ GNE จะสามารถช่วยให้โรงงานต่าง ๆ ยกระดับมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมของตนและผ่านเกณฑ์มาตรฐานสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดมากยิ่งขึ้นที่รัฐบาลกำลังเป็นแกนนำในการกำหนด เพราะจะช่วยลดปัญหาเรือนกระจก (Green House Gas Reduction) อันเกิดจากการปล่อยความร้อนสู่ชั้นบรรยากาศ และเป็นการลดการเกิดสภาวะโลกร้อน (Global Warming) โดยตรง เชื่อมั่นใจว่าโรงงานขนาดใหญ่ทั้งในและต่างประเทศจะให้ความสนใจในระบบประหยัดพลังงานของ GNE
การตั้งบริษัทดังกล่าวคาดว่า GNE จะได้รับประโยชน์โดยตรงจากฐานธุรกิจและกลุ่มลูกค้าโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของ TTCL ซึ่งดำเนินธุรกิจมากว่า 24 ปี และจากฐานธุรกิจของกลุ่มมิตซูบิชิ ซึ่งมีเครือข่ายกว่า 500 บริษัททั่วโลก นอกจากนี้การวางมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดขึ้นอย่างมากของรัฐบาล จะทำให้โรงงานขนาดใหญ่จำนวนมากต้องมีการลงทุนด้านการลดปริมาณของเสียซึ่งบริการของ GNE จะช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ คาดว่าธุรกิจวางระบบประหยัดพลังงานนี้ จะเป็นหนึ่งในธุรกิจที่สร้างรายได้อย่างมั่นคงให้กับบริษัทในอนาคต