แอล.พี.เอ็น.ฯ ทุ่ม 680 ล้านบาทซื้อที่ดิน 10 แปลงพื้นที่รวมกว่า 5,921 ตารางวา ต่อจากเมโทร สตาร์ฯ เตรียมผุดโครงการ ลุมพินีเพลส รัชโยธินมูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาท ด้านเมโทรสตาร์ฯแจงเหตุขายที่หวังนำเงินชำระหนี้เงินกู้ เสริมสภาพคล่องทางการเงิน พัฒนาโครงการสร้างรายได้ในอนาคต เชื่อตัดสินใจขายถูกเวลา เพราะเศรษฐกิจยังคงชะลอตัว
นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 7 ม.ค. 53 ที่ผ่านมาบริษัทได้ซื้อที่ดินจำนวน 5,921 ตารางวา มูลค่า 680.915 ล้านบาท จากบริษัท เมโทรสตาร์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เพื่อนำมาพัฒนาโครงการ ลุมพินีเพลส รัชโยธิน โดยโครงการดังกล่าวจะพัฒนาเป็นโครงการอาคารชุดพักอาศัย สูง 22 ชั้น จำนวน 4 อาคาร จำนวนยูนิต 1,964 ยูนิต มูลค่าขายรวมประมาณ 3,000 ล้านบาท ใช้ระยะเวลาในการพัฒนา ประมาณ 15 เดือน (เมษายน 2553 - มิถุนายน 2554) และคาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ภายในระยะเวลา 6 เดือน โดยจะเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ และรับรู้รายได้ ในไตรมาส 3 ของปี 2554 และคาดว่าจะมีกำไรเบื้องต้นจากโครงการดังกล่าวประมาณ 30%
ด้านนายธนเดช คุพวงศ์ กรรมการ บริษัท เมโทรสตาร์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติเป็นเอกฉันท์อนุมัติให้ จำหน่ายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างตามมติที่ประชุมคณะกรรมการ ครั้งที่ 1/2553 เมื่อวันที่ 6 มกราคม53 ซึ่งประกอบด้วยโฉนดที่ดิน ตั้งอยู่ที่ ถนนพหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตบางเขน (บางซื่อ)กรุงเทพมหานคร รวมจำนวน 10 แปลง เนื้อที่ดินรวม 5,921 ตารางวา ให้แก่บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) โดยบริษัทได้มีการเจรจาขายบริษัท แอล.พี.เอ็น.ฯ เพื่อขายที่ดินดังลก่าวตั้งแต่เดือนธ.ค. 52 - ม.ค. 53
โดยรายได้ที่ได้จากการขายที่ดินทั้ง 10 แปลงดังกล่าวนั้น บริษัทจะนำไปใช้เป็นแหล่งเงินทุน และเงินทุนหมุนเวียนเพื่อเพิ่มสภาพคล่องในการดำเนินงานและพัฒนาโครงการต่างๆ ของบริษัทฯ เพื่อสร้างรายได้ในอนาคต และนำไปชำหนี้เงินกู้เพื่อลดภาระดอกเบี้ย ซึ่งจะทำให้ผลประกอบการบริษัทได้ดีขึ้น และการชำระหนี้สินต่อสถาบันการเงิน จะทำให้หนี้สินลดลง และทำให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนลดลงด้วย
ทั้งนี้ สาเหตที่คณะกรรมการบริหารบริษัทลงมติอนุมัติให้ขายที่ดินทั้ง10แปลงดังกล่าวนั้น เนื่องจากเห็นว่า ปัจจุบันเป็นช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจยังคงชะลอตัว การขายที่ดินราคาดังกล่าวถือว่าเป็นราคาที่เหมาะสมและเป็นประโยชน์ต่อบริษัทฯ ในการนำเงินมาชำระหนี้ให้กับสถาบันการเงินบางส่วน และเป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อการดำเนินงานและพัฒนาโครงการของบริษัทฯ ลดภาระดอกเบี้ยเงินกู้ เพื่อให้บริษัทฯ ได้รับผลประโยชน์สูงสุด
สำหรับที่ดินแปลงดังกล่าว เดิมบริษัทมีแผนที่จะพัฒนาเป็นโครงการที่อยู่อาศัย ภายใต้ชื่อโครงการเมโทร อเวนิว รัชโยธินแต่ เนื่องจากภาวะทางเศรษฐกิจที่ถดถอยทั่วโลกตั้งแต่ปี 2551 บริษัทฯ จึงชะลอการก่อสร้างโครงการตั้งแต่ต้นปี 2552 จนถึงปัจจุบันและยังไม่มีความคืบหน้าในการก่อสร้างโครงการ ในขณะที่บริษัทมีปัญหาด้านสภาพคล่องด้านการเงินเพิ่มขึ้นทำห้บริษัทตัดสินใจขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวให้แก่ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ฯ
อนึ่งก่อนหน้านี้ เมโทร ได้ขายที่ดินเลียบถนนสาทร จำนวน 4 ไร่ คิดเป็นมูลค่า 1,400 ล้านบาท ให้แก่บริษัท อเมริกันอินเตอร์เนชั่นแนลแอสชัวรันส์ จำกัด (เอไอเอ) เพื่อนำไปพัฒนาเป็นอาคารสำนักงานใหญ่
นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 7 ม.ค. 53 ที่ผ่านมาบริษัทได้ซื้อที่ดินจำนวน 5,921 ตารางวา มูลค่า 680.915 ล้านบาท จากบริษัท เมโทรสตาร์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เพื่อนำมาพัฒนาโครงการ ลุมพินีเพลส รัชโยธิน โดยโครงการดังกล่าวจะพัฒนาเป็นโครงการอาคารชุดพักอาศัย สูง 22 ชั้น จำนวน 4 อาคาร จำนวนยูนิต 1,964 ยูนิต มูลค่าขายรวมประมาณ 3,000 ล้านบาท ใช้ระยะเวลาในการพัฒนา ประมาณ 15 เดือน (เมษายน 2553 - มิถุนายน 2554) และคาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ภายในระยะเวลา 6 เดือน โดยจะเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ และรับรู้รายได้ ในไตรมาส 3 ของปี 2554 และคาดว่าจะมีกำไรเบื้องต้นจากโครงการดังกล่าวประมาณ 30%
ด้านนายธนเดช คุพวงศ์ กรรมการ บริษัท เมโทรสตาร์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติเป็นเอกฉันท์อนุมัติให้ จำหน่ายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างตามมติที่ประชุมคณะกรรมการ ครั้งที่ 1/2553 เมื่อวันที่ 6 มกราคม53 ซึ่งประกอบด้วยโฉนดที่ดิน ตั้งอยู่ที่ ถนนพหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตบางเขน (บางซื่อ)กรุงเทพมหานคร รวมจำนวน 10 แปลง เนื้อที่ดินรวม 5,921 ตารางวา ให้แก่บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) โดยบริษัทได้มีการเจรจาขายบริษัท แอล.พี.เอ็น.ฯ เพื่อขายที่ดินดังลก่าวตั้งแต่เดือนธ.ค. 52 - ม.ค. 53
โดยรายได้ที่ได้จากการขายที่ดินทั้ง 10 แปลงดังกล่าวนั้น บริษัทจะนำไปใช้เป็นแหล่งเงินทุน และเงินทุนหมุนเวียนเพื่อเพิ่มสภาพคล่องในการดำเนินงานและพัฒนาโครงการต่างๆ ของบริษัทฯ เพื่อสร้างรายได้ในอนาคต และนำไปชำหนี้เงินกู้เพื่อลดภาระดอกเบี้ย ซึ่งจะทำให้ผลประกอบการบริษัทได้ดีขึ้น และการชำระหนี้สินต่อสถาบันการเงิน จะทำให้หนี้สินลดลง และทำให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนลดลงด้วย
ทั้งนี้ สาเหตที่คณะกรรมการบริหารบริษัทลงมติอนุมัติให้ขายที่ดินทั้ง10แปลงดังกล่าวนั้น เนื่องจากเห็นว่า ปัจจุบันเป็นช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจยังคงชะลอตัว การขายที่ดินราคาดังกล่าวถือว่าเป็นราคาที่เหมาะสมและเป็นประโยชน์ต่อบริษัทฯ ในการนำเงินมาชำระหนี้ให้กับสถาบันการเงินบางส่วน และเป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อการดำเนินงานและพัฒนาโครงการของบริษัทฯ ลดภาระดอกเบี้ยเงินกู้ เพื่อให้บริษัทฯ ได้รับผลประโยชน์สูงสุด
สำหรับที่ดินแปลงดังกล่าว เดิมบริษัทมีแผนที่จะพัฒนาเป็นโครงการที่อยู่อาศัย ภายใต้ชื่อโครงการเมโทร อเวนิว รัชโยธินแต่ เนื่องจากภาวะทางเศรษฐกิจที่ถดถอยทั่วโลกตั้งแต่ปี 2551 บริษัทฯ จึงชะลอการก่อสร้างโครงการตั้งแต่ต้นปี 2552 จนถึงปัจจุบันและยังไม่มีความคืบหน้าในการก่อสร้างโครงการ ในขณะที่บริษัทมีปัญหาด้านสภาพคล่องด้านการเงินเพิ่มขึ้นทำห้บริษัทตัดสินใจขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวให้แก่ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ฯ
อนึ่งก่อนหน้านี้ เมโทร ได้ขายที่ดินเลียบถนนสาทร จำนวน 4 ไร่ คิดเป็นมูลค่า 1,400 ล้านบาท ให้แก่บริษัท อเมริกันอินเตอร์เนชั่นแนลแอสชัวรันส์ จำกัด (เอไอเอ) เพื่อนำไปพัฒนาเป็นอาคารสำนักงานใหญ่