เจ้าพ่อคอนโดฯ คาดการณ์ตลาดอสังหาฯ ปี 53 โครงการแนวรถไฟฟ้ายังได้รับความนิยม "บิ๊กจัดสรร" ยอมรับปี 52 อานิสงส์นโยบายภาครัฐ ทำภาพรวมขยายตัวได้ 4-5%
นายธำรง ปัญญาสกุลวงศ์ อุปนายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่า โครงการอาคารชุดในปีหน้าเชื่อว่าโครงการใหม่จะชะลอลง เนื่องจากปีนี้มีโครงการใหม่ๆ ที่อยู่ตามสายทางแนวก่อสร้างรถไฟฟ้าเกิดขึ้นจำนวนมาก และจากข้อมูลของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ พบว่าขณะนี้มีโครงการอาคารชุดที่ก่อสร้างแล้วเสร็จและไม่มีที่อยู่อาศัยหลายหมื่นยูนิต ขณะที่ความต้องการซื้อของประชาชน เชื่อว่าโครงการที่อยู่ในแนวรถไฟฟ้ายังได้รับความนิยม โดยมีราคาเฉลี่ย 2-3 ล้านบาทต่อยูนิต
สำหรับผลสำรวจของศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ ปีนี้ พบว่าจำนวนโครงการที่อยู่อาศัยก่อสร้างทั้งหมด แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 939 โครงการ ขณะนี้ขายไปแล้วกว่า 100,000 ยูนิต ส่วนโครงการอาคารชุด 248 โครงการ ขายไปแล้ว 73,000 ยูนิต
นายอิสระ บุญยัง นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร เปิดเผยว่า ภาพรวมของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปี 2552 ถือว่าขยายตัวได้เฉลี่ยร้อยละ 4-5 เพราะได้รับอานิสงส์จากนโยบายของภาครัฐที่ได้ต่อมาตรการภาษี ทั้งภาษีธุรกิจเฉพาะ ค่าจดจำนอง และค่าธรรมเนียมการโอน แม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศจะไม่ดี แต่ในปี 2553 ตัวแปรสำคัญที่จะบอกถึงทิศทางธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะอยู่ที่ปัจจัยการเมือง หากไม่มีปัญหาเชื่อว่าสัญญาณทางเศรษฐกิจที่ปรับขึ้นหลายตัว เช่น ท่องเที่ยว ส่งออก การจ้างงานในประเทศ จะมีส่วนเกื้อหนุนกำลังซื้อในภาคอสังหาริมทรัพย์ให้กลับมาฟื้นตัวชัดเจน
นอกจากนี้ หากมีการต่ออายุมาตรการทางด้านภาษีที่เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ที่จะหมดอายุในเดือนมีนาคมีปน้า ก็จะส่งผลดีต่อภาคธุรกิจอสังหาฯ อย่างมาก และจะครอบคลุมถึงธุรกิจต่อเนื่องอื่นๆ อีกมากมาย และหากทั้งสองปัจจัยผ่านไปด้วยดี เชื่อว่าภาคธุรกิจอสังหาฯ ปีหน้าจะโตได้มากกว่าร้อยละ 5
นายธำรง ปัญญาสกุลวงศ์ อุปนายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่า โครงการอาคารชุดในปีหน้าเชื่อว่าโครงการใหม่จะชะลอลง เนื่องจากปีนี้มีโครงการใหม่ๆ ที่อยู่ตามสายทางแนวก่อสร้างรถไฟฟ้าเกิดขึ้นจำนวนมาก และจากข้อมูลของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ พบว่าขณะนี้มีโครงการอาคารชุดที่ก่อสร้างแล้วเสร็จและไม่มีที่อยู่อาศัยหลายหมื่นยูนิต ขณะที่ความต้องการซื้อของประชาชน เชื่อว่าโครงการที่อยู่ในแนวรถไฟฟ้ายังได้รับความนิยม โดยมีราคาเฉลี่ย 2-3 ล้านบาทต่อยูนิต
สำหรับผลสำรวจของศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ ปีนี้ พบว่าจำนวนโครงการที่อยู่อาศัยก่อสร้างทั้งหมด แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 939 โครงการ ขณะนี้ขายไปแล้วกว่า 100,000 ยูนิต ส่วนโครงการอาคารชุด 248 โครงการ ขายไปแล้ว 73,000 ยูนิต
นายอิสระ บุญยัง นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร เปิดเผยว่า ภาพรวมของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปี 2552 ถือว่าขยายตัวได้เฉลี่ยร้อยละ 4-5 เพราะได้รับอานิสงส์จากนโยบายของภาครัฐที่ได้ต่อมาตรการภาษี ทั้งภาษีธุรกิจเฉพาะ ค่าจดจำนอง และค่าธรรมเนียมการโอน แม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศจะไม่ดี แต่ในปี 2553 ตัวแปรสำคัญที่จะบอกถึงทิศทางธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะอยู่ที่ปัจจัยการเมือง หากไม่มีปัญหาเชื่อว่าสัญญาณทางเศรษฐกิจที่ปรับขึ้นหลายตัว เช่น ท่องเที่ยว ส่งออก การจ้างงานในประเทศ จะมีส่วนเกื้อหนุนกำลังซื้อในภาคอสังหาริมทรัพย์ให้กลับมาฟื้นตัวชัดเจน
นอกจากนี้ หากมีการต่ออายุมาตรการทางด้านภาษีที่เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ที่จะหมดอายุในเดือนมีนาคมีปน้า ก็จะส่งผลดีต่อภาคธุรกิจอสังหาฯ อย่างมาก และจะครอบคลุมถึงธุรกิจต่อเนื่องอื่นๆ อีกมากมาย และหากทั้งสองปัจจัยผ่านไปด้วยดี เชื่อว่าภาคธุรกิจอสังหาฯ ปีหน้าจะโตได้มากกว่าร้อยละ 5