สภาพัฒน์ แถลงจีดีพีไตรมาส 3/52 ติดลบ 2.8% คาดทั้งปีติดลบไม่เกิน 3% ส่วนแนวโน้มปี 53 คาดโตได้ 3-4% พร้อมประเมินการส่งออกปี 53 เติบโตได้ 10% และนำเข้าเติบโต 18.5% ด้านประธาน ส.อ.ท.ห่วงปัจจัยลบ ทั้งราคาน้ำมัน การเมือง และมาบตาพุด
นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ แถลงตัวเลขผลผลิตมวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 ปี 2552 ติดลบ 2.8% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ขยายตัวเป็นบวก 1.3% เมื่อเทียบไตรมาสก่อนหน้า
สภาพัฒน์ มองว่า เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวอย่างชัดเจน โดยจีดีพีเทียบปีต่อปีติดลบน้อยลง หลังจากจีดีพีเติบโตไตรมาสต่อไตรมาส มาสอย่างต่อเนื่องติดต่อกัน และยังคาดว่าไตรมาส 4 ปี 2552 จีดีพีจะฟื้นมาขยายตัวเป็นบวกที่ 2.7-3.2% ทำให้คาดว่า ทั้งปี 2552 จีดีพีอาจะติดลบน้อยกว่า 3% จากเดิมที่คาดไว้ว่าจะติดลบ 3.0-3.5%
หลังจากนั้น คาดว่า ในปี 2553 จีดีพีน่าจะขยายตัวได้ 3-4% โดยแรงขับเคลื่อนหลักยังมาจากการลงทุนภาครัฐภายใต้โครงการไทยเข้มแข็ง
“มองว่า ตลอดทั้งปี 2552 เราคาดว่าจะติดลบ ประมาณ 3% ซึ่งถือว่าน้อยลงกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ต้นปีว่าจะติดลบ 4% แต่ทั้งนี้จีดีพี ปี 2552 ยังมีโอกาสที่จะติดลบน้อยกว่า 3% ได้ ถ้าการส่งออกและการท่องเที่ยวเติบโตอย่างต่อเนื่อง”
นายอำพน กล่าวว่า เครื่องชี้สำคัญที่แสดงเห็นการฟื้นตัวเศรษฐกิจต่อเนื่องในช่วงหลังปี 2552 และในปี 2553 มาจาก 5 ปัจจัยหลัก อัตราการใช้กำลังการผลิตในภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นเป็น 64.7% ในเดือนกันยายน 2552 จำนวนผู้ว่างงานลดลงต่อเนื่อง เหลือ 458,000 คนในเดือนกันยายน 2552 จาก 878,000 คน ในเดือนมกราคม 2552
ส่วนการท่องเที่ยวที่เริ่มฟื้นตัวขึ้น และคาดว่า จำนวนนักท่องเที่ยวจะเพิ่มมากขึ้นชัดเจนในไตรมาส 4 ปี 2552, การส่งออกเริ่มฟื้นตัวขึ้น โดยเดือนตุลาคม 2552 การส่งออกติดลบเพียง 3% ขณะที่ราคาสินค้าเกษตรปรับเพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ทั้งนี้ เชื่อว่าไตรมาส 4 ปี 2552 จีดีพีจะกลับมาขยายตัวเป็นบวก จากการปรับตัวดีขึ้นของภาคการส่งออก การท่องเที่ยว การบริโภค และการลงทุนภาครัฐ
ด้าน นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวถึงตัวเลขจีดีพีของสภาพัฒน์ ไตรมาส 3 ปี 2552 ที่ออกมาติดลบ 2.8% นั้น ถือว่า การติดลบผ่อนคลายลงมาก ทำให้ภาคเอกชนเกิดความเชื่อมั่นมากขึ้น
“มั่นใจว่า ช่วงไตรมาส 4 ปี 2552 จะพลิกกลับมาขยายตัวเป็นบวกที่ระดับ 2-3% ซึ่งจะเห็นได้จากดัชนีภาคอุตสาหกรรมในเดือนตุลาคม 2552 ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่วนจีดีพีในปี 2553 ที่ สศช.คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 3-4% นั้นถือว่าเป็นระดับที่เหมาะสมแล้ว”
ส่วนปัจจัยที่ภาคเอกชนมีความกังวล ได้แก ความผันผวนของราคาน้ำมัน สถานการณ์ทางการเมือง และปัญหามาบตาพุด ซึ่งหากแต่ละเรื่องไม่มีความรุนแรง ก็จะช่วยสนับสนุนให้จีดีพีขยายตัวเพิ่มขึ้นได้อีก
