“ เซ็นทรัล ” กินแห้วต่อ ยังไม่ได้เข้าพัฒนาพื้นที่สวนลุมไนท์บาซาร์ หลังพี.คอน.ร้องศาลอุทธรณ์ต่อ คาดพิพากษาเร็วๆ นี้ สำนักงานทรัพย์สินฯ หวังยืนตามศาลชั้นต้นให้ออกนอกพื้นที่ เผยไม่มีนโยบายขับไล่ผู้เช่าอยู่อาศัย หากหมดสัญญาพร้อมต่ออายุ
นายสมบูรณ์ ชัยเดชสุริยะ หัวหน้าฝ่ายอาวุโส ฝ่ายโครงการพิเศษสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการพัฒนาที่ดินโรงเรียนเตรียมทหารเก่า หรือสวนลุมไนท์ บาซาร์ ซึ่งมีปัญหาการขับไล่บริษัทคู่สัญญาเดิม คือ บริษัท พี.คอน.ดีเวลลอปเม้นท์ (ไทย) จำกัด ว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของศาลอุทธรณ์ หลังจากที่ศาลชั้นต้นได้ตัดสินให้บริษัทพี.คอน.ออกนอกพื้นที่ แต่ทางบริษัทฯได้ยื่นศาลอุทธรณ์ต่อ คาดว่าจะตัดสินพิพากษาในเร็วๆนี้
“ หากศาลอุทธรณ์ยืนตามศาลชั้นต้น และพี.คอน.ฯ ไม่ยื่นฎีกาฯ ทางกลุ่มเซ็นทรัลฯ ในฐานะผู้ชนะการประมูลรายใหม่ ก็สามารถเข้าใช้พื้นที่ได้ทันทีเพราะเตรียมความพร้อมไว้แล้ว ”
ทั้งนี้หากพี.คอน.ฯ ยื่นร้องศาลฏีกาฯต่อ จะต้องใช้เวลาต่อไปอีกสักระยะหนึ่ง จนกว่าจะพิพากษา แต่เชื่อว่าจะไม่ใช้เวลานานเหมือนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม กรณีเข้าใช้พื้นที่ล่าช้านั้น กลุ่มเซ็นทรัลฯและสำนักงานทรัพย์สินฯ ได้ทำข้อตกลงเบื้องต้นแล้วว่า หากมีข้อพิพาทระหว่างผู้เช่าเดิม กลุ่มเซ็นทรัลฯ ก็จะไม่เรียกร้องความเสียหายจากสำนักงานทรัพย์สินฯ และพร้อมที่จะรอให้ผู้เช่าเดิมออกจากพื้นที่
อนึ่ง ที่ดินบริเวณโรงเรียนเตรียมทหาร (เดิม) หรือสวนลุมไนท์ บาซาร์ ตั้งอยู่บนพื้นที่ 127 ไร่ ทางสำนักงานทรัพย์สินฯ ได้แบ่งพื้นที่สำหรับการพัฒนาออกเป็น 3 ส่วน คือ ส่วนของพื้นที่สถานทูต อีกส่วนหนึ่งแบ่งไว้สำหรับการพัฒนาในอนาคต และส่วนที่เป็นพื้นที่ทางการค้าที่จำนวน 40 ไร่ ที่เปิดให้เอกชนเข้ามาประมูล โดยมีบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือCPN เป็นผู้ชนะการประมูลไปตั้งแต่ปี 2550
อย่างไรก็ตาม พื้นที่ดังกล่าว เดิมสำนักงานทรัพย์สินฯได้ให้บริษัท พี.คอน ดี เวลลอปเม้นท์ (ไทย) จำกัด เป็นผู้เช่า เพื่อพัฒนาโครงการค้าขายภายใต้ชื่อ สวนลุมไนท์บาซาร์ แต่สิ้นสุดลงแล้วตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม 2549 ขณะที่มีผู้ค้ารายย่อยที่บริษัท พี.คอนฯ ได้จัดสรรพื้นที่ให้เช่าบางส่วน ไม่ทราบข้อเท็จจริง ว่าโครงการสวนลุมไนท์บาร์ซาร์จะต้องปิดตัวลง จึงยังคงชำระค่าเช่าต่อเนื่อง สำนักงานทรัพย์สินฯ จึงได้ ผ่อนผันระยะเวลาส่งมอบพื้นที่เพิ่มขึ้นอีก 1 ปี กำหนดระยะเวลาสิ้นสุดในวัน ที่ 1 เม.ย. 2550 ที่ผ่านมา เพื่อให้ผู้ค้ารายย่อยได้หาพื้นที่ค้าขายแห่งใหม่ แต่พี.คอน.ยังคงไม่ออกจากพื้นที่จึงได้ฟ้องร้องขับไล่ดังกล่าว.
สำหรับที่ดินเชิงพาณิชย์อื่นๆ ขณะนี้อยู่ระหว่างนำมาจัดประโยชน์เพื่อให้เอกชนนำไปเช่าพัฒนาต่อสร้างมูลค่าเพิ่ม แต่จะต้องไม่มีปัญหาเรื่องผู้เช่าเดิม ปัจจุบันมีไม่กี่แห่ง เช่น โครงการบางกอก พลาซ่า ย่านราชดำริห์ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างผู้เช่าเดิมหมดสัญญาเช่าจึงจะนำให้เอกชนประมูลเข้าใช้พื้นที่ ส่วนที่ดินย่านบางลำพู ถนนข้าสาร ปัจจุบันยังไม่มีนโยบายจะให้เอกชนนำไปทำศูนย์การค้าหรือเชิงพาณิชย์อื่น ต้องรอการพัฒนาโครงการถนนราชดำเนินก่อน เพื่อให้การพัฒนาสอดคล้องกัน
ส่วนการขึ้นค่าเช่าพื้นที่ของสำนักงานทรัพย์นั้น ขณะนี้ยังไม่มีนโยบายปรับขึ้นแต่อย่างใด ส่วนผู้เช่าเพื่ออยู่อาศัยหากหมดสัญญาเช่าก็ยินดีให้ต่อสัญญา
นายสมบูรณ์ ชัยเดชสุริยะ หัวหน้าฝ่ายอาวุโส ฝ่ายโครงการพิเศษสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการพัฒนาที่ดินโรงเรียนเตรียมทหารเก่า หรือสวนลุมไนท์ บาซาร์ ซึ่งมีปัญหาการขับไล่บริษัทคู่สัญญาเดิม คือ บริษัท พี.คอน.ดีเวลลอปเม้นท์ (ไทย) จำกัด ว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของศาลอุทธรณ์ หลังจากที่ศาลชั้นต้นได้ตัดสินให้บริษัทพี.คอน.ออกนอกพื้นที่ แต่ทางบริษัทฯได้ยื่นศาลอุทธรณ์ต่อ คาดว่าจะตัดสินพิพากษาในเร็วๆนี้
“ หากศาลอุทธรณ์ยืนตามศาลชั้นต้น และพี.คอน.ฯ ไม่ยื่นฎีกาฯ ทางกลุ่มเซ็นทรัลฯ ในฐานะผู้ชนะการประมูลรายใหม่ ก็สามารถเข้าใช้พื้นที่ได้ทันทีเพราะเตรียมความพร้อมไว้แล้ว ”
ทั้งนี้หากพี.คอน.ฯ ยื่นร้องศาลฏีกาฯต่อ จะต้องใช้เวลาต่อไปอีกสักระยะหนึ่ง จนกว่าจะพิพากษา แต่เชื่อว่าจะไม่ใช้เวลานานเหมือนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม กรณีเข้าใช้พื้นที่ล่าช้านั้น กลุ่มเซ็นทรัลฯและสำนักงานทรัพย์สินฯ ได้ทำข้อตกลงเบื้องต้นแล้วว่า หากมีข้อพิพาทระหว่างผู้เช่าเดิม กลุ่มเซ็นทรัลฯ ก็จะไม่เรียกร้องความเสียหายจากสำนักงานทรัพย์สินฯ และพร้อมที่จะรอให้ผู้เช่าเดิมออกจากพื้นที่
อนึ่ง ที่ดินบริเวณโรงเรียนเตรียมทหาร (เดิม) หรือสวนลุมไนท์ บาซาร์ ตั้งอยู่บนพื้นที่ 127 ไร่ ทางสำนักงานทรัพย์สินฯ ได้แบ่งพื้นที่สำหรับการพัฒนาออกเป็น 3 ส่วน คือ ส่วนของพื้นที่สถานทูต อีกส่วนหนึ่งแบ่งไว้สำหรับการพัฒนาในอนาคต และส่วนที่เป็นพื้นที่ทางการค้าที่จำนวน 40 ไร่ ที่เปิดให้เอกชนเข้ามาประมูล โดยมีบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือCPN เป็นผู้ชนะการประมูลไปตั้งแต่ปี 2550
อย่างไรก็ตาม พื้นที่ดังกล่าว เดิมสำนักงานทรัพย์สินฯได้ให้บริษัท พี.คอน ดี เวลลอปเม้นท์ (ไทย) จำกัด เป็นผู้เช่า เพื่อพัฒนาโครงการค้าขายภายใต้ชื่อ สวนลุมไนท์บาซาร์ แต่สิ้นสุดลงแล้วตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม 2549 ขณะที่มีผู้ค้ารายย่อยที่บริษัท พี.คอนฯ ได้จัดสรรพื้นที่ให้เช่าบางส่วน ไม่ทราบข้อเท็จจริง ว่าโครงการสวนลุมไนท์บาร์ซาร์จะต้องปิดตัวลง จึงยังคงชำระค่าเช่าต่อเนื่อง สำนักงานทรัพย์สินฯ จึงได้ ผ่อนผันระยะเวลาส่งมอบพื้นที่เพิ่มขึ้นอีก 1 ปี กำหนดระยะเวลาสิ้นสุดในวัน ที่ 1 เม.ย. 2550 ที่ผ่านมา เพื่อให้ผู้ค้ารายย่อยได้หาพื้นที่ค้าขายแห่งใหม่ แต่พี.คอน.ยังคงไม่ออกจากพื้นที่จึงได้ฟ้องร้องขับไล่ดังกล่าว.
สำหรับที่ดินเชิงพาณิชย์อื่นๆ ขณะนี้อยู่ระหว่างนำมาจัดประโยชน์เพื่อให้เอกชนนำไปเช่าพัฒนาต่อสร้างมูลค่าเพิ่ม แต่จะต้องไม่มีปัญหาเรื่องผู้เช่าเดิม ปัจจุบันมีไม่กี่แห่ง เช่น โครงการบางกอก พลาซ่า ย่านราชดำริห์ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างผู้เช่าเดิมหมดสัญญาเช่าจึงจะนำให้เอกชนประมูลเข้าใช้พื้นที่ ส่วนที่ดินย่านบางลำพู ถนนข้าสาร ปัจจุบันยังไม่มีนโยบายจะให้เอกชนนำไปทำศูนย์การค้าหรือเชิงพาณิชย์อื่น ต้องรอการพัฒนาโครงการถนนราชดำเนินก่อน เพื่อให้การพัฒนาสอดคล้องกัน
ส่วนการขึ้นค่าเช่าพื้นที่ของสำนักงานทรัพย์นั้น ขณะนี้ยังไม่มีนโยบายปรับขึ้นแต่อย่างใด ส่วนผู้เช่าเพื่ออยู่อาศัยหากหมดสัญญาเช่าก็ยินดีให้ต่อสัญญา
