xs
xsm
sm
md
lg

มูลค่าตลาดเพิ่มเท่าตัวแตะ12ล.ล้านตลท.ฟุ้งเข้าเป้าปี56

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์ฯ ยันมาร์เกตแคปตลาดหลักทรัพย์ฯ เพิ่มขึ้นเท่าตัวในปี 56 หรือแตะ 12 ล้านล้านบาท จากเดินหน้าตามแผนพัฒนาตลาดทุนไทย เพิ่มจำนวนบริษัทใหม่เข้าจดทะเบียน เฟ้นบริษัทมีมูลค่าตลาดมากกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐเพิ่มเป็น 40 แห่ง เพิ่มสินค้าใหม่ 11 ประเภท ให้มีมูลค่า 50% ของมูลค่าการลงทุนในหุ้น-ตราสารหนี้ ขยายฐานักลงทุน -โครงการไทยเข้มแข็งหนุนเศรษฐกิจไทยเติบโต

นายวิรไท สันติประภพ รองผู้จัดการ สายงานพัฒนาและวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า แผนพัฒนาตลาดทุนไทยใน 5 ปีข้างหน้า (2552-2556) โดยหากมีการดำเนินการตามแผนดังกล่าว จะทำให้ในปี 2556 มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เกตแคป)ของตลาดหลักทรัพย์ จะเพิ่มขึ้น 1 เท่าตัว หรืออยู่ที่ประมาณ 12 ล้านล้านบาท จากปัจจุบันที่มาร์เกตแคป 5.4 ล้านล้านบาท เนื่องจากภาพเศรษฐกิจของประเทศจะมีการเติบโตเพิ่มขึ้นจากการที่รัฐบาลมีการจัดทำโครงการไทยเข้มแข็งเพื่อกระตุ้นให้เกิดมีการลงทุน และหนุนภาคเอกชนมีการลงทุนเพิ่ม

โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ มีแผนที่จะมีการเพิ่มบริษัทเข้ามาจดทะเบียนให้มากขึ้น ด้วยการนำบริษัทลูกของบริษัทรัฐวิสาหกิจ เข้ามาจดทะเบียนและนำบริษัทจดทะเบียนต่างประเทศเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย และเพิ่มจำนวนบริษัทที่มีมูลค่าตลาดมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเพิ่มเป็น 40 บริษัท จากปี 2551 ที่มี 20 บริษัท โดยตั้งเป้าว่าจะมีผู้เข้ามาระดมทุนในตลาดทุนไทย ซึ่งรวมจำนวนบริษัทจดทะเบียน บริษัทที่เคยออกตราสารหนี้ และจำนวนบริษัทที่นิติบุคคลร่วมนำเงินไปลงทุนเฉลี่ย 5 ปี โต 7%ต่อปี จากปี 2551 ที่มีจำนวน 668 บริษัท

ขณะเดียวกัน การเพิ่มสินค้าใหม่ในตลาดหุ้นไทยเป็น 11 ประเภท และเพิ่มมูลค่าการซื้อขายของฟิวเจอร์ส ออปชั่น ใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (DW) สตรัคเจอร์โน๊ต และเพิ่มมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุนอีทีเอฟ(ETF)ให้มีสัดส่วนเพิ่มเป็น 50% ของมูลค่าการลงุทนในหุ้นและตราสารหนี้ จากปี 2551 ที่มีสัดส่วน 13% รวมถึงการเพิ่มจำนวนนักลงทุนในตลาดหุ้นไทยทั้งลงทุนในหุ้นโดยตรงลงทุนผ่านกองทุนรวมให้มีสัดส่วนเพิ่มเป็น 5% ของจำนวนประชากร จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนเพียง 2.4%

“ส่วนตัวมองว่ามาร์เกตแคปของตลาดหุ้นไทยในปี 2556 จะสามารถอยู่ที่ 12 ล้านล้านบาท หากมีการดำเนินการตามแผนพัฒนาตลาดทุนไทย จากการเพิ่มจำนวนบริษัทใหม่เข้ามาจดทะเบียน นำบริษัทลูกของรัฐวิสาหกิจเข้ามาจดทะเบียน นำบริษัทต่างประเทศเข้ามาจดทะเบียน เพิ่มสินค้าใหม่ ขขายฐานนักลงทุนที่ผ่านมาเศรษฐกิจไทยโตช้าจากวัฎจักรการลงทุนที่น้อย ไม่มั่นใจ และจากการที่มีโครงการไทยเข้มแข็งที่เน้นในการกระตุ้นการลงทุนให้เกิดขึ้นซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจเติบโตได้ ”นาย วิรไท กล่าว

นายวิรไท กล่าวว่า การแก้ไขพระราชบัญญัติ เพื่อรองรับการปฏิรูปของตลาดหลักทรัพย์ฯให้เป็นบริษัทจำกัด มหาชนนั้น คาดว่าจะสามารถแก้ไขกฎหมายได้ภายใน1 ปี โดยหากการแก้ไขกฎหมายผ่าน ตลาดหลักทรัพย์ฯมีเวลา 6 เดือนในการดำเนินการจดทะเบียนเป็นบริษัทจำกัด มหาชน การดำเนินการกำหนดสัดส่วนผู้ที่จะเข้ามาถือหุ้น ว่าจะมีใครบ้าง จัดการทรัพย์สินของตลาดหลักทรัพย์ โดยมีการแยกเงินที่จะอยู่ในกองทุนพัฒนาตลาดทุน (CMDF) ซึ่งหากเร็วที่สุดที่ตลาดหลักทรัพย์ฯจะมีการเข้าจดทะเบียนในปลายปี 2553 หรือ ปี2554 ซึ่งส่วนตัวมองว่าความเป็นไปได้ที่จะเข้าจดทะเบียนของตลาดหลักทรัพย์ฯจะเป็นปี 2554
กำลังโหลดความคิดเห็น