“ตระกูลจรณะจิตต์” หนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่อิตัลไทยฯ-เครืออมารีกลุ่มธุรกิจโรงแรมใหญ่ ดันบริษัทอมารี เอ็ซเททฯ รุกตลาดอสังหาฯ ประกาศนโยบายมิกซ์ยูส พัฒนาที่อยู่อาศัยผสมผสานโรงแรมควบคู่กัน เปิดขุมทรัพย์แลนด์แบงก์ ภูเก็ต สมุย 3-4 แห่ง เล็งผุดโครงการใหม่คอนโด-โรงแรม พร้อมดึงเชนกลุ่ม อมารี โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ทฯเข้าบริหาร เผยแผนรีแบรนด์ “อมารี เตรียมซื้อโรงแรงต่างประเทศปูทางสร้าง แบรนด์ วางเป้า 9 ปี รายได้จากธุรกิจบริการโรงแรม 12,500 ล้านบาท
นายยุทธชัย จรณะจิตต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อมารี เอ็ซเทท จำกัด เปิดเผยว่า ตระกูลจรณะจิตต์ เป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นรายใหญ่ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD บริษัท ศักดิ์สินประสิทธิ์ จำกัด และ บริษัท Hotl จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของและเป็นบริษัทจัดการบริหารงานโรงแรม โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ กลุ่มบริษัท อมารี โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด ได้จดทะเบียนก่อตั้งบริษัท อมารี เอ็ซเทท จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน400ล้านบาท ชำระแล้ว 25% เพื่อเข้ามาดำเนินธุรกิจด้านการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์อย่างเป็นทางการ
โดยบริษัท อมารีฯ ที่มีบริษัทศักดิ์สินประสิทธิ์ ซึ่งตระกูลจรณะจิตต์ ถือหุ้น99% เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่100% มีนโยบายการพัฒนาโครงการอสังหาฯที่ชัดเจนในรูปแบบการดำเนินธุรกิจ ซึ่งจะแบ่งการพัฒนาโครงการเป็น2 ส่วนในแต่ละโครงการ คือ ในส่วนของการพัฒนาโครงการเพื่อขาย และพัฒนาโครงการพัฒนาเพื่อเช่า ซึ่งเป็นการสร้างรายได้ระยะยาว ส่วนของการพัฒนาโครงการเพื่อขายนั้น จะดำเนินการในรูปแบบโครงการคอนโดฯ และโครงการเพื่อเช่า จะพัฒนาในรูปแบบธุรกิจโรงแรม
ทั้งนี้ แนวทางการพัฒนาโครงการเพื่อขายนั้น จะร่วมทุนกับกลุ่มพันธมิตร ในสัดส่วนไม่ ต่ำกว่า 20% เพื่อพัฒนาโครงการบนที่ดินของบริษัทพันธมิตร หรือที่ดินที่ซื้อเข้ามาพัฒนาร่วมกัน โดยขณะนี้ อมารีฯอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการใหม่ 1โครงการ และอยู่ระหว่างการออกแบบโครงการใหม่อีก 3โครงการ โดยโครงการแรกที่อยู่ระหว่างการพัฒนาคือ “อมารี เรสซิเดนซ์ หัวหิน ”มูลค่าการลงทุน 2,000 ล้านบาท ใช้แหล่งเงินกู้60% และเงินลงทุนของบริษัท 40%
ส่วนของการพัฒนาโครงการใหม่ อมารีฯจะมีการก่อตั้งบริษัทลูกขึ้นมาอีก 3 บริษัท เพื่อพัฒนาโครงการใน 3 ส่วนหลักๆ คือ โครงการที่อยู่อาศัยผสมผสานโรงแรมขนาด3ดาว ที่อยู่อาศัยผสมโรงแรม4ดาว และที่อยู่อาศัยผสมโรงแรม 5 ดาว ซึ่งขึ้นอยู่กับรูปแบบและทำเลของแต่ละแห่งที่พัฒนาว่าจะให้บริษัทใดเข้าไปพัฒนา ภายใต้การบริหารงานของ อมารีฯ ในขณะเดียวกัน บริษัทจะทำหน้าที่ในการพัฒนาโครงการคอนโดฯในแต่ละโครงการไปด้วย จึงมีแผนจะเพิ่มทุนจดทะเบียนในปีหน้าอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ในปีที่ผ่านมามีการเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 150 ล้านบาท เป็น 400 ล้านบาทไปแล้ว
***ขีดเส้น9ปีรายได้กลุ่มรร.กว่าหมื่นล้าน
นายยุทธชัยกล่าวว่า อย่างไรก็ตามในส่วนของการบริหารจัดการด้านโรงแรมนั้น บริษัทจะแต่งตั้งให้ กลุ่มบริษัท อมารี โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด เข้ามาบริหารจัดการให้ภายใต้ เชน “อมารี” โดยปัจจุบันมีโรงแรมที่อยู่ภายใต้การบริหาร18 แห่ง
ทั้งนี้รายได้จากการบริหารงานของกลุ่ม อมารี โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท จำกัดในปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 2,100ล้านบาท ส่วนปีนี้คาดว่าจะมีรายได้ในการบริหารประมาณ 2,200ล้านบาทจากเป้าที่วางไว้ทั้งสิ้น 2,500 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม กลุ่ม อมารี โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด ตั้งเป้าว่าในระยะ9ปีจากนี้ไปจะเพิ่มรายได้ของกลุ่มในธุรกิจโรงแรมให้ได้ 12,500 ล้านบาท
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการสร้างแบรนด์ของอมารีฯในต่างประเทศ กลุ่มอมารี โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ทฯ จะเข้าไปซื้อโครงการโรงแรม(เทกโอเวอร์)ในต่างประเทศก่อน 1 แห่ง เพื่อใช้เป็นฐานในการดำเนินธุรกิจและสร้างแบรนด์ของอมารีฯ
นายยุทธชัย จรณะจิตต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อมารี เอ็ซเทท จำกัด เปิดเผยว่า ตระกูลจรณะจิตต์ เป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นรายใหญ่ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD บริษัท ศักดิ์สินประสิทธิ์ จำกัด และ บริษัท Hotl จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของและเป็นบริษัทจัดการบริหารงานโรงแรม โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ กลุ่มบริษัท อมารี โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด ได้จดทะเบียนก่อตั้งบริษัท อมารี เอ็ซเทท จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน400ล้านบาท ชำระแล้ว 25% เพื่อเข้ามาดำเนินธุรกิจด้านการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์อย่างเป็นทางการ
โดยบริษัท อมารีฯ ที่มีบริษัทศักดิ์สินประสิทธิ์ ซึ่งตระกูลจรณะจิตต์ ถือหุ้น99% เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่100% มีนโยบายการพัฒนาโครงการอสังหาฯที่ชัดเจนในรูปแบบการดำเนินธุรกิจ ซึ่งจะแบ่งการพัฒนาโครงการเป็น2 ส่วนในแต่ละโครงการ คือ ในส่วนของการพัฒนาโครงการเพื่อขาย และพัฒนาโครงการพัฒนาเพื่อเช่า ซึ่งเป็นการสร้างรายได้ระยะยาว ส่วนของการพัฒนาโครงการเพื่อขายนั้น จะดำเนินการในรูปแบบโครงการคอนโดฯ และโครงการเพื่อเช่า จะพัฒนาในรูปแบบธุรกิจโรงแรม
ทั้งนี้ แนวทางการพัฒนาโครงการเพื่อขายนั้น จะร่วมทุนกับกลุ่มพันธมิตร ในสัดส่วนไม่ ต่ำกว่า 20% เพื่อพัฒนาโครงการบนที่ดินของบริษัทพันธมิตร หรือที่ดินที่ซื้อเข้ามาพัฒนาร่วมกัน โดยขณะนี้ อมารีฯอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการใหม่ 1โครงการ และอยู่ระหว่างการออกแบบโครงการใหม่อีก 3โครงการ โดยโครงการแรกที่อยู่ระหว่างการพัฒนาคือ “อมารี เรสซิเดนซ์ หัวหิน ”มูลค่าการลงทุน 2,000 ล้านบาท ใช้แหล่งเงินกู้60% และเงินลงทุนของบริษัท 40%
ส่วนของการพัฒนาโครงการใหม่ อมารีฯจะมีการก่อตั้งบริษัทลูกขึ้นมาอีก 3 บริษัท เพื่อพัฒนาโครงการใน 3 ส่วนหลักๆ คือ โครงการที่อยู่อาศัยผสมผสานโรงแรมขนาด3ดาว ที่อยู่อาศัยผสมโรงแรม4ดาว และที่อยู่อาศัยผสมโรงแรม 5 ดาว ซึ่งขึ้นอยู่กับรูปแบบและทำเลของแต่ละแห่งที่พัฒนาว่าจะให้บริษัทใดเข้าไปพัฒนา ภายใต้การบริหารงานของ อมารีฯ ในขณะเดียวกัน บริษัทจะทำหน้าที่ในการพัฒนาโครงการคอนโดฯในแต่ละโครงการไปด้วย จึงมีแผนจะเพิ่มทุนจดทะเบียนในปีหน้าอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ในปีที่ผ่านมามีการเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 150 ล้านบาท เป็น 400 ล้านบาทไปแล้ว
***ขีดเส้น9ปีรายได้กลุ่มรร.กว่าหมื่นล้าน
นายยุทธชัยกล่าวว่า อย่างไรก็ตามในส่วนของการบริหารจัดการด้านโรงแรมนั้น บริษัทจะแต่งตั้งให้ กลุ่มบริษัท อมารี โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด เข้ามาบริหารจัดการให้ภายใต้ เชน “อมารี” โดยปัจจุบันมีโรงแรมที่อยู่ภายใต้การบริหาร18 แห่ง
ทั้งนี้รายได้จากการบริหารงานของกลุ่ม อมารี โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท จำกัดในปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 2,100ล้านบาท ส่วนปีนี้คาดว่าจะมีรายได้ในการบริหารประมาณ 2,200ล้านบาทจากเป้าที่วางไว้ทั้งสิ้น 2,500 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม กลุ่ม อมารี โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด ตั้งเป้าว่าในระยะ9ปีจากนี้ไปจะเพิ่มรายได้ของกลุ่มในธุรกิจโรงแรมให้ได้ 12,500 ล้านบาท
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการสร้างแบรนด์ของอมารีฯในต่างประเทศ กลุ่มอมารี โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ทฯ จะเข้าไปซื้อโครงการโรงแรม(เทกโอเวอร์)ในต่างประเทศก่อน 1 แห่ง เพื่อใช้เป็นฐานในการดำเนินธุรกิจและสร้างแบรนด์ของอมารีฯ