บมจ.เกียรติธนาขนส่ง ปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งใหม่ เตรียมรับโอนกิจการทั้งหมดของ “เคมทรานส์” “เกียรติชัย มนต์เสรีนุสรณ์” เผย ผู้ถือหุ้นไม่ต้องกังวล งานนี้ไม่ทำให้โครงสร้างการบริหารและโครงสร้างการถือหุ้นเปลี่ยนแปลง อีกทั้งไม่ได้ใช้เงินจาก IPO เลย ระบุได้รับประโยชน์ 3 ต่อ คือ ช่วยประหยัดภาษีเงินได้นิติบุคคล ลดค่าใช้จ่ายที่ซ้ำซ้อนของการบริหารจัดการ และช่วยเพิ่มขนาดทรัพย์สินและธุรกิจของบริษัท ช่วยสร้างจุดแข็งในการเข้าร่วมประมูลงานในอนาคต
นายเกียรติชัย มนต์เสรีนุสรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เกียรติธนาขนส่ง จำกัด (มหาชน) หรือ KIAT เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัทจะมีการปรับโครงสร้างครั้งใหม่ โดยการรับโอนกิจการทั้งหมด (Entire Business Transfer: EBT) ของ บริษัท เคมทรานส์ จำกัด (ปัจจุบัน KIATถือหุ้น 100% ในเคมทรานส์) อย่างไรก็ตาม การรับโอนกิจการของ บริษัท เคมทรานส์ ในครั้งนี้KIAT จะต้องได้รับการอนุมัติจากที่ ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 2/2552 เพื่อดำเนินการรับโอนทรัพย์สิน หนี้สิน สิทธิหน้าที่และภาระผูกพันทั้งหมดที่มีอยู่ในปัจจุบันและที่จะมีในอนาคตจากเคมทรานส์ ซึ่งเป็นการปฏิบัติตาม พ.ร.บ.บริษัทมหาชน และ ข้อบังคับของบริษัท โดยจะมีขึ้น ในวันที่ 4 ธันวาคม 52
การปรับโครงสร้างใหม่ในครั้งนี้ เนื่องจาก KIAT เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็มเอไอ (mai) ซึ่งจะได้รับสิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็น 20% ของกำไรสุทธิ ตั้งแต่ปี 2553 เป็นระยะเวลา 3 รอบบัญชี ขณะที่ เคมทรานส์ ซึ่งมีฐานะเป็นบริษัทย่อยที่มีแนวโน้มเติบโตที่ดี แต่ไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีดังกล่าว จึงทำให้เคมทรานส์จะมีต้นทุนด้านภาษีสูงกว่า KIAT ซึ่งการโอนกิจการทั้งหมดของ เคมทรานส์ เป็นการรับโอนกิจการภายใต้การควบคุมเดียวกัน สามารถใช้ราคาโอนเป็นราคาตามบัญชีของ เคมทรานส์ ในเบื้องต้นคาดว่าจะเป็นวันที่ 21 ธันวาคม 2552 และคาดว่าจะเป็นวันที่ KIAT รับโอนกิจการ และเป็นวันที่ เคมทรานส์ จะยื่นคำขอจดทะเบียนเลิกบริษัทด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ KIAT สามารถใช้เงินสดจากการดำเนินงาน และ/หรือการออกตั๋วสัญญาใช้เงินมาจ่ายเพื่อการรับโอนกิจการของเคมทรานส์ ได้โดยไม่ต้องใช้เงินที่ได้รับจากขายเสนอขายหุ้นไอพีโอ และ เนื่องจาก เคมทรานส์ มีกำไรสะสมอยู่มาก ดังนั้น จึงมีแผนที่จะจ่ายเงินปันผลออกมาให้กับ KIAT ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้น ก่อนการโอนกิจการ
ปัจจุบันงบการเงินเคมทรานส์ ณ วันที่ 21 ธันวาคม 2552 จะมีส่วนของผู้ถือหุ้นลดลงเหลือใกล้เคียงกับ ทุนชำระแล้วรวมกับสำรองตามกฎหมายของเคมทรานส์ ซึ่งจะต่ำกว่าส่วนของผู้ถือหุ้นของเคมทรานส์ ณ 30 มิถุนายน 2552 ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวน 94 ล้านบาท
“ขอให้ผู้ถือหุ้นวางใจว่าการดำเนินการครั้งนี้ของ KIAT เพื่อให้เกิดผลประโยชน์สูงสุดกับบริษัท โดยภายหลังการรับโอนกิจการของเคมทรานส์ จะไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงต่ออำนาจการควบคุมและโครงสร้างการถือหุ้นแต่อย่างใด และการดำเนินการครั้งนี้ KIAT สามารถใช้เงินสดจากการดำเนินงาน หรือออกตั๋วสัญญาใช้เงินมาจ่ายเพื่อการรับโอนกิจการของเคมทรานส์ ได้โดยไม่ต้องใช้เงินที่ได้จากการขายหุ้น IPO”
สำหรับประโยชน์ที่ได้รับในครั้งนี้ คือ จะทำให้กลุ่มบริษัทสามารถประหยัดภาษีเงินได้นิติบุคคลในภาพรวม, ช่วยลดค่าใช้จ่ายที่ซ้ำซ้อนของการบริหารจัดการ และการรับโอนกิจการครั้งนี้จะเป็นการเพิ่มขนาดทรัพย์สิน และธุรกิจของบริษัท ในส่วนงบการเงินเฉพาะกิจการ ซึ่งจะเกิดประโยชน์ในการเข้าร่วมประมูลงานในอนาคต
นายเกียรติชัย มนต์เสรีนุสรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เกียรติธนาขนส่ง จำกัด (มหาชน) หรือ KIAT เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัทจะมีการปรับโครงสร้างครั้งใหม่ โดยการรับโอนกิจการทั้งหมด (Entire Business Transfer: EBT) ของ บริษัท เคมทรานส์ จำกัด (ปัจจุบัน KIATถือหุ้น 100% ในเคมทรานส์) อย่างไรก็ตาม การรับโอนกิจการของ บริษัท เคมทรานส์ ในครั้งนี้KIAT จะต้องได้รับการอนุมัติจากที่ ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 2/2552 เพื่อดำเนินการรับโอนทรัพย์สิน หนี้สิน สิทธิหน้าที่และภาระผูกพันทั้งหมดที่มีอยู่ในปัจจุบันและที่จะมีในอนาคตจากเคมทรานส์ ซึ่งเป็นการปฏิบัติตาม พ.ร.บ.บริษัทมหาชน และ ข้อบังคับของบริษัท โดยจะมีขึ้น ในวันที่ 4 ธันวาคม 52
การปรับโครงสร้างใหม่ในครั้งนี้ เนื่องจาก KIAT เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็มเอไอ (mai) ซึ่งจะได้รับสิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็น 20% ของกำไรสุทธิ ตั้งแต่ปี 2553 เป็นระยะเวลา 3 รอบบัญชี ขณะที่ เคมทรานส์ ซึ่งมีฐานะเป็นบริษัทย่อยที่มีแนวโน้มเติบโตที่ดี แต่ไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีดังกล่าว จึงทำให้เคมทรานส์จะมีต้นทุนด้านภาษีสูงกว่า KIAT ซึ่งการโอนกิจการทั้งหมดของ เคมทรานส์ เป็นการรับโอนกิจการภายใต้การควบคุมเดียวกัน สามารถใช้ราคาโอนเป็นราคาตามบัญชีของ เคมทรานส์ ในเบื้องต้นคาดว่าจะเป็นวันที่ 21 ธันวาคม 2552 และคาดว่าจะเป็นวันที่ KIAT รับโอนกิจการ และเป็นวันที่ เคมทรานส์ จะยื่นคำขอจดทะเบียนเลิกบริษัทด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ KIAT สามารถใช้เงินสดจากการดำเนินงาน และ/หรือการออกตั๋วสัญญาใช้เงินมาจ่ายเพื่อการรับโอนกิจการของเคมทรานส์ ได้โดยไม่ต้องใช้เงินที่ได้รับจากขายเสนอขายหุ้นไอพีโอ และ เนื่องจาก เคมทรานส์ มีกำไรสะสมอยู่มาก ดังนั้น จึงมีแผนที่จะจ่ายเงินปันผลออกมาให้กับ KIAT ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้น ก่อนการโอนกิจการ
ปัจจุบันงบการเงินเคมทรานส์ ณ วันที่ 21 ธันวาคม 2552 จะมีส่วนของผู้ถือหุ้นลดลงเหลือใกล้เคียงกับ ทุนชำระแล้วรวมกับสำรองตามกฎหมายของเคมทรานส์ ซึ่งจะต่ำกว่าส่วนของผู้ถือหุ้นของเคมทรานส์ ณ 30 มิถุนายน 2552 ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวน 94 ล้านบาท
“ขอให้ผู้ถือหุ้นวางใจว่าการดำเนินการครั้งนี้ของ KIAT เพื่อให้เกิดผลประโยชน์สูงสุดกับบริษัท โดยภายหลังการรับโอนกิจการของเคมทรานส์ จะไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงต่ออำนาจการควบคุมและโครงสร้างการถือหุ้นแต่อย่างใด และการดำเนินการครั้งนี้ KIAT สามารถใช้เงินสดจากการดำเนินงาน หรือออกตั๋วสัญญาใช้เงินมาจ่ายเพื่อการรับโอนกิจการของเคมทรานส์ ได้โดยไม่ต้องใช้เงินที่ได้จากการขายหุ้น IPO”
สำหรับประโยชน์ที่ได้รับในครั้งนี้ คือ จะทำให้กลุ่มบริษัทสามารถประหยัดภาษีเงินได้นิติบุคคลในภาพรวม, ช่วยลดค่าใช้จ่ายที่ซ้ำซ้อนของการบริหารจัดการ และการรับโอนกิจการครั้งนี้จะเป็นการเพิ่มขนาดทรัพย์สิน และธุรกิจของบริษัท ในส่วนงบการเงินเฉพาะกิจการ ซึ่งจะเกิดประโยชน์ในการเข้าร่วมประมูลงานในอนาคต