พบผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน 23 แห่ง ทนไม่ไหว หลังข่าวลืออัปมงคลถล่มตลาดหุ้นจนราคาร่วงแรง เข้าเก็บหุ้นบริษัทตนเองรวมกว่า 40 ล้านบาท "บิ๊กบมจ.แสนสิริ"เก็ยมากสุด นำทีมโดย "เศรษฐา ทวีสิน - อภิชาติ จูตระกูล -วันจักร์ บุรณศิริ" มูลค่ารวม 12.08 ล้านบาท ถัดมาคือ "อนันต์ กาญจนพาสน์"แห่งบางกอกแลนด์ ขณะที่ "ประเสริฐ ปราสาททองโอสถ"สวนทางขายหุ้น ร.พ.กรุงเทพดุสิตเวชการ มากสุด 25 ล้านบาท
จากการรวบรวมข้อมูลแบบรายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์ของผู้บริหาร (แบบ 59-2) ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)ในช่วงที่วันที่ 14-15 ตุลาคม 2552 ซึ่งดัชนีตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวลดลงมามากจากข่าวลืออัปมงคลของกลุ่มผู้ไม่หวังดี พบว่า ผู้บริหารของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) จำนวน 23 แห่ง เข้ามาซื้อหุ้นของบริษัทตนเอง รวม 40.04 ล้านบาท โดยมีผู้บริหารบจ.ที่มีการเข้ามาซื้อมูลค่ามากสุด อันดับ 1 คือ บริษัทแสนสิริ จำกัด (มหาชน) ที่ซื้อมูลค่ารวม 12.08 ล้านบาท ประกอบด้วย อภิชาติ จูตระกูล ซื้อหุ้นวันที่ 15 ต.ค. จำนวน 2 แสนหุ้น ราคาหุ้นละ 4.01 บาท นายวันจักร์ บุรณศิริ ซื้อในวันเดียวกันจำนวน 1 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 3.99 บาท และนายเศรษฐา ทวีสิน เข้ามาซื้อหุ้นตั้งแต่วันที่ 14 ต.ค. จำนวน 8 แสนหุ้น ราคาหุ้นละ 4.16 บาท และซื้ออีกครั้งเมื่อวันที่ 15 ต.ค.อีก 1 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 3.96 บาท
อันดับ2 ผู้บริหาร บริษัทบางกอกแลนด์ จำกัด (มหาชน)หรือ BLAND คือ นาย อนันต์ กาญจนพาสน์ เข้ามาซื้อในวันที่14 ตุลาคม จำนวน 2 10.20 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 0.61 รวมมูลค่า 6.22 ล้านบาท อันดับ3 ผู้บริหาร บริษัท ไทยคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน)หรือ TICON เข้ามาซื้อหุ้นมูลค่ารวม 6.19 ล้านบาท คือ นายพรเทพ พิศาลางกูร ซึ่งซื้อหุ้นเมื่อวันที่ 14 ต.ค.จำนวน1.5 แสนหุ้น ราคาหุ้นละ 9.85 บาท และเข้ามาซื้ออีกครั้งเมื่อวันที่15 ต.ค. อีก จำนวน 1.5 แสนหุ้น ราคาหุ้นละ 9.25 บาท ถัดมาคือ นายวีรพันธ์ พูลเกษเข้ามาซื้อหุ้นเมื่อวันที่ 15 ต.ค. จำนวน 3.5 แสนหุ้น ราคาหุ้นละ 9.50 บาท
อันดับ 4 ผู้บริหารบริษัทบ้านปู จำกัด (มหาชน)หรือ BANPU นาย สวัสดิภาพ กันทาธรรม เข้ามาซื้อหุ้นเมื่อวันที่ 15 ต.ค. จำนวน 10,000 หุ้น ราคาหุ้นละ 416 บาท มูลค่ารวม 4.16 ล้านบาท อับดับ 5 ผู้บริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน)หรือ SPALI คือ นายประทีป ตั้งมติธรรม เข้ามาซื้อหุ้นเมื่อวันที่ 15 ต.ค.เช่นกัน จำนวน 5 แสนหุ้น ราคาหุ้นละ 5.07 บาท มูลค่า 2.53 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน พบว่ามีผู้บริหารที่มีการขายหุ้นออกมาในช่วง 2 วันดังกล่าว รวมจำนวน 12 บริษัท มูลค่า 29.38 ล้านบาท ซึ่งผู้บริหารที่มีการขายหุ้นออกมามูลค่ามากสุดคือ ผู้บริหาร บริษัทกรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน)หรือ BGH คือนายปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ ขายหุ้นเมื่อวันที่ 14 ต.ค. จำนวน 1 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 25บาท รวมมูลค่า 25 ล้านบาท อันดับ 2ผู้บริหาร บริษัท แอสคอน คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)หรือ ASCON คือ นายพัฒนพงษ์ ตนุมัธยา ขายหุ้นเมื่อวันที่ 14 ต.ค. จำนวน 389,200 หุ้น ราคาหุ้นละ 4.39 บาท รวมมูลค่า 1.7 ล้านบาท
อันดับ 3 ผู้บริหาร ไทยน๊อคซ์ สเตนเลส จำกัด (มหาชน)หรือ INOX รวม 7.42 แสนบาท ประกอบด้วยนาย ประกิต เทียนบุญ ขายหุ้นเมื่อวันที่ 15 ต.ค. จำนวน 50,000 หุ้น ราคาหุ้นละ 1.40 บาท และวันเดียวกันมีการขายหุ้นอีก 2.5 แสนหุ้น ราคาหุ้นละ 1.45 บาท และขายอีก 2 แสนหุ้น ราคาหุ้นละ 1.55 บาท อันดับ 4ผู้บริหาร บริษัทไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน)หรือ TICON คือนาย พรเทพ พิศาลางกูร ผู้จัดทำขายหุ้นวันที่ 14 ต.ค. จำนวน 50,000หุ้น ราคาหุ้นละ 10.60 บาท มูลค่า 5.30 แสนบาท อันดับ 5 ผู้บริหาร บริษัทสยามสหบริการ จำกัด (มหาชน) หรือ SUSCO คือ นาย พงศธร ฉัตรนะรัชต์ ขายหุ้นวันที่ 14 ตุลาคม จำนวน 1,076,000หุ้น ราคาหุ้นละ 0.48 บาท
จากการรวบรวมข้อมูลแบบรายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์ของผู้บริหาร (แบบ 59-2) ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)ในช่วงที่วันที่ 14-15 ตุลาคม 2552 ซึ่งดัชนีตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวลดลงมามากจากข่าวลืออัปมงคลของกลุ่มผู้ไม่หวังดี พบว่า ผู้บริหารของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) จำนวน 23 แห่ง เข้ามาซื้อหุ้นของบริษัทตนเอง รวม 40.04 ล้านบาท โดยมีผู้บริหารบจ.ที่มีการเข้ามาซื้อมูลค่ามากสุด อันดับ 1 คือ บริษัทแสนสิริ จำกัด (มหาชน) ที่ซื้อมูลค่ารวม 12.08 ล้านบาท ประกอบด้วย อภิชาติ จูตระกูล ซื้อหุ้นวันที่ 15 ต.ค. จำนวน 2 แสนหุ้น ราคาหุ้นละ 4.01 บาท นายวันจักร์ บุรณศิริ ซื้อในวันเดียวกันจำนวน 1 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 3.99 บาท และนายเศรษฐา ทวีสิน เข้ามาซื้อหุ้นตั้งแต่วันที่ 14 ต.ค. จำนวน 8 แสนหุ้น ราคาหุ้นละ 4.16 บาท และซื้ออีกครั้งเมื่อวันที่ 15 ต.ค.อีก 1 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 3.96 บาท
อันดับ2 ผู้บริหาร บริษัทบางกอกแลนด์ จำกัด (มหาชน)หรือ BLAND คือ นาย อนันต์ กาญจนพาสน์ เข้ามาซื้อในวันที่14 ตุลาคม จำนวน 2 10.20 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 0.61 รวมมูลค่า 6.22 ล้านบาท อันดับ3 ผู้บริหาร บริษัท ไทยคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน)หรือ TICON เข้ามาซื้อหุ้นมูลค่ารวม 6.19 ล้านบาท คือ นายพรเทพ พิศาลางกูร ซึ่งซื้อหุ้นเมื่อวันที่ 14 ต.ค.จำนวน1.5 แสนหุ้น ราคาหุ้นละ 9.85 บาท และเข้ามาซื้ออีกครั้งเมื่อวันที่15 ต.ค. อีก จำนวน 1.5 แสนหุ้น ราคาหุ้นละ 9.25 บาท ถัดมาคือ นายวีรพันธ์ พูลเกษเข้ามาซื้อหุ้นเมื่อวันที่ 15 ต.ค. จำนวน 3.5 แสนหุ้น ราคาหุ้นละ 9.50 บาท
อันดับ 4 ผู้บริหารบริษัทบ้านปู จำกัด (มหาชน)หรือ BANPU นาย สวัสดิภาพ กันทาธรรม เข้ามาซื้อหุ้นเมื่อวันที่ 15 ต.ค. จำนวน 10,000 หุ้น ราคาหุ้นละ 416 บาท มูลค่ารวม 4.16 ล้านบาท อับดับ 5 ผู้บริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน)หรือ SPALI คือ นายประทีป ตั้งมติธรรม เข้ามาซื้อหุ้นเมื่อวันที่ 15 ต.ค.เช่นกัน จำนวน 5 แสนหุ้น ราคาหุ้นละ 5.07 บาท มูลค่า 2.53 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน พบว่ามีผู้บริหารที่มีการขายหุ้นออกมาในช่วง 2 วันดังกล่าว รวมจำนวน 12 บริษัท มูลค่า 29.38 ล้านบาท ซึ่งผู้บริหารที่มีการขายหุ้นออกมามูลค่ามากสุดคือ ผู้บริหาร บริษัทกรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน)หรือ BGH คือนายปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ ขายหุ้นเมื่อวันที่ 14 ต.ค. จำนวน 1 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 25บาท รวมมูลค่า 25 ล้านบาท อันดับ 2ผู้บริหาร บริษัท แอสคอน คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)หรือ ASCON คือ นายพัฒนพงษ์ ตนุมัธยา ขายหุ้นเมื่อวันที่ 14 ต.ค. จำนวน 389,200 หุ้น ราคาหุ้นละ 4.39 บาท รวมมูลค่า 1.7 ล้านบาท
อันดับ 3 ผู้บริหาร ไทยน๊อคซ์ สเตนเลส จำกัด (มหาชน)หรือ INOX รวม 7.42 แสนบาท ประกอบด้วยนาย ประกิต เทียนบุญ ขายหุ้นเมื่อวันที่ 15 ต.ค. จำนวน 50,000 หุ้น ราคาหุ้นละ 1.40 บาท และวันเดียวกันมีการขายหุ้นอีก 2.5 แสนหุ้น ราคาหุ้นละ 1.45 บาท และขายอีก 2 แสนหุ้น ราคาหุ้นละ 1.55 บาท อันดับ 4ผู้บริหาร บริษัทไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน)หรือ TICON คือนาย พรเทพ พิศาลางกูร ผู้จัดทำขายหุ้นวันที่ 14 ต.ค. จำนวน 50,000หุ้น ราคาหุ้นละ 10.60 บาท มูลค่า 5.30 แสนบาท อันดับ 5 ผู้บริหาร บริษัทสยามสหบริการ จำกัด (มหาชน) หรือ SUSCO คือ นาย พงศธร ฉัตรนะรัชต์ ขายหุ้นวันที่ 14 ตุลาคม จำนวน 1,076,000หุ้น ราคาหุ้นละ 0.48 บาท