ดีแทคเผยผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2552 ปรับตัวขึ้นจากไตรมาสก่อน ทั้งในแง่ของรายได้ เพิ่ม 1% EBITDA เพิ่ม 6% และกำไรสุทธิเพิ่ม 19% ยอดลูกค้าเกือบ 20 ล้านราย
นายทอเร่ จอห์นเซ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหารดีแทค กล่าวว่าไตรมาส 3 ปีนี้ ดีแทคมีรายได้ทั้งสิ้น 1.62 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 1% จากไตรมาสที่ผ่านมา กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) เท่ากับ 5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากไตรมาสก่อน อันเป็นผลจากรายได้เพิ่มขึ้น จ่ายค่าเชื่อมต่อโครงข่าย (IC) น้อยลง รวมทั้งมีการบริหารค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ กำไรสุทธิยังเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ผ่านมา 19% หรือเท่ากับ 1.63 พันล้านบาท ไตรมาสนี้ดีแทคมีลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นประมาณ 7 หมื่นเลขหมาย และมียอดลูกค้ารวมทั้งสิ้น 19.9 ล้านราย
เมื่อเทียบผลประกอบการไตรมาสนี้กับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ดีแทคมีรายได้จากการให้บริการ (ไม่รวม IC) เติบโตขึ้นเล็กน้อย หลังจากได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาในช่วง 2-3 ไตรมาสที่ผ่านมา
“เราพอใจกับผลประกอบการที่มีการพัฒนาขึ้นในทางบวกท่ามกลางภาวะที่ท้าทายเช่นนี้ และเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่เคยชะลอตัวเริ่มปรับตัวดีขึ้น เราจะพยายามรักษาการเติบโตของรายได้ รวมถึงควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่อไป ทั้งนี้ความพยายามในการลดต้นทุน 2 พันล้านบาทให้ได้ภายในสิ้นปี 2553 ยังคงมีแนวโน้มที่ดี”
นายทอเร่กล่าวว่านอกจากนี้ ตลอด 9 เดือนที่ผ่านมาดีแทคยังสามารถสร้างกระแสเงินสดได้ถึง 1.07 หมื่นล้านบาท ซึ่งเชื่อว่าภายในสิ้นปีนี้น่าจะเกินเป้าที่เคยตั้งไว้ที่ 1.2 หมื่นล้านบาท ดีแทคจึงตัดสินใจปรับเป้าหมายกระแสเงินสดของปี 2552 ใหม่ โดยเพิ่มขึ้นเป็น 1.3 หมื่นล้านบาท
นายทอเร่ จอห์นเซ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหารดีแทค กล่าวว่าไตรมาส 3 ปีนี้ ดีแทคมีรายได้ทั้งสิ้น 1.62 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 1% จากไตรมาสที่ผ่านมา กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) เท่ากับ 5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากไตรมาสก่อน อันเป็นผลจากรายได้เพิ่มขึ้น จ่ายค่าเชื่อมต่อโครงข่าย (IC) น้อยลง รวมทั้งมีการบริหารค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ กำไรสุทธิยังเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ผ่านมา 19% หรือเท่ากับ 1.63 พันล้านบาท ไตรมาสนี้ดีแทคมีลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นประมาณ 7 หมื่นเลขหมาย และมียอดลูกค้ารวมทั้งสิ้น 19.9 ล้านราย
เมื่อเทียบผลประกอบการไตรมาสนี้กับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ดีแทคมีรายได้จากการให้บริการ (ไม่รวม IC) เติบโตขึ้นเล็กน้อย หลังจากได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาในช่วง 2-3 ไตรมาสที่ผ่านมา
“เราพอใจกับผลประกอบการที่มีการพัฒนาขึ้นในทางบวกท่ามกลางภาวะที่ท้าทายเช่นนี้ และเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่เคยชะลอตัวเริ่มปรับตัวดีขึ้น เราจะพยายามรักษาการเติบโตของรายได้ รวมถึงควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่อไป ทั้งนี้ความพยายามในการลดต้นทุน 2 พันล้านบาทให้ได้ภายในสิ้นปี 2553 ยังคงมีแนวโน้มที่ดี”
นายทอเร่กล่าวว่านอกจากนี้ ตลอด 9 เดือนที่ผ่านมาดีแทคยังสามารถสร้างกระแสเงินสดได้ถึง 1.07 หมื่นล้านบาท ซึ่งเชื่อว่าภายในสิ้นปีนี้น่าจะเกินเป้าที่เคยตั้งไว้ที่ 1.2 หมื่นล้านบาท ดีแทคจึงตัดสินใจปรับเป้าหมายกระแสเงินสดของปี 2552 ใหม่ โดยเพิ่มขึ้นเป็น 1.3 หมื่นล้านบาท
