ส่งออกเดือน ก.ย.ติดลบ 8% “เจ๊วา” เผย เป็นสัญญาณที่ดีขึ้น โดยเชื่อว่า ดีที่สุดแล้วในปีนี้ มั่นใจปี 53 ขยายตัวได้ 10% เตรียมนัดภาคเอกชนหารือ 26 ต.ค.นี้
นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยตัวเลขการส่งออกเดือนกันยายน 2552 โดยระบุว่า มีมูลค่า 14,904.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สูงสุดในรอบ 9 เดือน แม้เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนลดลงร้อยละ 8.5 เป็นอัตราลดลงน้อยที่สุดในรอบปี แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนสิงหาคมร้อยละ 12.2
ขณะที่การส่งออกในช่วง 9 เดือนแรกปี 2552 ยอดการส่งออกมีมูลค่าทั้งสิ้น 109,301.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนลดลงร้อยละ 21.4 โดยสินค้าเกือบทุกหมวดรายการทั้งสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร มีแนวโน้มการส่งออกเพิ่มขึ้นทั้งผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง อาหารทะเล และอุตสาหกรรมต่างๆ
ส่วนการส่งออกทองคำในระยะเวลาที่ผ่านมาของเดือนตุลาคม 2552 มีปริมาณ 34.2 ตัน คิดเป็นมูลค่า 1,012.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยราคาเฉลี่ยเพิ่มจากเดือนกันยายน ประมาณ 996 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งในเดือนนี้พุ่งสูงถึง 1,064.25 ดอลลาร์สหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 163 เมื่อเทียบกับเดือนกันยายน 2551
ด้านตัวเลขการนำเข้าเดือนกันยายน 2552 มีมูลค่าทั้งสิ้น 12,924.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนลดลงร้อยละ 17.9 ส่งผลให้การนำเข้าในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ มีมูลค่าทั้งสิ้น 93,544.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนลดลงร้อยละ 32.7 ทำให้ไทยเกินดุลการค้าเดือนกันยายน 2552 อยู่ที่ 1,980 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และเกินดุลการค้าในรอบ 9 เดือนแรกปีนี้ทั้งสิ้น 15,756.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เชื่อมั่นว่า ตัวเลขการส่งออกไตรมาสที่ 4 จะเป็นบวกประมาณร้อยละ 3-5 และจะส่งผลให้การคาดการณ์ตัวเลขส่งออกทั้งปี ที่คาดว่า จะติดลบจากเดิมร้อยละ 18 เหลือติดลบเพียงร้อยละ 10-13 เท่านั้น และจากการคาดการณ์เบื้องตันตัวเลขการส่งออกในปีหน้า ยังมีแนวโน้มเติบโตเป็นบวกได้ประมาณร้อยละ 10 จากปัจจัยเศรษฐกิจโลกเติบโต และมียอดคำสั่งซื้อจากประเทศคู่ค้ามาอย่างต่อเนื่องประกอบกับการเจาะตลาดใหม่ๆ เป็นปัจจัยที่ทำให้การส่งออกปีหน้าเป็นบวก
แต่สิ่งที่กังวลใจที่อยู่เหนือการควบคุม คือ ราคาน้ำมัน ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ได้มีการหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่จะเข้ามาช่วยเหลือกลุ่มผู้ส่งออกทั้งระบบ ด้วยการดูแลค่าเงินบาทให้มีเสถียรภาพมากขึ้น
นางพรทิวา กล่าวว่า ในวันที่ 26 ตุลาคม 2552 นี้ ตนจะประชุมร่วมภาคเอกชนทั้งสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เพื่อประเมินสถานการณ์ภาพรวมการส่งออกตลอดปี 2552 และแนวโน้มการส่งออกในปี 2553 รวมถึงจะมีการหารือในเรื่องการแก้ไขปัญหาโครงสร้างภาษีการนำเข้าวัตถุดิบและแนวทางการเจาะตลาดใหม่
นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยตัวเลขการส่งออกเดือนกันยายน 2552 โดยระบุว่า มีมูลค่า 14,904.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สูงสุดในรอบ 9 เดือน แม้เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนลดลงร้อยละ 8.5 เป็นอัตราลดลงน้อยที่สุดในรอบปี แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนสิงหาคมร้อยละ 12.2
ขณะที่การส่งออกในช่วง 9 เดือนแรกปี 2552 ยอดการส่งออกมีมูลค่าทั้งสิ้น 109,301.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนลดลงร้อยละ 21.4 โดยสินค้าเกือบทุกหมวดรายการทั้งสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร มีแนวโน้มการส่งออกเพิ่มขึ้นทั้งผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง อาหารทะเล และอุตสาหกรรมต่างๆ
ส่วนการส่งออกทองคำในระยะเวลาที่ผ่านมาของเดือนตุลาคม 2552 มีปริมาณ 34.2 ตัน คิดเป็นมูลค่า 1,012.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยราคาเฉลี่ยเพิ่มจากเดือนกันยายน ประมาณ 996 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งในเดือนนี้พุ่งสูงถึง 1,064.25 ดอลลาร์สหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 163 เมื่อเทียบกับเดือนกันยายน 2551
ด้านตัวเลขการนำเข้าเดือนกันยายน 2552 มีมูลค่าทั้งสิ้น 12,924.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนลดลงร้อยละ 17.9 ส่งผลให้การนำเข้าในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ มีมูลค่าทั้งสิ้น 93,544.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนลดลงร้อยละ 32.7 ทำให้ไทยเกินดุลการค้าเดือนกันยายน 2552 อยู่ที่ 1,980 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และเกินดุลการค้าในรอบ 9 เดือนแรกปีนี้ทั้งสิ้น 15,756.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เชื่อมั่นว่า ตัวเลขการส่งออกไตรมาสที่ 4 จะเป็นบวกประมาณร้อยละ 3-5 และจะส่งผลให้การคาดการณ์ตัวเลขส่งออกทั้งปี ที่คาดว่า จะติดลบจากเดิมร้อยละ 18 เหลือติดลบเพียงร้อยละ 10-13 เท่านั้น และจากการคาดการณ์เบื้องตันตัวเลขการส่งออกในปีหน้า ยังมีแนวโน้มเติบโตเป็นบวกได้ประมาณร้อยละ 10 จากปัจจัยเศรษฐกิจโลกเติบโต และมียอดคำสั่งซื้อจากประเทศคู่ค้ามาอย่างต่อเนื่องประกอบกับการเจาะตลาดใหม่ๆ เป็นปัจจัยที่ทำให้การส่งออกปีหน้าเป็นบวก
แต่สิ่งที่กังวลใจที่อยู่เหนือการควบคุม คือ ราคาน้ำมัน ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ได้มีการหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่จะเข้ามาช่วยเหลือกลุ่มผู้ส่งออกทั้งระบบ ด้วยการดูแลค่าเงินบาทให้มีเสถียรภาพมากขึ้น
นางพรทิวา กล่าวว่า ในวันที่ 26 ตุลาคม 2552 นี้ ตนจะประชุมร่วมภาคเอกชนทั้งสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เพื่อประเมินสถานการณ์ภาพรวมการส่งออกตลอดปี 2552 และแนวโน้มการส่งออกในปี 2553 รวมถึงจะมีการหารือในเรื่องการแก้ไขปัญหาโครงสร้างภาษีการนำเข้าวัตถุดิบและแนวทางการเจาะตลาดใหม่