กระทรวงพลังงาน เร่งงัดแผนเสริมความมั่นคงด้านระบบพลังงานผลิตกระแสไฟฟ้า หลังพบก๊าซธรรมชาติจากแหล่งบงกช หยุดผลิตกะทันหัน 10 วัน โดยประกาศห้ามส่งออกน้ำมันเตา ชั่วคราว เรียกการผลิตเพิ่มจากเชฟรอน รวมไปถึงขอความร่วมมือบีแอลซีพีและโรงไฟฟ้าราชบุรี เลื่อนการซ่อมบำรุงใหญ่
นายณอคุณ สิทธิพงศ์ รองปลัดกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานคณะทำงานติดตามการบริหารเชื้อเพลิง เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์การหยุดผลิตก๊าซธรรมชาติจากแหล่งบงกชเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2552 ที่ผ่านมาเป็นผลมาจากการตรวจสอบระบบปกติตามมาตรฐานที่แหล่งบงกช ซึ่งพบว่าส่วนของท่อส่งก๊าซฯ ที่อยู่ระหว่างวาล์วมีการสึกกร่อน ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยจึงได้มีการหยุดผลิตก๊าซฯ จากแหล่งดังกล่าวไว้ก่อนเพื่อซ่อมแซม ส่งผลให้ปริมาณก๊าซธรรมชาติหายไปจากระบบประมาณ 600 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน
ทั้งนี้ เพื่อแก้ไขสถานการณ์การขาดแคลนก๊าซฯ ในการผลิตไฟฟ้าอย่างทันท่วงที คณะทำงานติดตามการบริหารเชื้อเพลิงที่ประกอบด้วย กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ สำนักงานนโยบายและแผนพลังงานกรมธุรกิจพลังงาน สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) บริษัท ปตท.สผ. จำกัด (มหาชน) บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) และบริษัท บีแอลซีพี จึงได้ร่วมหารือและมีแนวทางเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขโดยดำเนินการ
โดยมอบหมายให้กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ประสานกับผู้ประกอบการเพื่อเพิ่มการผลิตก๊าซฯ จากแหล่งในประเทศ ในปริมาณ 310 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ซึ่งประกอบด้วย แหล่ง U123 ของบริษัทเชฟรอน เพิ่มขึ้น 100 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน หรือเพิ่มจาก 930 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน เป็น 1,030 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน แหล่งเบญจมาศของบริษัทเชฟรอน ให้เพิ่มขึ้นอีก 70 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน หรือเพิ่มจาก 100 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน เป็น 170 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และให้เร่งการผลิตก๊าซฯ จากแหล่งอาทิตย์เหนือของ ปตท.สผ. เข้าสู่ระบบโดยเร็วที่สุดในปริมาณ 140 ลูกบาศก์ฟุตต่อวัน
รวมทั้งยังมอบหมายให้ ปตท. เป็นฝ่ายจัดหาน้ำมันเตาเพื่อรองรับสถานการณ์ดังกล่าว ปริมาณรวม 38 ล้านลิตร และให้กรมธุรกิจพลังงานออกประกาศเพื่อห้ามการส่งออกน้ำมันเตาที่มีสัดส่วนกำมะถัน 0.5% พร้อมกันนี้ ได้ให้ กฟผ. รับซื้อน้ำมันเตาจากบางจากในปริมาณ 30 ล้านลิตร สำหรับใช้ที่โรงไฟฟ้าพระนครใต้พร้อมกับให้เจรจากับบริษัทราชบุรีผลิตไฟฟ้าให้เลื่อนการซ่อมบำรุงใหญ่ออกไปอีก 18 วัน ซึ่งทั้งหมดได้รับการตอบรับ และร่วมมือเป็นอย่างดี
นอกจากนี้ คณะทำงานฯ ยังได้ขอให้ บีแอลซีพี เจรจากับผู้รับเหมาจากต่างประเทศเพื่อเลื่อนการซ่อมบำรุงใหญ่ออกไปก่อนที่จะเริ่มในวันที่ 14 ตุลาคมนี้ด้วย ซึ่งหากการเจรจาสำเร็จจะทำให้ลดการใช้น้ำมันเตาได้ถึงวันละ 3 ล้านลิตร