‘ศุภชัย’ สับ กทช.กลางเวทีประชาพิจารณ์ 3G ครั้งสุดท้าย เผยกำลังส่งทรัพยากรอันมีค่าของประเทศเข้าปากต่างชาติเพราะคำนึงถึงเรื่องราคาประมูลสูงสุดเพียงอย่างเดียว ลั่นทรูสู้ขาดใจแม้กำลังทรัพย์จะสู้ต่างชาติไม่ไหว
นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานคณะผู้บริหารบริษัท ทรูคอร์ปอเรชั่น กล่าวในการประชุมรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ เพื่อเปิดประมูลใบอนุญาตโทรศัพท์มือถือ 3G บนคลื่นความถี่ 2.1 กิกะเฮริตช์ เมื่อวันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมาว่า ในฐานะคนไทยไม่อยากเห็นคนไทยนำเอาข้อมูลหรือทรัพยากรที่เป็นประโยชน์ของประเทศไปให้กับต่างชาติ เพราะนั่นถือเป็นการทรยศ
ทั้งนี้ การที่ต่างชาติเข้ามานำข้อมูลหรือทรัพยากรของประเทศไทย ไปแสวงหาประโยชน์และผลตอบแทนสูงสุดกลับประเทศเขา ถือว่าไม่ใช่ความผิดเพราะต่างชาติเหล่านี้มีความสามารถ ถ้าจะโทษก็ต้องโทษคนไทยที่เปิดโอกาสให้ต่างชาติเข้ามาตักตวงโดยไม่นึกถึงชาติ
“เพราะฉะนั้น ความเป็นไทยมีความสำคัญ นอกเหนือจากเรื่องการเปิดการแข่งขันที่เสรีและเป็นธรรม ความเป็นไทยของการที่รักษาไว้ในอุตสาหกรรมนี้ โดยจะต้องทำให้ถูกต้องตามกฏหมาย นี่แหละเป็นหน้าที่ของคนไทย ผมไม่ได้ว่าชาวต่างชาติ ที่เขาพยายามสร้างผลประโยชน์ให้ประเทศเขาเอง และเขามีวิธีการ แล้วเขาหาวิธีการเพื่อประโยชน์ให้เกิดสูงสุดต่อผู้ถือหุ้นและประเทศของเขา แต่ผมก็จะว่าคนไทยที่ไม่รักษา และปกป้องความเป็นไทย และทรัพยากรอันมีบทบาทสำคัญยิ่งต่อนาคตของประเทศชาติ และลูกหลาน นี่เป็นความคิดเห็นในฐานะคนไทย”
นายศุภชัยกล่าวต่อว่า ในฐานะของ CEO ทรู มองว่า การประมูลไลเซ่นส์ 3G ครั้งนี้มีความชัดเจนในแง่เป้าหมายเพื่อให้ได้ราคาประมูลที่สูงที่สุด แต่กลับไม่มีความชัดเจนในเรื่องการนำมาใช้ประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศ ทั้งในแง่การการพัฒนาด้านเทคโนโลยี คอนเทนต์ รวมไปถึงซอฟต์แวร์ให้เข้ากับจริยธรรม ค่านิยม ขนบธรรมเนียมของของคนไทย ซึ่งการนำ 3G มาใช้ประโยชน์อย่างสูงสุดสามารถตีความหมายและทำได้อย่างกว้างขวาง
“การนำมาซึ่งประโยชน์สูงสุดของประเทศไทย ยังไม่ชัดเจน การที่เราพูดถึง 3G นี่ มันคงไม่ได้หมายความว่า แค่เราเอาคลื่นความถี่มาประมูลแล้วก็ใช้งาน แต่การพูดถึงคลื่นความถี่ 3G แล้วก็ไลเซนส์หรือว่าใบอนุญาต 3Gหมายถึงการนำมาซึ่งความเจริญก้าวหน้าของประเทศ การพัฒนาทั้งในแง่ของเทคโนโลยี ทั้งในแง่ของคอนเทนต์”
สำหรับจุดประสงค์อีกประการหนึ่งของการประมูล 3G เป็นการก้าวสู่การเปิดโอกาสให้มีการแข่งขันอย่างเป็นเสรีและธรรม ซึ่งจะนำไปสู่สิ่งที่ดีสุดสำหรับผู้บริโภคด้วย แต่เท่าที่ฟังดูที่ผ่านมาดูเหมือน กทช.จะให้ความสำคัญว่าการประมูลครั้งนี้จะได้เงินเท่าไหร่
นายศุภชัยกล่าวว่า ยืนยันว่าทรูจะเข้าร่วมประมูล และจะสู้ขาดใจแม้ว่าจะถูกสบประมาทว่ามีหนี้เยอะอาจจะแข่งสู้รายใหญ่อีกสองรายได้ยาก และยังบอกอีกว่าหากทรูไม่สามารถประมูลได้ก็คาดว่าจะไม่มีผู้ประกอบการไทยรายใหม่รายไหนเข้าร่วมประมูลได้เช่นกัน การให้ความสนใจด้านราคาประมูลสูงไว้ก่อนจะเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการที่มีทุนหนาทำให้เอกชนไทยซึ่งยอมรับว่าทุนน้อยกว่าต่างชาติ มีโอกาสน้อยลง และจะเป็นตัวผลักดันให้เอกชนไทยค่อยๆล้มหายตายจาก จากอุตสาหกรรมโทรคมนาคม และสุดท้ายทรูเองก็อาจจะต้องมีผู้ถือหุ้นต่างชาติเข้ามาช่วยลงทุน
“ฐานะเอกชนไทยรายหนึ่งและฐานะ CEO ของทรู ยอมรับว่าท้อใจหลายครั้ง และคิดว่าการประมูลลักษณะนี้คงเกิดแค่3G แต่จะต่อไปยังไลเซนส์ 4G มี 5G มี 6G ถามว่าเอกชนไทยอย่างเราจะมีแรงยืนหยัดสู้กับบริษัทต่างประเทศข้ามชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นรัฐวิสาหกิจต่างชาติได้นานแค่ไหน อันนี้เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของอุตสาหกรรมไทยหลังจากก่อนหน้านี้ได้ถูกเปลี่ยนมาอยู่ในมือของเอกชนส่วนหนึ่งเมื่อประมาณเกือบ 20 ปีก่อน โดยเอกชนไทยได้ช่วยกันพัฒนาประเทศเกือบทั้งหมดแต่มา วันนี้จะเปิดการประมูล 3G และจะเกิดการเปลี่ยนรูปแบบของอุตสาหกรรมครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งหลังจากวันนี้ทุกท่านอาจจะไม่เห็นเอกชนไทยเหลืออยู่เลยแต่จะเห็นบริษัทที่มีการถือหุ้นใหญ่โดยต่างประเทศและรัฐวิสาหกิจต่างประเทศทั้งหมด ไม่เว้นแม้กระทั่งทรูหรือทรูมูฟ” ศุภชัยกล่าว
นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานคณะผู้บริหารบริษัท ทรูคอร์ปอเรชั่น กล่าวในการประชุมรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ เพื่อเปิดประมูลใบอนุญาตโทรศัพท์มือถือ 3G บนคลื่นความถี่ 2.1 กิกะเฮริตช์ เมื่อวันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมาว่า ในฐานะคนไทยไม่อยากเห็นคนไทยนำเอาข้อมูลหรือทรัพยากรที่เป็นประโยชน์ของประเทศไปให้กับต่างชาติ เพราะนั่นถือเป็นการทรยศ
ทั้งนี้ การที่ต่างชาติเข้ามานำข้อมูลหรือทรัพยากรของประเทศไทย ไปแสวงหาประโยชน์และผลตอบแทนสูงสุดกลับประเทศเขา ถือว่าไม่ใช่ความผิดเพราะต่างชาติเหล่านี้มีความสามารถ ถ้าจะโทษก็ต้องโทษคนไทยที่เปิดโอกาสให้ต่างชาติเข้ามาตักตวงโดยไม่นึกถึงชาติ
“เพราะฉะนั้น ความเป็นไทยมีความสำคัญ นอกเหนือจากเรื่องการเปิดการแข่งขันที่เสรีและเป็นธรรม ความเป็นไทยของการที่รักษาไว้ในอุตสาหกรรมนี้ โดยจะต้องทำให้ถูกต้องตามกฏหมาย นี่แหละเป็นหน้าที่ของคนไทย ผมไม่ได้ว่าชาวต่างชาติ ที่เขาพยายามสร้างผลประโยชน์ให้ประเทศเขาเอง และเขามีวิธีการ แล้วเขาหาวิธีการเพื่อประโยชน์ให้เกิดสูงสุดต่อผู้ถือหุ้นและประเทศของเขา แต่ผมก็จะว่าคนไทยที่ไม่รักษา และปกป้องความเป็นไทย และทรัพยากรอันมีบทบาทสำคัญยิ่งต่อนาคตของประเทศชาติ และลูกหลาน นี่เป็นความคิดเห็นในฐานะคนไทย”
นายศุภชัยกล่าวต่อว่า ในฐานะของ CEO ทรู มองว่า การประมูลไลเซ่นส์ 3G ครั้งนี้มีความชัดเจนในแง่เป้าหมายเพื่อให้ได้ราคาประมูลที่สูงที่สุด แต่กลับไม่มีความชัดเจนในเรื่องการนำมาใช้ประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศ ทั้งในแง่การการพัฒนาด้านเทคโนโลยี คอนเทนต์ รวมไปถึงซอฟต์แวร์ให้เข้ากับจริยธรรม ค่านิยม ขนบธรรมเนียมของของคนไทย ซึ่งการนำ 3G มาใช้ประโยชน์อย่างสูงสุดสามารถตีความหมายและทำได้อย่างกว้างขวาง
“การนำมาซึ่งประโยชน์สูงสุดของประเทศไทย ยังไม่ชัดเจน การที่เราพูดถึง 3G นี่ มันคงไม่ได้หมายความว่า แค่เราเอาคลื่นความถี่มาประมูลแล้วก็ใช้งาน แต่การพูดถึงคลื่นความถี่ 3G แล้วก็ไลเซนส์หรือว่าใบอนุญาต 3Gหมายถึงการนำมาซึ่งความเจริญก้าวหน้าของประเทศ การพัฒนาทั้งในแง่ของเทคโนโลยี ทั้งในแง่ของคอนเทนต์”
สำหรับจุดประสงค์อีกประการหนึ่งของการประมูล 3G เป็นการก้าวสู่การเปิดโอกาสให้มีการแข่งขันอย่างเป็นเสรีและธรรม ซึ่งจะนำไปสู่สิ่งที่ดีสุดสำหรับผู้บริโภคด้วย แต่เท่าที่ฟังดูที่ผ่านมาดูเหมือน กทช.จะให้ความสำคัญว่าการประมูลครั้งนี้จะได้เงินเท่าไหร่
นายศุภชัยกล่าวว่า ยืนยันว่าทรูจะเข้าร่วมประมูล และจะสู้ขาดใจแม้ว่าจะถูกสบประมาทว่ามีหนี้เยอะอาจจะแข่งสู้รายใหญ่อีกสองรายได้ยาก และยังบอกอีกว่าหากทรูไม่สามารถประมูลได้ก็คาดว่าจะไม่มีผู้ประกอบการไทยรายใหม่รายไหนเข้าร่วมประมูลได้เช่นกัน การให้ความสนใจด้านราคาประมูลสูงไว้ก่อนจะเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการที่มีทุนหนาทำให้เอกชนไทยซึ่งยอมรับว่าทุนน้อยกว่าต่างชาติ มีโอกาสน้อยลง และจะเป็นตัวผลักดันให้เอกชนไทยค่อยๆล้มหายตายจาก จากอุตสาหกรรมโทรคมนาคม และสุดท้ายทรูเองก็อาจจะต้องมีผู้ถือหุ้นต่างชาติเข้ามาช่วยลงทุน
“ฐานะเอกชนไทยรายหนึ่งและฐานะ CEO ของทรู ยอมรับว่าท้อใจหลายครั้ง และคิดว่าการประมูลลักษณะนี้คงเกิดแค่3G แต่จะต่อไปยังไลเซนส์ 4G มี 5G มี 6G ถามว่าเอกชนไทยอย่างเราจะมีแรงยืนหยัดสู้กับบริษัทต่างประเทศข้ามชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นรัฐวิสาหกิจต่างชาติได้นานแค่ไหน อันนี้เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของอุตสาหกรรมไทยหลังจากก่อนหน้านี้ได้ถูกเปลี่ยนมาอยู่ในมือของเอกชนส่วนหนึ่งเมื่อประมาณเกือบ 20 ปีก่อน โดยเอกชนไทยได้ช่วยกันพัฒนาประเทศเกือบทั้งหมดแต่มา วันนี้จะเปิดการประมูล 3G และจะเกิดการเปลี่ยนรูปแบบของอุตสาหกรรมครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งหลังจากวันนี้ทุกท่านอาจจะไม่เห็นเอกชนไทยเหลืออยู่เลยแต่จะเห็นบริษัทที่มีการถือหุ้นใหญ่โดยต่างประเทศและรัฐวิสาหกิจต่างประเทศทั้งหมด ไม่เว้นแม้กระทั่งทรูหรือทรูมูฟ” ศุภชัยกล่าว
