กระทรวงคมนาคม เตรียมนำรถเมล์เอ็นจีวี ”โกลด์เด้นดราก้อน” รุ่นใหม่ มาเปิดให้บริการแทนรถเมล์เขียวเล็กในกรุงเทพฯ บิ๊กขนส่งฯ ลั่น ต่อไปคนกรุงจะไม่เห็นรถมินิบัสเขียววิ่งแข่งความเร็วอีก คาดอีก 6 เดือนข้างหน้าหมดเกลี้ยงแน่
นายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในการลงนามร่วมกันระหว่างผู้บริหารธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ผู้อำนวยการ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ( ขสมก.) เพื่อร่วมมือในโครงการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์เพื่อสร้างอาชีพใหม่ให้กับผู้ประกอบการมินิบัสที่เปลี่ยนมาใช้เอ็นจีวีวงเงิน 1,500 ล้านบาท
นายสุเทพ สืบสันติวงศ์ ประธานอนุกรรมการบริหาร ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การปล่อยกู้ของธนาคารได้กำหนดวงเงินวางดาวน์ร้อยละ 20 ของราคารถที่มีราคาประมาณ 3-4 ล้านบาท ระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุด 6 ปี คิดอัตรากำไร (ดอกเบี้ยเงินกู้) ร้อยละ 5.5-7.5 ต่อปี ซึ่งหากผู้ประกอบการรายใด มีผลประกอบการ ประสบการณ์ที่ดี ธนาคารจะมีเงื่อนไขพิเศษในการปล่อยกู้ให้ โดยยอมรับว่า หากผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการจะคุ้มค่าในระยะยาว เพราะรถโดยสารปัจจุบัน ต้องจ่ายค่าน้ำมัน 3-4 บาทต่อกิโลเมตร แต่หันมาใช้เอ็นจีวี จะเสียค่าใช้จ่ายเชื้อเพลิง กิโลเมตรละ1 บาท หากผู้ประกอบการมินิบัสต้องการสินเชื่อเพิ่ม ธนาคารก็พร้อมเพิ่มวงเงินสินเชื่อ
ด้านนายหลิน เข่อนั่ว ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เบสท์รินกรุ๊ป จำกัด ผู้ผลิตนำเข้าและจำหน่ายรถบัสโดยสาร เชื้อเพลิงเอ็นจีวี ยี่ห้อ ”โกลด์เด้นดราก้อน” ประเทศจีน เปิดเผยว่า ผู้ประกอบการรายย่อยที่ขับรถมินิบัสต้องการแหล่งเงินกู้ในการจัดหารถใหม่แทนมินิบัสคันเดิม ทำให้มีรถมินิบัสเชื้อเพลิงสะอาดวิ่งให้บริการในกรุงเทพฯ มากขึ้น หากผู้ประกอบการเปลี่ยนมาเป็นรถแอร์เอ็นจีวีแล้ว จัดเก็บค่าโดยสารประมาณ 6.50 บาทตลอดสาย ควรจะเพิ่ม 1-2 บาท นอกจากนี้ ผู้ใช้บริการจะได้นั่งมินิบัสปรับอากาศที่มีความสะดวกสบาย มีคุณภาพได้มาตรฐาน
นายชัยรัตน์ สงวนชื่อ อธิบดีกรมการขนส่งทางบกกล่าวว่า ขณะนี้รถเมล์มินิบัสเขียวเดิม รุ่นเก่า ส่วนใหญ่จะครบกำหนดบริการ 16 สิงหาคม 2552 แต่ได้มีการขยายเวลา เพื่อให้เอกชนจัดซื้อรถใหม่ ในเวลาไม่เกิน 6 เดือน ต่อไปไม่เห็นรถมินิบัสเขียวจะไม่วิ่งในเร็วๆ จะหมดไป เพราะจะมีรถใหม่เป็นรถเมล์ปรับอากาศขนาดเล็กของเอกชนเข้ามาวิ่งแทน ส่วนจะปรับขึ้นราคาหรือไม่ เนื่องจากผู้ประกอบการมีภาระต้นทุนสูงขึ้นจากการซื้อรถ ต้องคำนวณหลายปัจจัยร่วมกัน แต่ราคาเชื้อเพลิงที่เปลี่ยนจากดีเซลมาเป็นเอ็นจีวี จะทำให้ค่าเชื้อเพลิงถูกลง ดังนั้นหากปรับขึ้นก็ไม่ควร 7 บาท จากค่าโดยสาร 6.50 บาท ตลอดสาย
นายชัยรัตน์ กล่าวว่า ส่วนโครงการเอ็นจีวี 4,000 คันที่ให้ ขสมก.จะเช่าจากเอกชนนั้น คาดจะร่างทีโออาร์ให้เสร็จเร็วๆ นี้ เพื่อจัดซื้อจัดจ้างให้เสร็จในสิ้นปี หลังจากนั้น 15 เดือนจัดหารถเริ่มบริการได้ ส่วนเรื่องอี-ทิกเก็ต ทดลองใช้กับรถเก่าในปัจจุบันคงไม่สามารถทำได้ตามข้อเสนอ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ เพราะระบบรองรับยังไม่พร้อม โดยอี -ทิกเก็ต ควรนำมาใช้กับเอ็นจีวีรุ่นใหม่จะเหมาะสมมากกว่า เพราะระบบมีความพร้อมจ่ายตั้งแต่ต้น