“เจ๊เกียว” ดับเครื่องชน “คมนาคม” เดินหน้าขอขึ้นค่าโดยสาร ระดมประชุมสมาชิกขอความเห็น บ่ายวันนี้ ขบ.ลั่นใครขึ้นราคา สั่งเพิกถอนใบอนุญาตแน่ ไม่ห่วงหยุดเดินรถ แฉรถร่วมฯ อย่ามั่วนิ่ม เพราะส่วนใหญ่เปลี่ยนเครื่องยนต์มาใช้เอ็นจีวีแล้วจำนวนมาก จึงไม่ได้รับผลกระทบจากการปรับราคาน้ำมัน
นางสุจินดา เชิดชัย (เจ๊เกียว) นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสาร กล่าวก่อนเข้าประชุมผู้ประกอบการในช่วงบ่ายวันนี้ โดยระบุว่า ที่ประชุมจะหารือถึงภาระราคาน้ำมันที่ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการเดินรถของผู้ประกอบการ ซึ่งครั้งนี้ ตนเองจะขอมติจากสมาชิกทุกคน ว่า เห็นด้วยกับแนวทางปรับขึ้นค่าโดยสารหรือไม่ หลังได้ข้อสรุปจะทำหนังสือยื่นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ภายในวันนี้ทันที และยืนยันจะเดินหน้าจนกว่าจะได้รับการอนุมัติปรับค่าโดยสารเร็วที่สุด
นายชัยรัตน์ สงวนชื่อ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) และเลขานุการคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง ระบุ มติคณะกรรมการที่ผ่านมาชัดเจนแล้วว่า จะรอพิจารณาทิศทางราคาน้ำมันในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า จึงจะพิจารณาว่าจะอนุมัติให้ผู้ประกอบการปรับราคาค่าโดยสารหรือไม่ แต่ระหว่างนี้หากมีรายใดฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาค่าโดยสารก่อน จะถูกดำเนินคดีขั้นเด็ดขาด และหากยังกระทำผิดซ้ำจะพิจารณายกเลิกใบอนุญาตเดินรถในเส้นทางนั้นๆ ทันที
“ระหว่างนี้ หากมีผู้ประกอบการรายใดฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาค่าโดยสารก่อนคณะกรรมการ มีมติ กรมการขนส่งทางบกในฐานะเจ้าพนักงานจะดำเนินคดีขั้นเด็ดขาดในข้อหาเก็บค่าโดยสารเกินอัตรา และหากพบว่ายังไม่หยุดพฤติกรรมดังกล่าวมีการกระทำผิดซ้ำ กรมจะขอให้บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ซึ่งตนเป็นคณะกรรมการ บขส.ด้วย พิจารณายกเลิกใบอนุญาตเดินรถในเส้นทางนั้นๆ ซึ่งเชื่อว่าผู้ประกอบการจะปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด”
นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร กรรมการและผู้จัดการใหญ่ บขส.กล่าวว่า ในส่วนของ บขส.พร้อมยกเลิกสัญญาผู้ประกอบการรายใดก็ตามที่มีความผิดในลักษณะกระทำซ้ำในเรื่องฉวยโอกาสปรับค่าโดยสาร นอกจากนี้ หากผู้ประกอบการรายใดอ้างว่าจะหยุดเดินรถ เนื่องจากต้นทุนราคาน้ำมันทำให้การเดินรถไม่คุ้มต้นทุน หรือจงใจหยุดเดินรถเพื่อประท้วง ในส่วนนี้ บขส.มั่นใจว่า จะสามารถหารถเสริมมาวิ่งให้บริการประชาชนโดยไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากขณะนี้ บขส.ได้ประสานงานเบื้องต้นกับผู้ประกอบการรถโดยสารไม่ประจำทาง หรือรถประเภท 30 ซึ่งทั้งหมดแสดงความต้องการพร้อมเข้ามาวิ่งให้บริการทุกเส้นทางที่เอกชนเจ้าของสัญญาหยุดให้บริการ ซึ่งมั่นใจว่ารถประเภท 30 มีศักยภาพสามารถเข้ามาดำเนินการทดแทนได้ตลอดเวลา
นายบุญชัย รุ่งเรืองไพศาลสุข ประธานเครือข่ายคัดค้านขึ้นค่าโดยสาร กล่าวว่า หากมีผู้ประกอบการรายใดฉวยโอกาสขึ้นค่าโดยสารขณะนี้ ในส่วนของเครือข่ายจะติดตามแนวทางการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ โดยต้องมีการจับกุมอย่างเด็ดขาด เพื่อไม่ให้ก่อความเดือดร้อนแก่ประชาชน
ทั้งนี้ หากไม่มีเจ้าหน้าที่หน่วยงานใดดำเนินงาน กลุ่มเครือข่ายจะดำเนินคดีในฐานะเจ้าพนักงานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ จากข้อมูลของกลุ่มเครือข่าย พบว่า ปัจจุบันผู้ประกอบการรถร่วมบริการ บขส.และ ขสมก.มีการเปลี่ยนเครื่องยนต์มาใช้เอ็นจีวีจำนวนมาก ซึ่งรถเหล่านี้จะไม่ได้รับผลกระทบจากการปรับราคาน้ำมัน
“เอกชนเหล่านี้ไม่ควรฉวยโอกาสขึ้นค่าโดยสารซ้ำเติมประชาชน โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในส่วนของภาครัฐที่เป็นผู้พิจารณาการปรับขึ้นหรือลงค่าโดยสาร คณะกรรมการควบคุมขนส่งทางบกกลางควรนำตัวเลข ว่า ผู้ประกอบการมีการปรับเปลี่ยนใช้เอ็นจีวีแล้วเท่าใดประกอบการพิจารณาในการอนุมัติปรับขึ้นหรือลงแต่ละครั้ง”
