ชงรัฐขนอสังหาฯไทยโรดโชว์ต่างประเทศ เล็งสิงคโปร์-ฮ่องกง หมอท็อปเชื่อความต้องการลูกค้าเริ่มฟื้น ด้านฮาริสันฯ ระบุรัฐบาลออกโรงสร้างความเชื่อมั่นต่างชาติ เผยคอนโด 2.5-6 ล้านบาทน่าสนใจสุด ล่าสุดจัดงานครบรอบ 15 ปี ลดราคา15 ล้านบาทในงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 21
ดร.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตและกรรมการผู้จัดการบริษัท ควอด จำกัด (หรือ หมอท็อป )ผู้พัฒนาโครงการควอด สีลม กล่าวว่า หลังจากที่ได้นำโครงการไปโรดโชว์ยังประเทศสิงคโปร์ ร่วมกับบริษัท ฮาริสัน จำกัด (มหาชน) พร้อมบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในไทยจำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ยังได้นำตัวแทนจากสมาคมอสังหาฯของไทย ไปร่วมดูงานการออกบูธดังกล่าวเมื่อวันที่ 5-6 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งพบว่าประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ
ทั้งนี้ จากการออกบูธดังกล่าว ทำให้รับทราบความต้องการของผู้ประกอบการไทย และเห็นว่าหากรัฐบาลเป็นแกนนำในการพาผู้ประกอบการไทยไปนำเสนอขายสินค้าจะได้รับความน่าเชื่อถือและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนต่างประเทศมากกว่า
“ที่ผ่านมาผู้ประกอบการไทยจะไปจัดงานในต่างประเทศเอง ด้วยการร่วมกับบริษัทโบรกเกอร์หรือรวมตัวกันไป แต่ก็มีปัญหาเรื่องความเชื่อมั่นของนักลงทุน และตัดขัดเรื่องข้อกฎหมาย ซึ่งรัฐบาลไทยไม่เคยพากลุ่มธุรกิจอสังหาฯออกไปโรดโชว์ยังต่างประเทศเลย”
ดร.บุรณัชย์ กล่าวต่อว่า หลังจกดูงานเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาได้สรุปเป็นรายงานและนำเสนอไปยังนายเกียตริ สิทธิอมร ประธานผู้แทนการค้าไทย สำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อให้เป็นแกนนำหรือหน่วยงานหลักในการพาอสังหาฯไปโรดโชว์ต่างประเทศ ซึ่งประธานผู้แทนการค้าไทยเห็นชอบและรับเรืองไปดำเนินการต่อ โดยคาดว่าจะต้องประสานงานไปยังหน่วยงานระหว่างประเทศ ส่วนหน่วยงานของไทยจะต้องดึงสมาคมอสังหาริมฯต่างๆเข้ามาร่วมด้วย
ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถไปโรดโชว์ได้ภายในต้นปีหน้า ส่วนประเทศที่จะไปโรดโชว์ในเบื้องต้นจะเน้นประเทศเพื่อนบ้านหรือมีความสนใจลงทุนอสังหาฯในไทย โดยเฉพาะ สิงคโปร์ ฮ่องกง จีนตามเมืองสำคัญ หรือ เกาหลีใต้ เป็นต้น
ด้านนายหลิน กว่างจุง อลัน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ฮาริสัน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันตลาดอสังหาฯในต่างประเทศมีแนวโน้มฟื้นตัว อย่างต่อเนื่อง และจากงานแสดงสินค้าอสังหาฯไทยในสิงคโปร์เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา มียอดขายกว่า 200 ล้านบาท จาก 11 โครงการ และมีชาวต่างชาติเข้าชมบูธประมาณ 500 ราย
นอกจากนี้ จากประสบการณ์ที่ผ่านมาพบว่า อสังหาฯไทยน่าสนใจต่อนักลงทุนในสิงคโปร์และฮ่องกงมาก เพราะราคาถูกกว่า 4-5 เท่าตัว ซึ่งหากต้องการลงทุนในอสังหาฯ ของประเทศตนเองต้องมีเงินทุนถึง 20 -30 ล้านบาท ในขณะที่การซื้ออสังหาฯในไทยใช้เงินลงทุนต่ำกว่ามาก โดยราคา 2.5-6 ล้านบาทเป็นที่น่าสนใจมากที่สุด ซึ่งกลุ่มที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไปหรือมีรายได้ประมาณ 1.1-2 ล้านบาท/เดือนเป็นกลุ่มเปาหมายหลัก
" หากรัฐบาลมีความประสงค์ที่จะนำอสังหาฯของไทยออกไปโรดโชว์ยังต่างประเทศ นับเป็นเรื่องที่น่ายินดี เพราะที่ผ่านมา ไม่เคยมีรัฐบาลชุดใด เป็นหัวเรือใหญ่ในเรื่องนี้ ซึ่งตรงนี้ จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนได้เป็นอย่างมาก ส่วนช่วงเวลาที่น่าจะเหมาะสมในการไปโรดโชว์ จะหลังไตรมาส 1 เนื่องจากในช่วงไตรมาส 1 เป็นช่วงเทศกาลและมีวันหยุดเยอะ จึงไม่เหมาะสม "
นายอลัน กล่าวต่อว่า ในปีนี้บริษัทครบรอบ 15 ปี จึงได้จัดแคมเปญตอบแทนลูกค้า “15 ปี 15 ล้านบาท” ภายในงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 21 ระหว่างวันที่ 1-4 ต.ค.นี้ โดยนำโครงการที่บริษัทบริหารงานขายทั้งหมด ลดราคารวมกว่า 15 ล้านบาท หพร้อมทั้งรับสิทธิ์จับของรางวัลเครื่องใช้ไฟฟ้าจาก ซัมซุง 120 รายการมูลค่า 1.5 ล้านบาท
ดร.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตและกรรมการผู้จัดการบริษัท ควอด จำกัด (หรือ หมอท็อป )ผู้พัฒนาโครงการควอด สีลม กล่าวว่า หลังจากที่ได้นำโครงการไปโรดโชว์ยังประเทศสิงคโปร์ ร่วมกับบริษัท ฮาริสัน จำกัด (มหาชน) พร้อมบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในไทยจำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ยังได้นำตัวแทนจากสมาคมอสังหาฯของไทย ไปร่วมดูงานการออกบูธดังกล่าวเมื่อวันที่ 5-6 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งพบว่าประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ
ทั้งนี้ จากการออกบูธดังกล่าว ทำให้รับทราบความต้องการของผู้ประกอบการไทย และเห็นว่าหากรัฐบาลเป็นแกนนำในการพาผู้ประกอบการไทยไปนำเสนอขายสินค้าจะได้รับความน่าเชื่อถือและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนต่างประเทศมากกว่า
“ที่ผ่านมาผู้ประกอบการไทยจะไปจัดงานในต่างประเทศเอง ด้วยการร่วมกับบริษัทโบรกเกอร์หรือรวมตัวกันไป แต่ก็มีปัญหาเรื่องความเชื่อมั่นของนักลงทุน และตัดขัดเรื่องข้อกฎหมาย ซึ่งรัฐบาลไทยไม่เคยพากลุ่มธุรกิจอสังหาฯออกไปโรดโชว์ยังต่างประเทศเลย”
ดร.บุรณัชย์ กล่าวต่อว่า หลังจกดูงานเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาได้สรุปเป็นรายงานและนำเสนอไปยังนายเกียตริ สิทธิอมร ประธานผู้แทนการค้าไทย สำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อให้เป็นแกนนำหรือหน่วยงานหลักในการพาอสังหาฯไปโรดโชว์ต่างประเทศ ซึ่งประธานผู้แทนการค้าไทยเห็นชอบและรับเรืองไปดำเนินการต่อ โดยคาดว่าจะต้องประสานงานไปยังหน่วยงานระหว่างประเทศ ส่วนหน่วยงานของไทยจะต้องดึงสมาคมอสังหาริมฯต่างๆเข้ามาร่วมด้วย
ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถไปโรดโชว์ได้ภายในต้นปีหน้า ส่วนประเทศที่จะไปโรดโชว์ในเบื้องต้นจะเน้นประเทศเพื่อนบ้านหรือมีความสนใจลงทุนอสังหาฯในไทย โดยเฉพาะ สิงคโปร์ ฮ่องกง จีนตามเมืองสำคัญ หรือ เกาหลีใต้ เป็นต้น
ด้านนายหลิน กว่างจุง อลัน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ฮาริสัน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันตลาดอสังหาฯในต่างประเทศมีแนวโน้มฟื้นตัว อย่างต่อเนื่อง และจากงานแสดงสินค้าอสังหาฯไทยในสิงคโปร์เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา มียอดขายกว่า 200 ล้านบาท จาก 11 โครงการ และมีชาวต่างชาติเข้าชมบูธประมาณ 500 ราย
นอกจากนี้ จากประสบการณ์ที่ผ่านมาพบว่า อสังหาฯไทยน่าสนใจต่อนักลงทุนในสิงคโปร์และฮ่องกงมาก เพราะราคาถูกกว่า 4-5 เท่าตัว ซึ่งหากต้องการลงทุนในอสังหาฯ ของประเทศตนเองต้องมีเงินทุนถึง 20 -30 ล้านบาท ในขณะที่การซื้ออสังหาฯในไทยใช้เงินลงทุนต่ำกว่ามาก โดยราคา 2.5-6 ล้านบาทเป็นที่น่าสนใจมากที่สุด ซึ่งกลุ่มที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไปหรือมีรายได้ประมาณ 1.1-2 ล้านบาท/เดือนเป็นกลุ่มเปาหมายหลัก
" หากรัฐบาลมีความประสงค์ที่จะนำอสังหาฯของไทยออกไปโรดโชว์ยังต่างประเทศ นับเป็นเรื่องที่น่ายินดี เพราะที่ผ่านมา ไม่เคยมีรัฐบาลชุดใด เป็นหัวเรือใหญ่ในเรื่องนี้ ซึ่งตรงนี้ จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนได้เป็นอย่างมาก ส่วนช่วงเวลาที่น่าจะเหมาะสมในการไปโรดโชว์ จะหลังไตรมาส 1 เนื่องจากในช่วงไตรมาส 1 เป็นช่วงเทศกาลและมีวันหยุดเยอะ จึงไม่เหมาะสม "
นายอลัน กล่าวต่อว่า ในปีนี้บริษัทครบรอบ 15 ปี จึงได้จัดแคมเปญตอบแทนลูกค้า “15 ปี 15 ล้านบาท” ภายในงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 21 ระหว่างวันที่ 1-4 ต.ค.นี้ โดยนำโครงการที่บริษัทบริหารงานขายทั้งหมด ลดราคารวมกว่า 15 ล้านบาท หพร้อมทั้งรับสิทธิ์จับของรางวัลเครื่องใช้ไฟฟ้าจาก ซัมซุง 120 รายการมูลค่า 1.5 ล้านบาท