เอเอฟพี - พายุทรายรุนแรงในรอบหลายทศวรรษ พัดปกคลุมพื้นที่ทางภาคตะวันออกของออสเตรเลีย โดยเฉพาะซิดนีย์เมื่อวันพุธ(23) กระทบต่อการจราจรทั้งทางภาคพื้นดินและอากาศ ขณะที่สภาพอากาศอันเลวร้ายนี้ยังนำไปสู่แผ่นดินไหว ลูกเห็บขนาดยักษ์หรือแม้แต่ทอร์นาโด
พายุลมแรงได้หอบฝุ่งดินทรายแดงหลายพันตันเข้าปกคลุมเมืองใหญ่ที่สุดของออสเตรเลีย จนบรรยากาศรอบๆเป็นสีส้มปกคลุมโอเปราเฮาส์ อันโด่งดังของซิดนีย์ จนแทบมองไม่เห็น
ทั้งนี้พายุทรายหนนี้ถือว่าเป็นครั้งเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ปีช่วงปี 1940 ขณะที่นักวิเคราะห์บอกว่ามันถูกพัดขึ้นชายฝั่งมลรัฐควีนส์แลนด์ ด้วยความเร็วถึง 600 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและอาจส่งผลกระทบไปถึงนิวซีแลนด์ ที่อยู่ห่างออกไปถึง 4,000 กิโลเมตรด้วย
ฝุ่นสีส้มยังปกคลุมไปเกือบทั่วนิวเซาต์เวลส์ มลรัฐที่มีประชากรมากที่สุดของประเทศ ส่งผลให้มลพิษทางอากาศแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์และก่อฝุ่นทรายทับถมในทะเลแทสแมน ราว 75,000 ตันในทุกๆชั่วโมง
"พายุทรายเช่นนี้เกิดขึ้นเป็นปกติ แต่ไม่บ่อยครั้งนักที่มันจะพัดมาถึงฝั่งตะวันออกและซิดนีย์ไกลเช่นนี้" จอห์น เลยส์ ผู้เชี่ยวชาญจากกระทรวงน้ำและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งรัฐนิวเซาต์เวลส์ระบุ
พลเมืองในซิดนีย์ต่างพากันสวมหน้ากากหรือใช้ผ้าพันคอปิดปากขณะที่ต้องออกเดินทางไปทำงานภายใต้ท้องฟ้าอันพร่ามัวและการจราจรที่ตัดขัดอย่างหนักบนถนนหลายหลัก ส่วนทางการมีคำเตือนให้ประชาชนที่เป็นโรคหอบหืด หรือมีปัญหาระบบทางเดินหายใจว่าไม่ควรออกนอกบ้าน
ด้านการขนส่งทางอากาศต้องเผชิญความโกลาหลอย่างรุนแรง โดยผู้โดยสารต้องเจอปัญหาเลื่อนเที่ยวบิน ณ สนามบินซิดนีย์ พร้อมกันนั้นยังส่งผลให้เที่ยวบินระหว่างประเทศหลายเที่ยวต้องเปลี่ยนไปลงจอดที่สนามบินอื่น ขณะที่เรือเฟอร์รี่ต้องหยุดให้บริการ ส่วนรถไฟ และผู้ใช้ถนนได้รับการแจ้งเตือนให้ใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษเนื่องจากมีปัญหาทัศนวิสัย
ในนิวเซาต์เวลส์ ลูกเห็บยักษ์ "ขนาดเท่าลูกคริกเก็ต" พุ่งเข้ากระแทกกระจกอาคารบ้านเรือนได้รับความเสียหาย ช่วงที่พายุฝนและลมกรรโชกแรงพัดกระหน่ำมลรัฐแห่งนี้ในช่วงค่ำวันอังคาร(22)
ที่มลรัฐวิคตอเรีย ทางการได้ประกาศเตือนภัยน้ำป่าไหลหลากจากฝนตกหนัก หลังเมื่อวันอังคาร(22) เกิดแผ่นดินไหวไม่รุนแรง 2 ครั้ง 3.0 กับ 2.6 ริกเตอร์ ที่ไม่ก่อความเสียหายใดๆ
ตำรวจทางตะวันตกเฉียงใต้ของนิวเซาต์เวลส์ ติดพรมแดนมลรัฐวิคตอเรีย รายงานว่าด้วยสภาพอากาศอันเลวร้ายในวันอังคาร(22) ทำให้ผู้ขับขี่มีทัศนวิสัยมองเห็นได้ไกลเพียง 2 ถึง 3 เมตรเท่านั้นในบางพื้นที่
"ผมโตมาจากที่นี่ และผมไม่เคยเห็นอะไรเช่นนี้มาก่อนในชีวิต" เจ้าหน้าที่ตำรวจรายหนึ่งในโบรเคนฮิลล์ ระบุ "มันมืดกว่าเวลากลางคืนเสียอีก"