ผู้ประกอบการด้านยานยนตร์ ดึงธุรกิจอสังหาฯต่อยอดเครือข่าย กลุ่มทุนนวลิสซิ่งฯ ดันแบรนด์ “เปรมสิริฯ” รุกคืบต่อรองรับโอกาสเศรษฐกิจฟื้นตัว ทุ่มงบ 300 ล้านบาทซื้อที่ดิน 3 แปลง เล็งผุดคอนโดฯ ทาวน์โฮม- บ้านเดี่ยว ย่านเกษตร-นวมินทร์ มูลค่าโครงการกว่า 2,000 ล้านบาท เผยคอนโดฯเฟส 2 ในโครงการเปรมสิริ บูทิค พาร์คฯ ดีเกินคาด ยอดขายพุ่งกว่า 80%
ถึงแม้ภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในขณะนี้ ยังอยู่ในช่วงของการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สภาพเศรษฐกิจในประเทศถูกผลกระทบจากปัญหาการเมือง และการวิกฤตเศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกา ได้ส่งผลเป็นวงกว้างต่ออัตราเติบโตของเศรษฐกิจโลก และกำลังซื้อที่ถดถอยลง เนื่องจากมูลค่าตลาดหุ้นทั่วโลกลดลงอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม ธุรกิจอสังหาฯในไทย ก็เป็นตลาดที่ยังมีผู้ที่สนใจเข้ามา”ทดสอบ”ตลาดและหาโอกาสในการขยายลู่ทางในธุรกิจอสังหาฯให้มากขึ้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่จะมีธุรกิจอื่นๆ เข้ามาลงทุนในอสังหาฯ อย่างเช่น ผู้ประกอบการในแวดวงอุตฯรถยนต์ หรือแม้แต่ดีลเลอร์รถยนต์ ได้เข้ามาเล่นบนเวทีอสังหาฯ อย่างเช่น บริษัท ซัมมิท คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์รายใหญ่ของเมืองไทย เปิดตัวโครงการ “โมโนโพลี พาร์ค”คอมมูนิตี้มอลล์แห่งใหม่ ย่านพระราม 3 บนพื้นที่ 3 ไร่ เชิงสะพานวงแหวนอุตสาหกรรม โดยใช้เงินลงทุนประมาณ 500 ล้านบาท
กลุ่มไทยรุ่งยูเนี่ยนคาร์ จำกัด (มหาชน) แตกบริษัทลูก สินธรณี พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เพื่อพัฒนาที่ดินของตระกูลให้มีมูลค่าเพิ่มทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด โดยเฉพาะกลุ่มตระกูลพรประภา ที่มีแผนจะเนรมิตที่ดินรอบสนามกอล์ฟสยามคันทรีคลับ ที่พัทยา ให้กลายเป็นเมือง ซึ่งเป็นโครงการที่มีทั้งสนามกอล์ฟและที่อยู่อาศัยครบวงจร นอกจากนี้ ยังมีโรงแรมในกรุงเทพฯ
ล่าสุด กลุ่มค้าปลีกรถยนต์หรู “เบนซ์ บีเคเค ” ได้แตกไลน์เข้าสู่ธุรกิจอสังหาฯ ภายใต้บริษัทลูก บีเคเค แกรนด์ เอสเตท จำกัด เตรียมนำร่องโครงการแรกภายใต้ชื่อ “ The Terminal Condominium & Community Life Style Mall ” มูลค่าลงทุน 1,000 ล้านบาท เนื้อที่ 8-9 ไร่ บนถนนสุขุมวิท บริเวณสี่แยกบางนา โดยจะเริ่มเปิดขายพรีเซลคอนโดฯตึกเอในช่วงปลายเดือนพ.ย.
ทุนนวลิสซิ่งดัน’เปรมสิริ’รุกอสังหาฯต่อ
นายจรูญ จำปาปน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ด้านวางแผนธุรกิจ- การตลาด บริษัท เปรมสิริ จำกัด กล่าวถึงแผนการตลาดในปี 52 และต่อเนื่องถึงปี 2553 ว่า ทางบริษัทฯได้เตรียมงบเพื่อจัดซื้อที่ดินไว้ 300 ล้านบาท เพื่อรองรับแผนพัฒนาโครงการใหม่ 3 โครงการ รวมโครงการมีมูลค่าขาย 2,000 ล้านบาท โดยที่ดิน 2 แปลงแรก เน้นอยู่ในทำเลเลียบถนนเกษตร-นวมิทร์ และอีก1แปลง จะเป็นที่ดินในย่านถนนสายไหม
โดยขณะนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาซื้อที่ดินแปลงแรก มีเนื้อที่ 8ไร่ และอยู่ในรัศมีไม่เกิน 5 กิโลเมตร จากโครงการแรกที่ลงทุนไปก่อนหน้านี้ คือ โครงการเปรมสิริ บูทิค พาร์คฯ โดยตามแผนการพัฒนาโครงการในที่ดินแปลงใหม่จะเป็นรูปแบบโครงการคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ 8ชั้น จำนวน 4 อาคาร รวม 800 ยูนิต ส่วนราคาขายของโครงการใหม่จะเริ่มต้นที่ 1.2-2.4 ล้านบาท หรือมีราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 1.5 ล้านบาท โครงการมีมูลค่าขายรวม 1,000ล้านบาท
ทั้งนี้ ตามแผนจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการได้ในช่วงต้นปี 2553 และเริ่มพรีเซลโครงการได้ในช่วงเดือนก.ย.53 ส่วนอีก1โครงการย่านเกษตร-นวมินทร์ จะพัฒนาเป็นโครงการทาวน์โฮมผสมบ้านเดี่ยว ราคาเริ่มต้น 3.5 ล้านบาท พื้นที่พัฒนาโครงการ 10-15 ไร่ อยู่ระหว่างการเจรจาราคาเช่นกัน ส่วนโครงการสุดท้ายในย่านถนนสายไหม พัฒนาเป็นโครงการบ้านเดี่ยว ราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาราคาเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่สามารถปิดการขายโครงการเปรมสิริ บูทิค พาร์ค เฟสแรก และทยอยมอบโอนห้องชุดในโครงการเปรมสิริ บูทิค พาร์ค ย่านเกษตรนวมินทร์ ได้โอนกรรมสิทธิ์ให้แก่ลูกค้าไปบางส่วนตั้งแต่เดือนมี.ค.2550
ล่าสุด บริษัทได้ลงทุนพัฒนาคอนโดฯเฟสที่ 2 จำนวน1อาคารสูง 22ชั้นจำนวน 252ยูนิต มูลค่ากว่า 300-400ล้านบาท ขณะนี้สามารถทำยอดขายได้แล้ว 70-80% และคาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ในสิ้นปีนี้
อนึ่ง บริษัท เปรมสิริฯ ถือเป็นหนึ่งในธุรกิจของกลุ่มทุนบริษัท นวลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ NVL โดยมีนายสมชัย พันธ์สายเชื้อนั่งตำแหน่งประธานกรรมการบริหารบริษัทเปรมสิริฯและเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่NVL ทั้งนี้ ที่ผ่านมา นวลีสซิ่งทำธุรกิจตัวแทนขายรถยนต์ทั้งฮอนด้า นิสสันและฟอร์ด โดยมีบริษัทในเครือรวม 11 บริษัท รวมยอดขายปีละไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท ซึ่งนอกจากเปรมสิริจะพัฒนาบ้านเพื่อนำออกขาย ยังมีธุรกิจปล่อยเช่าอาคารสำนักงาน เช่น ให้ บริษัทในเครือ คือ สยามนิสสัน อินเตอร์เทรด เช่าอาคารสำนักงานบนเนื้อที่ 3 ไร่ และจะสนับสนุนให้เปรมสิริฯมีรายได้จากค่าเช่าพื้นที่ 14,000 ตร.ม.มูลค่า 300 ล้านบาท
สำหรับแผนการพัฒนาโครงการเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ ที่อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ได้ยกเลิกแผนโครงการดังกล่าว ส่วนโครงการโรงแรมที่เมืองพัทยา ต้องชะลอออกไปอีก 5 ปี
ถึงแม้ภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในขณะนี้ ยังอยู่ในช่วงของการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สภาพเศรษฐกิจในประเทศถูกผลกระทบจากปัญหาการเมือง และการวิกฤตเศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกา ได้ส่งผลเป็นวงกว้างต่ออัตราเติบโตของเศรษฐกิจโลก และกำลังซื้อที่ถดถอยลง เนื่องจากมูลค่าตลาดหุ้นทั่วโลกลดลงอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม ธุรกิจอสังหาฯในไทย ก็เป็นตลาดที่ยังมีผู้ที่สนใจเข้ามา”ทดสอบ”ตลาดและหาโอกาสในการขยายลู่ทางในธุรกิจอสังหาฯให้มากขึ้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่จะมีธุรกิจอื่นๆ เข้ามาลงทุนในอสังหาฯ อย่างเช่น ผู้ประกอบการในแวดวงอุตฯรถยนต์ หรือแม้แต่ดีลเลอร์รถยนต์ ได้เข้ามาเล่นบนเวทีอสังหาฯ อย่างเช่น บริษัท ซัมมิท คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์รายใหญ่ของเมืองไทย เปิดตัวโครงการ “โมโนโพลี พาร์ค”คอมมูนิตี้มอลล์แห่งใหม่ ย่านพระราม 3 บนพื้นที่ 3 ไร่ เชิงสะพานวงแหวนอุตสาหกรรม โดยใช้เงินลงทุนประมาณ 500 ล้านบาท
กลุ่มไทยรุ่งยูเนี่ยนคาร์ จำกัด (มหาชน) แตกบริษัทลูก สินธรณี พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เพื่อพัฒนาที่ดินของตระกูลให้มีมูลค่าเพิ่มทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด โดยเฉพาะกลุ่มตระกูลพรประภา ที่มีแผนจะเนรมิตที่ดินรอบสนามกอล์ฟสยามคันทรีคลับ ที่พัทยา ให้กลายเป็นเมือง ซึ่งเป็นโครงการที่มีทั้งสนามกอล์ฟและที่อยู่อาศัยครบวงจร นอกจากนี้ ยังมีโรงแรมในกรุงเทพฯ
ล่าสุด กลุ่มค้าปลีกรถยนต์หรู “เบนซ์ บีเคเค ” ได้แตกไลน์เข้าสู่ธุรกิจอสังหาฯ ภายใต้บริษัทลูก บีเคเค แกรนด์ เอสเตท จำกัด เตรียมนำร่องโครงการแรกภายใต้ชื่อ “ The Terminal Condominium & Community Life Style Mall ” มูลค่าลงทุน 1,000 ล้านบาท เนื้อที่ 8-9 ไร่ บนถนนสุขุมวิท บริเวณสี่แยกบางนา โดยจะเริ่มเปิดขายพรีเซลคอนโดฯตึกเอในช่วงปลายเดือนพ.ย.
ทุนนวลิสซิ่งดัน’เปรมสิริ’รุกอสังหาฯต่อ
นายจรูญ จำปาปน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ด้านวางแผนธุรกิจ- การตลาด บริษัท เปรมสิริ จำกัด กล่าวถึงแผนการตลาดในปี 52 และต่อเนื่องถึงปี 2553 ว่า ทางบริษัทฯได้เตรียมงบเพื่อจัดซื้อที่ดินไว้ 300 ล้านบาท เพื่อรองรับแผนพัฒนาโครงการใหม่ 3 โครงการ รวมโครงการมีมูลค่าขาย 2,000 ล้านบาท โดยที่ดิน 2 แปลงแรก เน้นอยู่ในทำเลเลียบถนนเกษตร-นวมิทร์ และอีก1แปลง จะเป็นที่ดินในย่านถนนสายไหม
โดยขณะนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาซื้อที่ดินแปลงแรก มีเนื้อที่ 8ไร่ และอยู่ในรัศมีไม่เกิน 5 กิโลเมตร จากโครงการแรกที่ลงทุนไปก่อนหน้านี้ คือ โครงการเปรมสิริ บูทิค พาร์คฯ โดยตามแผนการพัฒนาโครงการในที่ดินแปลงใหม่จะเป็นรูปแบบโครงการคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ 8ชั้น จำนวน 4 อาคาร รวม 800 ยูนิต ส่วนราคาขายของโครงการใหม่จะเริ่มต้นที่ 1.2-2.4 ล้านบาท หรือมีราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 1.5 ล้านบาท โครงการมีมูลค่าขายรวม 1,000ล้านบาท
ทั้งนี้ ตามแผนจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการได้ในช่วงต้นปี 2553 และเริ่มพรีเซลโครงการได้ในช่วงเดือนก.ย.53 ส่วนอีก1โครงการย่านเกษตร-นวมินทร์ จะพัฒนาเป็นโครงการทาวน์โฮมผสมบ้านเดี่ยว ราคาเริ่มต้น 3.5 ล้านบาท พื้นที่พัฒนาโครงการ 10-15 ไร่ อยู่ระหว่างการเจรจาราคาเช่นกัน ส่วนโครงการสุดท้ายในย่านถนนสายไหม พัฒนาเป็นโครงการบ้านเดี่ยว ราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาราคาเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่สามารถปิดการขายโครงการเปรมสิริ บูทิค พาร์ค เฟสแรก และทยอยมอบโอนห้องชุดในโครงการเปรมสิริ บูทิค พาร์ค ย่านเกษตรนวมินทร์ ได้โอนกรรมสิทธิ์ให้แก่ลูกค้าไปบางส่วนตั้งแต่เดือนมี.ค.2550
ล่าสุด บริษัทได้ลงทุนพัฒนาคอนโดฯเฟสที่ 2 จำนวน1อาคารสูง 22ชั้นจำนวน 252ยูนิต มูลค่ากว่า 300-400ล้านบาท ขณะนี้สามารถทำยอดขายได้แล้ว 70-80% และคาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ในสิ้นปีนี้
อนึ่ง บริษัท เปรมสิริฯ ถือเป็นหนึ่งในธุรกิจของกลุ่มทุนบริษัท นวลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ NVL โดยมีนายสมชัย พันธ์สายเชื้อนั่งตำแหน่งประธานกรรมการบริหารบริษัทเปรมสิริฯและเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่NVL ทั้งนี้ ที่ผ่านมา นวลีสซิ่งทำธุรกิจตัวแทนขายรถยนต์ทั้งฮอนด้า นิสสันและฟอร์ด โดยมีบริษัทในเครือรวม 11 บริษัท รวมยอดขายปีละไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท ซึ่งนอกจากเปรมสิริจะพัฒนาบ้านเพื่อนำออกขาย ยังมีธุรกิจปล่อยเช่าอาคารสำนักงาน เช่น ให้ บริษัทในเครือ คือ สยามนิสสัน อินเตอร์เทรด เช่าอาคารสำนักงานบนเนื้อที่ 3 ไร่ และจะสนับสนุนให้เปรมสิริฯมีรายได้จากค่าเช่าพื้นที่ 14,000 ตร.ม.มูลค่า 300 ล้านบาท
สำหรับแผนการพัฒนาโครงการเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ ที่อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ได้ยกเลิกแผนโครงการดังกล่าว ส่วนโครงการโรงแรมที่เมืองพัทยา ต้องชะลอออกไปอีก 5 ปี
