xs
xsm
sm
md
lg

เซ็นทาราหวัง 5 ปีผงาดขึ้นผู้นำ รร.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เซ็นทารา วางหมุดผู้นำด้านโรงแรมใน 5 ปี กับจำนวนโรงแรมที่บริหารถึง 77 แห่ง มุ่งรับบริหารโรงแรมมากกว่าเปิดเอง พร้อมแตกไลน์แบรนด์ใหม่ จับโรงแรมระดับ 3 และ 2 ดาวลงมา ล่าสุดเปิดตัว เซ็นทารา แกรนด์ มิราจบีช รีสอร์ทพัทยา โรงแรมแห่งแรกในตรีม ลอสเวิล์ด พร้อมเผย 2 โปรเจกต์ใหม่ทั้งมัลดีฟและภูเก็ต มีมูลค่ารวมกว่า 4,200 ล้านบาท มั่นใจ 5 ปีข้างหน้า รายได้พุ่งถึง 14,000 ล้านบาท

นายสุทธิเกียรติ จิราธิวัฒน์ ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานของบริษัท คือ การเป็นผู้นำด้านโรงแรมไม่ว่าจะเป็น จำนวนโรงแรมและจำนวนห้องพักที่มากที่สุด และต้องมีคุณภาพในการบริการที่ดี ดังนั้นนโยบายของบริษัทหลังจากนี้ จะมุ่งเน้นรับบริหารโรงแรมให้กับโรงแรมอื่นๆทั้งในและต่างประเทศด้วย

เพราะตลอด 30 ปีที่ผ่านมา เชื่อว่าเรามีประสบการณ์ และการจัดการที่ดี มั่นใจว่า เชนโรงแรมไทยอย่าง เซ็นทารา สามารถบริหารโรงแรมได้ดีไม่แพ้เชนอินเตอร์เนชันแนล ทั้งนี้ที่ผ่านมาพบว่า ธุรกิจโรงแรมในประเทศประสบปัญหาค่อนข้างมาก มีผู้ที่ต้องการให้เราเข้าไปช่วยบริหารไม่ต่ำกว่า 20-30 ราย จึงทำให้เราได้จัดตั้งบริษัท เซ็นทารา อินเตอร์เนชันแนล เมเนจเม้นท์ จำกัด ขึ้นมา ตั้งแต่ ต.ค.ปีก่อน เพื่อดูแลเรื่องการรับบริหารโรงแรมทั้งในและต่างประเทศโดยเฉพาะ โดยปัจจุบันมีโรงแรมที่รับบริหารอยู่กว่า 8 ราย ส่งผลให้เรามีโรงแรมที่บริหารรวมกว่า 21 แห่ง โดยที่เหลือ 9 แห่ง เป็นโรงแรมที่เราลงทุนเอง และอีก 4 แห่งเป็นการร่วมทุน มั่นใจว่าใน 5 ปีหลังจากนี้ จะขึ้นเป็นผู้นำได้ ซึ่งถึงตอนนั้น คาดว่าจะมีจำนวนโรงแรมในเครือกว่า 77แห่ง เป็นรับบริหารถึง 65 แห่ง

นอกจากนโยบายมุ่งรับบริหารโรงแรมแล้ว บริษัทยังมีแผนที่จะเปิดตัวโรงแรมระดับ 3ดาวและ 2ดาวลงมาด้วย เพื่อให้มีความหลากหลายและครอบคลุม ซึ่งโรงแรมระดับนี้ยังคงมีคุณภาพการบริการที่ดีตามมาตรฐาน ทั้งนี้มองว่าจะต้องมีแบรนด์มารองรับใหม่ด้วย โดย เซ็นทารา ยังคงเป็นแบรนด์ที่ใช้กับโรงแรมระดับ 5 ดาวขึ้นไปซึ่งบริษัทยังมีแลนด์แบงค์อยู่อีกหลายแห่งที่จะสร้างโรงแรมได้

ล่าสุด บริษัทได้เปิดตัวโรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ มิราจ บีช รีสอร์ท พัทยา ขึ้นอย่างเป็นทางการ มูลค่าการลงทุนกว่า 4,400 ล้านบาท เป็นโรงแรมที่ถือเป็นตรีมโฮเทลแห่งแรกของประเทศไทย ในตรีม ลอสเวิล์ด โดยยังคงความเป็นโรงแรมแอนด์รีสอร์ท ระดับ 5 ดาว ประกอบด้วยตึก2ตึก เชื่อมต่อกันด้วยสะพาน มีทั้งหมด 18 ชั้น จำนวนห้องพัก 555 ห้อง จับกลุ่มลูกค้า MICE และกลุ่มครอบครัวมั่นใจว่าใน5ปีจะคืนทุน

อย่างไรก็ตาม หลังจากปี 2553 ที่จะเปิดตัวโรงแรมที่ ภูเก็ต แล้ว บริษัทจะเหลือแคชโฟร์ประมาณปีละ 2,000 ล้านบาท ดังนั้น หลังจากปี 2553 การลงทุนของบริษัทในช่วงนั้นจะอยู่ในระดับ 1,000-1,500 ล้านบาท โดยการลงทุนด้านโรงแรมจะน้อยลง มุ่งเรื่องรับบริหารโรงแรมมากขึ้น คาดว่าใน 5 ปีจะขึ้นเป็นผู้นำได้ ด้วยจำนวนโรงแรมที่บริหารรวมทั้งสิ้นไม่ต่ำกว่า 77 แห่งพร้อมจำนวนรายได้รวมที่คาดว่าจะสูงถึง 14,000 ล้านบาท มาจากโรงแรม 50% และฟูด 50% จากปีก่อนอยู่ที่ 8,200 ล้านบาท มาจากฟูด 57% และโรงแรม 43%
กำลังโหลดความคิดเห็น