xs
xsm
sm
md
lg

เซ็นเทลรุกบริหารอพาร์ทเมนต์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เซ็นทาราสยายปีกธุรกิจรับบริหารสู่เซอร์วิสอพาร์ทเมนต์ ย้ำไม่ซ้ำซ้อนธุรกิจโรงแรม ประเดิมแกรนด์เรสซิเดนซ์ราชประสงค์ แย้มยังมีโครงการใหม่อีก ชี้ราคาห้องพักโรงแรมกลางเมืองของไทยตกลง เหตุผุดกันเพียบ แต่เซ็นทาราไม่ได้ผลกระทบ โชว์ราคาเฉลี่ยเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำ
นายเกิร์ด สตีบ กรรมการผู้จัดการใหญ่ โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ขยายธุรกิจด้วยการรุกเข้าสู่การรับจ้างบริหารเซอร์วิสอพาร์ทเมนต์ จากเดิมที่ในส่วนรับบริหารนั้นจะมีแต่โรงแรมและรีสอร์ทเป็นหลัก โดยล่าสุดเตรียมเซ็นสัญญาเข้าบริหารให้กับโครงการเซ็นทาราแกรนด์เรสซิเดนซ์ ราชประสงค์ เป็นคอนโดมิเนียมและเซอร์วิสอพาร์ทเมนต์ บนถนนราชดำริในซอยมหาดเล็กหลวง 3 ประกอบด้วยคอนโดมิเนียม 132 ห้อง และเซอร์วิสอพาร์ทเมนต์ 98 ห้อง รวมมูลค่าโครงการเกือบ 2,000 ล้านบาท กำหนดเสร็จเดือนตุลาคมนี้
“บริษัทฯมองว่า ธุรกิจเซอร์วิสอพาร์ทเม้นต์ยังไปได้ดี และคงไม่ซ้ำซ้อนกับตลาดโรงแรมที่เราทำอยู่ เพราะกลุ่มเป้าหมายต่างกัน และในอนาคตก็จะมีโครงการใหม่ๆที่รับเข้ามาบริหารอีกด้วย ซึ่งเดิมเราเน้นรับบริหารพวกโรงแรม รีสอร์ทเป็นหลัก และเราก็มั่นใจเนื่องจากว่าก่อนหน้านีก็เคยรับบริหารให้กับ โครงการเซ็นเตอร์ วอเตอร์ ฟร้อนท์ สวีท มาแล้ว ซึ่งขณะนี้หมดสัญญาบริหารเหลือแต่เพียงการทำตลาดให้เท่านั้น”
ขณะที่ตลาดโรงแรมนั้น นายเกิร์ด มองว่า ยังเป็นธุรกิจหลักและมีอนาคต แต่ยอมรับว่าขณะนี้มีโรงแรมเกิดขึ้นจำนวนมากโดยเฉพาะในเขตใจกลางเมืองและย่านธุรกิจทำให้เกิดการแข่งขันด้านราคาบ้างพอสมควร ซึ่งภาพรวมเหลือเฉลี่ยราคาห้อง 5,000 – 6,000 บาทต่อห้อง ขณะที่ ในสิงคโปร์สูงกว่าเฉลี่ยประมาณ 200 เหรียญสิงคโปร์ และที่ฮ่องกงมากกว่า 200 เหรียญ ขณะที่ทำเลอื่นที่ไม่ใช่ใจกลางเมืองเหลือเฉลี่ย 2,000 บาท
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของเครือเซ็นทารานั้น มั่นใจในทำเลและศักยภาพของโรงแรมในเครือทั้งหมด ที่จะไม่ได้รับผลกระทบจากการแข่งขันนี้ แต่กลับมีราคาที่เพิ่มขึ้นทำรายได้ดีกว่าคื อสิ้นปีที่แล้วมีราคาค่าห้องพักเฉลี่ยทั้งเครืออยู่ที่ 3,000 บาท ต่อคืน ส่วนปีนี้คาดว่าในเครือจะเพิ่มขึ้นเป็น 3,295 บาทต่อคืน รวมทั้งอัตราการเข้าพักทั้งเครือเฉลี่ยอยู่ที่ 62% มากกว่าตลาดรวมที่อยู่ประมาณ 60% เท่านั้น ทั้งๆที่ในปีที่แล้วมีโรงแรมในเครือบางแห่งที่เปิดบริการได้ไม่เต็มที่เพราะว่าปรับปรุงเกือบ 5 แห่ง เฉลี่ยหายไป 5% และคาดว่าปีนี้อัตราเข้าพักของเครือเซ็นทาราจะเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็น 68%
โดยในปีนี้คาดว่าจะต้องใช้งบลงทุนรวมประมาณ 4,000 ล้านบาท แยกเป็นธุรกิจอาหาร ประมาณ 340 ล้านบาท ส่วนธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ท ที่สร้างใหม่ประมาณ 3,300 ล้านบาท และที่ปรับปรุงประมาณ 347 ล้านบาท ขณะที่ปี 2552 ตั้งงบลงทุนด้านธุรกิจโรงแรมไว้ที่ 2,000 ล้านบาท ส่วนปี 2553 งบลงทุนประมาณ 370 ล้านบาท เนื่องจากโครงการขนาดใหญ่เริ่มเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ส่วนผลประกอบการของปี 2550 รวมประมาณ 7,200 ล้านบาท ทั้งที่ตั้งเป้าไว้ที่ 7,000 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนหน้าประมาณ 6.5% ที่มีรายได้รวมประมาณ 6,800 ล้านบาท และปีนี้คาดว่าจะมีรายได้รวมที่ 8,200 ล้านบาท
ทั้งนี้รายได้รวมปีนี้คาดว่าจะแยกเป็น รายได้จากโรงแรม ประมาณ 3,600 ล้านบาท เพิ่มจากปีที่แล้วที่มีประมาณ 2,800 ล้านบาท ส่วนรายได้ที่รับบริหารจะมีประมาณ 49 ล้านบาท เพิ่มจากปีที่แล้วที่มีประมาณ 32 ล้านบาท ขณะที่ธุรกิจอาหารปีนี้คาดจะมีรายได้ 4,600 ล้านบาท เพิ่มจากปีที่แล้วที่ทำได้ 4,200 ล้านบาท
โครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการคือ เซ็นทาราแกรนด์รีสอร์ทภูเก็ต งบลงทุน 2,000 ล้านบาท พื้นที่ 41 ไร่ รีสอร์ทหรู 5 ดาว จำนวน 262 ห้อง และวิลล่าชนิด 1 และ 2 ห้องนอน, โครงการรับบริหารเซ็นทาราแกรนด์ เรสซิเดนซ์ราชประสงค์ ถนนราชดำริ , โครงการเซ็นทาราแกรนด์มิราจบีชรีสอร์ทพัทยา อยู่ระหว่างก่อสร้าง ประกอบด้วยอาคารสูง 18 ชั้น จำนวน 2 ตึก มีห้องพัก 555 ห้อง งบลงทุน 4,000 ล้านบาท , ส่วนรีสอร์ทที่เพิ่งเซ็นสัญญารับบริหารและเปิดบริการไปแล้วเมื่อเดือนมีนาคมคือ เซ็นทาราชานทะเลรีสอร์ทและวิลลา ตราด ระดับ 4 ดาว ห้องพัก 44 ห้อง ซึ่งปัจจุบันเครือเซ็นทาราเป็นเจ้าของและหรือบริหารโรงแรมและรีสอร์ททั้งหมด 13 แห่ง
ส่วนศูนย์ฝึกอบรมวิชาชบีพการโรงแรมเซ็นทาราอะคาเดมี ตั้งขจนมาครอบ 1 ปีแล้ว ซึ่งเป็นความร่วมมือของเครือเซ็นทารา กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงานและมหาวิทยาลัยรังสิต ใช้งบประมาณไปแล้วกว่า 10 ล้านบาท ซึ่งรุ่นที่หนึ่งจะจบเดือนเมษายนนี้จำนวน 37 คน รองรับเข้าทำงานในเครือเซ็นทาราทันทีที่ได้รับวุฒิบัตร ซึ่งปีนี้เตรียมงบอีก 15 ล้านบาทเพื่อรองรับรุ่นที่สองอีก 60 คน
กำลังโหลดความคิดเห็น