xs
xsm
sm
md
lg

ยูไนเต็ดแนะเก็บหุ้นที่650จุด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บลจ.ยูไนเต็ด ชี้นักลงทุนหนีดอลลาร์อ่อนค่า โดดเข้า "ตลาดหุ้น-ทองคำ" ดันราคาพุ่ง ชี้หุ้นไทยได้อานิสงส์ระยะสั้น คาดเร็วนี้ อาจเห็นการปรับฐาน แนะเข้าเก็บหากดัชนีดิ่งแตะระดับ 650 จุด ด้านแผนรับบริหารเงินนักการเมือง ล่าสุด งานเข้าแล้ว เตรียมรุดหารือ ปปช.และก.ล.ต. ทำได้จริงหรือไม่ ย้ำให้บริการคนดีเท่านั้น

นายสุพรรณ เศษธะพานิช ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.)ยูไนเต็ด จำกัด เปิดเผยว่า จากการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในประเทศต่างๆได้ส่งผลให้มีเม็ดเงินไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ กระแสเงินที่ไหลเข้ามาลงทุนในไทย สำหรับบลจ.ยูไนเต็ด มองว่าเป็นการเข้ามาลงทุนในระยะสั้น มากกว่าในระยะยาว โดยปัจจัยที่มีผลต่อการไหลเข้าของเงินนั้น มีทั้งการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐซึ่งส่งผลทำให้ผลตอบแทนที่นักลงทุนได้รับลดลง ดังนั้น นักลงทุนจึงโยกเงินมาลงทุนในสินทรัพย์อย่างอื่นแทน เช่น การลงทุนในตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ยังสามารถให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า

อย่างไรก็ตาม การอ่อนค่าของค่าเงินสกุลดอลลาร์ได้ส่งผลให้ตลาดหุ้น รวมไปถึงราคาทองคำมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง การที่จีนใช้ค่าเงินหยวนเข้าซื้อตราสารทางการเงิน Special Drowing right (SDR) ซึ่งเปรียบเสมือนอีก1สกุลเงิน ที่ได้รับการยอมรับจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) โดยผ่านการประชุมของกลุ่มจี 20 และอนุมัติให้จีนสามารถเข้าซื้อ SDR ได้แทนการถือเงินสกุลเงินดอลลาร์ จึงส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาจีนได้เสนอให้ไอเอ็มเอฟมีการเสนอสกุลเงินใหม่ขึ้นมาใช้ โดยให้ออกเป็นสกุลเงินที่ไม่ใช่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่มีการใช้กันอย่างแพร่หลายในขณะนี้ ซึ่งไอเอ็มเอฟได้มีการออก SDR เพิ่มขึ้นมา โดยเงินที่ไอเอ็มเอฟนำมาออกตราสารทางการเงินใหม่นั้น ได้มาจากเงินที่ไอเอ็มเอฟได้มาจากประเทศต่างๆที่เข้ามาขอกู้ยืมเงินจากไอเอ็มเอฟนั่นเอง

“สำหรับตราสารการเงิน SDR ที่ไอเอ็มเอฟออกมาและผ่านการอนุมัติแล้วนั้น มีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 50,000 ล้านเหรียญ โดยแนวโน้มหลังจากนี้ อาจจะมีการออก SDR เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากธนาคารกลางประเทศต่างๆ ทั่วโลก มีความต้องการที่จะถือสกุลเงินอื่นนอกเหนือสกุลเงินดอลลาร์มาเป็นสกุลเงินหยวนหรือสกุลเงินอื่นๆแทน เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการอ่อนค่าหรือเสื่อมค่าของสกุลเงินนั้นๆ” นายสุพรรณกล่าว

สำหรับจุดประสงค์ที่ประเทศจีนต้องการใช้สกุลเงินอื่นนั้น ก็เพื่อต้องการหนีค่าเงินดอลลาร์ รวมไปถึงความต้องการที่จะคงสภาพของสินทรัพย์ไม่ให้ตกต่ำตามค่าเงินดอลลาร์ โดยเกือบทุกประเทศทั่วโลกได้ถือครองสกุลเงินดอลลาร์อยู่ประมาณ 30-50% และขณะนี้จีนพยายามเรียกร้องพร้อมทั้งทำการลดบทบาทของเงินสกุลนี้ลงแล้วเพิ่มเงินสกุลใหม่เข้ามาแทน ซึ่งหลังจากที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจขึ้นทั่วโลกทำให้ดอลลาร์อินเด็กซ์ปรับตัวลดลงมาอย่างต่อเนื่อง

“จากแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมไปถึงนักลงทุนที่หนีดอลลาร์ ทำให้มีกระแสเงินไหลเข้ามาลงทุนจนล้นระบบ โดยเงินที่เข้ามาจากการกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นการพักเงินของนักลงทุน ขณะที่นักลงทุนที่หนีการอ่อนค่าของดอลลาร์ เป็นเพราะเศรษฐกิจทั่วโลกกำลังอยู่ในช่วงปรับตัวเข้าหาสินทรัพย์ที่จะใช้แทนดอลลาร์ แต่ทั้งนี้ คาดว่าเมื่อถึงจุดอิ่มตัวกระแสเงินเหล่านี้ ก็จะไหลกลับเข้าสู่ดอลลาร์อีกครั้ง เพราะเริ่มที่จะมีสัญญาณต่างๆกลับมาให้เห็นบ้างแล้ว” นายสุพรรณ กล่าว

นายสุพรรณ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยได้รับกระแสเงินไหลเข้ามาแรง โดยเข้ามาลงทุนทั้งในตลาดหุ้น ทองคำและ คอมอดิตี้ ทำให้ราคาสินทรัพย์เหล่านี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอยางรวดเร็ว แต่คาดว่าเม็ดเงินที่เข้ามาจะเป็นการเข้ามาลงทุนในระยะสั้นมากกว่าระยะยาว อย่างไรก็ตาม สำหรับตลาดหุ้นในระยะสั้นมองว่าหุ้นยังมีมูลค่าที่สูงเกินไป อาจจะส่งผลให้นักลงทุนมีการขายทำกำไรบ้าง จนทำให้ดัชนีมีการปรับฐานได้ แต่ทั้งนี้ คาดว่าดัชนีจะไม่ปรับตัวลดลงมากนัก

ทั้งนี้ การที่ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นมาถึง 700 จุดได้ ถือเป็นการปรับตัวที่เกินความคาดหมาย โดยคาดว่าหลังจากนี้ดัชนีหุ้นน่าจะอยู่ที่ประมาณ 650 จุด ซึ่งหากปรับลดลงถึง 50 จุด ถือเป็นช่วงที่ดีสำหรับนักลงทุนในการเข้าซื้อ เพราะคาดว่าจากการไหลเข้าของเม็ดเงินและการกระตุ้นเศรษฐกิจจะส่งผลให้ในปีหน้าบริษัทหลักทรัพย์จดทะเบียนจะมีกำไรโตขึ้น 15 -20% อย่างไรก็ตาม การเลือกลงทุนในตลาดหุ้นยังถือเป็นช่องทางที่เหมาะสม ในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยยังต่ำอยู่

สำหรับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจไทยที่หลายฝ่ายมีการวิเคราะห์คาดการณ์กันไว้ว่าจะมีรูปแบบเป็นเช่นไร สำหรับ บลจ.ยูไนเต็ดคาดว่า เศรษฐกิจไทยจะค่อยๆปรับตัวขึ้นเป็นรูปตัว U ไม่ใช่รูปตัว V

**นักการเมืองรุดเจรจายกเงินให้บริหาร**
นายสุพรรณกล่าวว่า หลังจากเราเสนอข่าวออกไปว่าจะรับบริหารเงินให้กับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ก็มีนักการเมืองเข้ามาติดต่อสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนในกองทุนส่วนบุคคลมากขึ้น โดยหากมีนักลงทุนกลุ่มนี้สนใจที่จะเข้ามาลงทุน ทางบริษัทจะต้องมีการทำหนังสือชี้แจงต่อ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ว่านักลงทุนสามารถที่จะใช้กองทุนส่วนบุคคลในการบริหารทรัพย์สินได้จริง เนื่องจากว่ามี ส.ส. และ ส.ว.ที่ต้องการการลงทุนจะไม่มีปัญหาในการถือครองหุ้นตามที่ปรากฎมาโดยไม่ผิดกฎหมาย

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าจะมีส.ส.และส.ว.เข้ามาสอบถามถึงการลงทุนในกองทุนส่วนบุคคลและต้องการให้บริษัทบริหารทรัพย์สินให้ แต่ทางบริษัทก็ไม่ได้ตอบรับทั้งหมด โดยเราจะมีการพิจารณารับเฉพาะนักการเมืองน้ำดีเท่านั้น

”กฏหมายไม่ควรที่จะบั่นทอนคนดี อย่าทำเพื่อบันทอนคนดี อีกทั้งยังต้องมีความชัดเจนอีกด้วย เนื่องจากเป็นที่รู้กันอยู่ ว่า ส.ส.และส.ว มีทั้งคนดีและคนไม่ดีรวมอยู่ด้วยกัน"นายสุพรรณกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น