รัฐบาลเตรียมประกาศหยุดโครงการต้นกล้าอาชีพชั่วคราว หลังเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว คนว่างงานน้อยลง และเหลือในระดับปรกติ "กอร์ปศักดิ์" เตรียมเสนอ ครม.ตัดสินใจอีก 2 สัปดาห์ พร้อมแจงบทบาทเป็นโครงการพระรอง เพราะช่วยให้ปัญหาเศรษฐกิจลดความรุนแรงลง
นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารโครงการต้นกล้าอาชีพ มีมติให้ชะลอโครงการเป็นการชั่วคราวในส่วนของมาตรการชะลอการเลิกจ้าง เพื่อให้ภาคเอกชนที่เข้าร่วมโครงการต้องว่าจ้างแรงงานต่อไปอีก 1 ปี รวมทั้งให้ทบทวนเป้าหมายการทำงานของโครงการต้นกล้าอาชีพใหม่ทั้งหมด เพราะเห็นว่าสถานการณ์การว่างงานเริ่มคลี่คลายลง และกลับมาอยู่ในสถานการณ์ว่างงานในระดับปกติประมาณ 5 แสนคน
“เดิมทีทุกฝ่ายตื่นตระหนกกับสถานการณ์ที่รุนแรง โดยภาคเอกชนคาดกันว่าจะมีผู้ว่างงานมากถึง 1-2 ล้านคน ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมต้องการแรงงานเพิ่มมากขึ้น จึงมอบหมายให้สำนักงานโครงการฯ ไปจัดทำรายละเอียดทั้งหมดให้แล้วเสร็จภายใน 2 สัปดาห์ เพื่อเสนอให้ คณะรัฐมนตรี (ครม.) ตัดสินใจว่า จะเดินหน้าโครงการต่อหรือไม่”
แม้ว่าโครงการนี้ไม่ได้เป็นพระเอกในการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่เป็นส่วนหนึ่งทำให้ปัญหาเศรษฐกิจลดความรุนแรงลง เพราะทำให้เกิดการจ้างงานได้มากถึง 1.5-1.6 แสนคน แม้ไม่ได้ถึงขั้นทำให้เกิดเถ้าแก่ใหม่ได้ทันที ในที่ประชุมมีคณะกรรมการบางคนเห็นว่า ควรดำเนินโครงการต่อไปด้วยการต่อยอดให้กับแรงงาน ซึ่งเชื่อว่าในปีหน้าการว่างงานจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติที่ระดับ 5 แสนคน ดังนั้นเป้าหมายการทำงานของโครงการต้องเปลี่ยนแปลงไปด้วย
อย่างไรก็ตามในช่วงที่เหลือของโครงการต้นกล้าฯ ระยะแรกได้ผูกพันงบประมาณ 1,400-2,000 ล้านบาท ต่อไปอีก 2 เดือน จนถึงเดือนพฤศจิกายน 2552 ซึ่งจะช่วยอบรมแรงงานที่ว่างงานได้อีก 80,000-100,000 คน
ขณะเดียวกันที่ประชุมเห็นชอบโครงการนักฟุตบอลอาชีพ 3,000 คน ที่เปิดโอกาสให้เยาวชนทั้งหญิงและชายที่มีอายุตั้งแต่ 18-25 ปี สามารถเข้ามาฝึกเป็นนักฟุตบอลอาชีพในไทยแลนด์ลีก ซึ่งจะเชิญวิทยากรผู้เชี่ยวชาญจากฟีฟ่ามาฝึกอบรมให้ด้วย ซึ่งเห็นว่าเป็นโครงการที่ดีจะสามารถพัฒนานักฟุตบอลอาชีพ การเสริมสมรรถนะช่วยเหลือผู้ถูกเลิกจ้างจำนวน 380 คน เพื่อเข้ามาดำเนินการแรงงานที่ว่างงาน และโครงการสำรวจประชากรของสำนักงานสถิติแห่งชาติ จำนวน 62,000 คน
