“เอสเอ็มอีแบงก์” ออกสินเชื่อ “แฟคตอริ่ง ไทยเข้มแข็ง” ปล่อยกู้ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง รับรองสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานตามแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ วงเงิน 2 หมื่นล้าน ปล่อยกู้สูงสุด 500 ล้านต่อราย ดอกเบี้ย 5% ต่อปี คาดดันเงินหมุนเวียนกว่า 100,000 ล้านบาท
นายโสฬส สาครวิศว กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) หรือ ธพว. เปิดเผยว่า ธนาคารมีแผนออกสินเชื่อตัวใหม่ “สินเชื่อแฟคตอริ่ง ไทยเข้มแข็ง” เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้างในโครงสร้างพื้นฐานตามนโยบายไทยเข้มแข็งของรัฐบาล เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ เช่น ถนนทั่วประเทศ อ่างเก็บน้ำ โครงการก่อสร้างต่าง ๆ ในระดับส่วนกลางและท้องถิ่น เป็นต้น โดยจะเริ่มวงเงินที่ 20,000 ล้านบาท เพื่อเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินแก่ผู้ประกอบการให้สามารถทำงานในโครงการขนาดกลาง-ใหญ่ได้อย่างราบรื่น ไม่ติดขัดปัญหาด้านเงินทุนหมุนเวียนจนก่อให้เกิดปัญหาการทิ้งงานได้ และก่อให้เกิดการจ้างงานอย่างต่อเนื่องในระบบเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ สินเชื่อแฟคตอริ่ง ไทยเข้มแข็ง กู้ได้สูงสุด 500 ล้านบาทต่อราย ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน โดยธนาคารจะคิดอัตราดอกเบี้ยต่ำพิเศษ 5% ต่อปี จากอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อแฟคตอริ่งปกติ 7.5% ต่อปีซึ่งถือว่าต่ำสุดในระบบ รวมทั้งธนาคารจะพิจารณาเพิ่มสัดส่วนเงินกู้เป็น 90% ของมูลค่างานแต่ละครั้ง จากเดิมอยู่ที่ 80% นับเป็นเงื่อนไขที่จูงใจอย่างมากสำหรับผู้ประกอบการ
นายโสฬส กล่าวว่า สินเชื่อดังกล่าวจะก่อให้การหมุนเวียนของเม็ดเงินในระบบกว่า 100,000 ล้านบาท ช่วยขับเคลื่อนงานการก่อสร้างโครงการพื้นฐานขนาดใหญ่ของรัฐบาล ทำให้ผู้ประกอบการมีขีดความสามารถปฏิบัติงานที่ประมูลได้อย่างเต็มที่ และจะช่วยการสนับสนุนการจ้างงานที่ประเมินว่าเพิ่มมากขึ้น 1.5 ล้านรายได้อย่างดี
นายโสฬส สาครวิศว กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) หรือ ธพว. เปิดเผยว่า ธนาคารมีแผนออกสินเชื่อตัวใหม่ “สินเชื่อแฟคตอริ่ง ไทยเข้มแข็ง” เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้างในโครงสร้างพื้นฐานตามนโยบายไทยเข้มแข็งของรัฐบาล เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ เช่น ถนนทั่วประเทศ อ่างเก็บน้ำ โครงการก่อสร้างต่าง ๆ ในระดับส่วนกลางและท้องถิ่น เป็นต้น โดยจะเริ่มวงเงินที่ 20,000 ล้านบาท เพื่อเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินแก่ผู้ประกอบการให้สามารถทำงานในโครงการขนาดกลาง-ใหญ่ได้อย่างราบรื่น ไม่ติดขัดปัญหาด้านเงินทุนหมุนเวียนจนก่อให้เกิดปัญหาการทิ้งงานได้ และก่อให้เกิดการจ้างงานอย่างต่อเนื่องในระบบเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ สินเชื่อแฟคตอริ่ง ไทยเข้มแข็ง กู้ได้สูงสุด 500 ล้านบาทต่อราย ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน โดยธนาคารจะคิดอัตราดอกเบี้ยต่ำพิเศษ 5% ต่อปี จากอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อแฟคตอริ่งปกติ 7.5% ต่อปีซึ่งถือว่าต่ำสุดในระบบ รวมทั้งธนาคารจะพิจารณาเพิ่มสัดส่วนเงินกู้เป็น 90% ของมูลค่างานแต่ละครั้ง จากเดิมอยู่ที่ 80% นับเป็นเงื่อนไขที่จูงใจอย่างมากสำหรับผู้ประกอบการ
นายโสฬส กล่าวว่า สินเชื่อดังกล่าวจะก่อให้การหมุนเวียนของเม็ดเงินในระบบกว่า 100,000 ล้านบาท ช่วยขับเคลื่อนงานการก่อสร้างโครงการพื้นฐานขนาดใหญ่ของรัฐบาล ทำให้ผู้ประกอบการมีขีดความสามารถปฏิบัติงานที่ประมูลได้อย่างเต็มที่ และจะช่วยการสนับสนุนการจ้างงานที่ประเมินว่าเพิ่มมากขึ้น 1.5 ล้านรายได้อย่างดี
