กรมธุรกิจพลังงาน แจงข้อหาฉกรรจ์ ล็อกสเปก 3 บริษัท เปลี่ยนเชื้อเพลิงแท็กซี่แอลพีจีเป็นเอ็นจีวี 3 หมื่นคัน ยืนยัน ยังไม่ได้กำหนดทีโออาร์ พร้อมระบุ หากเปลี่ยนแล้ว ต้องทำลายเครื่องยนต์และถังแอลพีจีทั้งหมด เตรียมนำเรื่องถกในที่ประชุม กบง.พรุ่งนี้
นายพีระพล สาครินทร์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน กล่าวว่า จากกรณีที่กลุ่มผู้ประกอบการแท็กซี่ยื่นหนังสือต่อกระทรวงพลังงาน เพื่อขอเป็นผู้รับงบประมาณจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง 40,000 บาทต่อคัน ในการนำไปปรับเปลี่ยนจากแอลพีจีเป็นเอ็นจีวี เพราะมีความไม่มั่นใจว่าเงื่อนไขการประกาศทีโออาร์ในการเปิดให้ผู้ประกอบการเปลี่ยนเชื้อเพลิงจะมีการล็อกสเปกหรือไม่ และไม่มั่นใจในมาตรฐานของอุปกรณ์ที่จะติดตั้งให้
อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน ระบุว่า จะมีการหารือร่วมกันในที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงาน ในวันที่ 27 สิงหาคม 2552 (พรุ่งนี้) เบื้องต้นจะใช้งบประมาณปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์ในแท็กซี่ประมาณ 1,200 ล้านบาทจากกองทุนน้ำมันให้แล้วเสร็จภายในเดือนพฤศจิกายน 2552 นี้
ทั้งนี้ ยืนยันว่า กระทรวงพลังงาน ยังไม่ได้ทำร่างทีโออาร์ และไม่มีการล็อกสเปกแน่นอน เพราะปัจจุบันนี้มีผู้ได้รับใบอนุญาตปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์ 20 ราย ที่จะมีการเปิดทีโออาร์ให้เข้ามาแข่งขันกัน สำหรับแนวทางการเปลี่ยนเครื่องยนต์นั้นต้องดูมาตรฐานของอุปกรณ์ ราคา และเมื่อเปลี่ยนเชื้อเพลิงแล้วอุปกรณ์แอลพีจีทั้งหมดต้องนำไปทำลาย เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายที่ไม่ส่งเสริมให้นำถังแอลพีจีมาใช้ในรถยนต์ซ้ำอีก ซึ่งอยู่ระหว่างพิจารณาว่าการประมูลจะแยกออกเป็นการติดตั้งเครื่องยนต์และการทำลายอุปกรณ์แอลพีจี หรือให้ผู้ชนะประมูลติดตั้งทำลายอุปกรณ์แอลพีจีไปพร้อมกัน
