เจเอสพี ฟิวเจอร์ส ถูกระงับการดำเนินธุรกิจการเป็นนายหน้าซื้อขายสัญญาสินค้าเกษตรชั่วคราวตามคำสั่ง สำนักงาน ก.ส.ล. เหตุบริษัทฯ มีระดับวงเงินสดสำรองต่ำกว่าหลักเกณฑ์ที่กำหนด ยันไม่ส่งผลกระทบต่อวงเงินในบัญชีซื้อขายของลูกค้า
บริษัท เจเอสพี ฟิวเจอร์ส จำกัด โบรกเกอร์ใหญ่ในตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า หรือ AFET ถูกระงับการดำเนินธุรกิจการเป็นนายหน้าซื้อขายสัญญาสินค้าเกษตรล่วงหน้าเป็นการชั่วคราว ตามคำสั่งของสำนักงานคณะกรรมการคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า (สำนักงาน ก.ส.ล.) อ้างอิงคำสั่งของ นายสุดใจ สูนาสวน (รักษาการ) เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า ลงวันที่ 31 กรกฎาคม 2552 ให้พักใช้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนายหน้าซื้อขายล่วงหน้าของบริษัทฯ เนื่องจาก บริษัทฯ มีระดับวงเงินสดสำรองต่ำกว่าหลักเกณฑ์ที่ ก.ส.ล. กำหนด โดย ก.ส.ล. เสนอให้ บริษัทเร่งดำเนินการเพิ่มทุนเพื่อกลับมาซื้อขายตามปกติอีกครั้ง
นายชานนทน์ ภู่เจริญยศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเอสพี ฟิวเจอร์ส จำกัด ชี้แจงว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นผลจากราคายางพาราที่ผันผวนรุนแรงช่วงปลายปี 2551 และปริมาณซื้อขายเบาบางใน AFET ส่งผลให้ลูกค้าบางส่วนของบริษัทประสบปัญหาพอร์ตการลงทุนติดลบในเวลาอันรวดเร็วและไม่สามารถปิดสถานะคงค้างได้ จึงจำต้องบังคับปิดสถานะ (Force selling) และดำเนินการตามเก็บหนี้สูญตั้งแต่นั้นมา แต่ยังไม่สามารถแก้ปัญหาหนี้ค้างชำระจากลูกค้าได้หมด และการเพิ่มทุนยังไม่สำเร็จเพราะตลาดไม่เอื้ออำนวย ทำให้เงินสดของบริษัทฯ อยู่ในระดับต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ จนเป็นผลให้ต้องถูกพักการใช้ใบอนุญาต แต่ยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะไม่ส่งผลกระทบต่อวงเงินในบัญชีซื้อขายของลูกค้า เพราะบริษัทได้กันวงเงิน 45 ล้านบาท รองรับการชำระเงินคืนให้กับลูกค้าทุกรายแล้ว
โดยระหว่างนี้บริษัทจะช่วยให้ลูกค้าที่มีอยู่ 20 % ของตลาดสามารถใช้บริการโบรกเกอร์รายอื่น ๆ ในตลาดแทนได้ พร้อมให้ลูกค้าเลือกทางออกได้ 2 ทางคือขอปิดสถานะและขอถอนเงินหรือแจ้งความประสงค์ขอโอนบัญชีไปยังโบรกเกอร์พันธมิตร ส่วนลูกค้าการบริหารจัดการพอร์ตการลงทุน หรือ FTM นั้น ยังสามารถดำเนินการได้ตามปกติ เพราะใบอนุญาตเป็นคนละส่วนกัน ซึ่งบริษัทจะเร่งสร้างรายได้ส่วนนี้ เพื่อชดเชยรายได้จากการเป็นนายหน้าระหว่างรอเพิ่มทุน
บริษัท เจเอสพี ฟิวเจอร์ส จำกัด โบรกเกอร์ใหญ่ในตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า หรือ AFET ถูกระงับการดำเนินธุรกิจการเป็นนายหน้าซื้อขายสัญญาสินค้าเกษตรล่วงหน้าเป็นการชั่วคราว ตามคำสั่งของสำนักงานคณะกรรมการคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า (สำนักงาน ก.ส.ล.) อ้างอิงคำสั่งของ นายสุดใจ สูนาสวน (รักษาการ) เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า ลงวันที่ 31 กรกฎาคม 2552 ให้พักใช้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนายหน้าซื้อขายล่วงหน้าของบริษัทฯ เนื่องจาก บริษัทฯ มีระดับวงเงินสดสำรองต่ำกว่าหลักเกณฑ์ที่ ก.ส.ล. กำหนด โดย ก.ส.ล. เสนอให้ บริษัทเร่งดำเนินการเพิ่มทุนเพื่อกลับมาซื้อขายตามปกติอีกครั้ง
นายชานนทน์ ภู่เจริญยศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเอสพี ฟิวเจอร์ส จำกัด ชี้แจงว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นผลจากราคายางพาราที่ผันผวนรุนแรงช่วงปลายปี 2551 และปริมาณซื้อขายเบาบางใน AFET ส่งผลให้ลูกค้าบางส่วนของบริษัทประสบปัญหาพอร์ตการลงทุนติดลบในเวลาอันรวดเร็วและไม่สามารถปิดสถานะคงค้างได้ จึงจำต้องบังคับปิดสถานะ (Force selling) และดำเนินการตามเก็บหนี้สูญตั้งแต่นั้นมา แต่ยังไม่สามารถแก้ปัญหาหนี้ค้างชำระจากลูกค้าได้หมด และการเพิ่มทุนยังไม่สำเร็จเพราะตลาดไม่เอื้ออำนวย ทำให้เงินสดของบริษัทฯ อยู่ในระดับต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ จนเป็นผลให้ต้องถูกพักการใช้ใบอนุญาต แต่ยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะไม่ส่งผลกระทบต่อวงเงินในบัญชีซื้อขายของลูกค้า เพราะบริษัทได้กันวงเงิน 45 ล้านบาท รองรับการชำระเงินคืนให้กับลูกค้าทุกรายแล้ว
โดยระหว่างนี้บริษัทจะช่วยให้ลูกค้าที่มีอยู่ 20 % ของตลาดสามารถใช้บริการโบรกเกอร์รายอื่น ๆ ในตลาดแทนได้ พร้อมให้ลูกค้าเลือกทางออกได้ 2 ทางคือขอปิดสถานะและขอถอนเงินหรือแจ้งความประสงค์ขอโอนบัญชีไปยังโบรกเกอร์พันธมิตร ส่วนลูกค้าการบริหารจัดการพอร์ตการลงทุน หรือ FTM นั้น ยังสามารถดำเนินการได้ตามปกติ เพราะใบอนุญาตเป็นคนละส่วนกัน ซึ่งบริษัทจะเร่งสร้างรายได้ส่วนนี้ เพื่อชดเชยรายได้จากการเป็นนายหน้าระหว่างรอเพิ่มทุน
