ผู้บริหาร สามารถฯ มั่นใจ ศก.ครึ่งปีหลังฟื้น เตรียมเข็นมือถือ 8 รุ่น ลุยตลาดล่างพรวดเดียว 1.5 ล้านเครื่อง พร้อมงัดหมัดเด็ด 3 จี ทุบคู่แข่ง กะฟาดรายได้เข้ากระเป๋า 2.3 หมื่นล้าน
นายวัฒนชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAMART เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจว่าจะทำรายได้ตามที่ตั้งเป้าไว้ 2.3 หมื่นล้านบาท แม้ว่าช่วงครึ่งปีแรก บางธุรกิจจะพลาดเป้าไปบ้าง แต่ครึ่งปีหลังเชื่อว่าจะกลับมาดีขึ้น โดยเฉพาะ บมจ.สามารถไอโมบาย (SIM) ที่คาดว่าครึ่งปีหลังจะมียอดจำหน่ายเครื่องอีก 1.5 ล้านเครื่องจากครึ่งปีแรกมียอดจำหน่าย 1.2 ล้านเครื่อง และข่วงครึ่งปีหลังจะออกมือถือใหม่ 18 รุ่น โดย 2 รุ่นจะรองรับ 3G และเชื่อว่าในช่วงครึ่งปีหลังจะมีราคาขายเฉลี่ยสูงขึ้น 10%
"เรายังเชื่อว่าปี 52 จบปลายปี จะได้รายได้ตามที่ตั้งเป้าไว้ 2.3 หมื่นล้านบาท แม้ครึ่งปีแรกจะดูไม่ดี แต่เราก็ยังสามารถทำธุรกิจได้ดีกว่าปีก่อน" นายวัฒน์ชัย กล่าว
ส่วนความพร้อมทางการเงินของ SAMART นายวัฒน์ชัย กล่าวว่า บริษัทมีเงินทุนเพียงพอรองรับสำหรับโอกาสการลงทุนใหม่ๆ ที่จะเข้ามา เพราะยังได้รับความเชื่อถือจากสถาบันการเงินอย่างต่อเนื่อง แต่โดยส่วนใหญ่จะลงทุนเป็นโครงการๆไป ซึ่งเป็นการทยอยลงทุน ยกเว้น โครงการที่เกี่ยวกับระบบ 3G ที่มีมูลค่างานค่อนข้างสูง บริษัทก็ศึกษาแนวทางในการออกหุ้นกู้ เพื่อเป็นทางเลือกการระดมทุน
ส่วนการจ่ายเงินปันผลในปี 2552 บริษัทเชื่อว่าจะมีความสามารถจ่ายเงินปันผลได้เหมือนทุกปีที่ผ่านมา ซึ่งจ่ายปันผลปีละ 2 ครั้ง โดย SAMARTและ SIM มีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิ
นายวัฒนชัย กล่าวว่า โครงการเช่ารถเมล์ NGV ซึ่งกลุ่ม SAMART จะเข้าร่วมประมูลระบบการเดินรถ การจำหน่ายตั๋ว และเส้นทางการเดินรถ ซึ่งจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยี แต่ขณะนี้โครงการนี้ชะลอออกไป อย่างไรก็ตาม บริษัทยังเตรียมความพร้อมไว้
นายวัฒนชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAMART เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจว่าจะทำรายได้ตามที่ตั้งเป้าไว้ 2.3 หมื่นล้านบาท แม้ว่าช่วงครึ่งปีแรก บางธุรกิจจะพลาดเป้าไปบ้าง แต่ครึ่งปีหลังเชื่อว่าจะกลับมาดีขึ้น โดยเฉพาะ บมจ.สามารถไอโมบาย (SIM) ที่คาดว่าครึ่งปีหลังจะมียอดจำหน่ายเครื่องอีก 1.5 ล้านเครื่องจากครึ่งปีแรกมียอดจำหน่าย 1.2 ล้านเครื่อง และข่วงครึ่งปีหลังจะออกมือถือใหม่ 18 รุ่น โดย 2 รุ่นจะรองรับ 3G และเชื่อว่าในช่วงครึ่งปีหลังจะมีราคาขายเฉลี่ยสูงขึ้น 10%
"เรายังเชื่อว่าปี 52 จบปลายปี จะได้รายได้ตามที่ตั้งเป้าไว้ 2.3 หมื่นล้านบาท แม้ครึ่งปีแรกจะดูไม่ดี แต่เราก็ยังสามารถทำธุรกิจได้ดีกว่าปีก่อน" นายวัฒน์ชัย กล่าว
ส่วนความพร้อมทางการเงินของ SAMART นายวัฒน์ชัย กล่าวว่า บริษัทมีเงินทุนเพียงพอรองรับสำหรับโอกาสการลงทุนใหม่ๆ ที่จะเข้ามา เพราะยังได้รับความเชื่อถือจากสถาบันการเงินอย่างต่อเนื่อง แต่โดยส่วนใหญ่จะลงทุนเป็นโครงการๆไป ซึ่งเป็นการทยอยลงทุน ยกเว้น โครงการที่เกี่ยวกับระบบ 3G ที่มีมูลค่างานค่อนข้างสูง บริษัทก็ศึกษาแนวทางในการออกหุ้นกู้ เพื่อเป็นทางเลือกการระดมทุน
ส่วนการจ่ายเงินปันผลในปี 2552 บริษัทเชื่อว่าจะมีความสามารถจ่ายเงินปันผลได้เหมือนทุกปีที่ผ่านมา ซึ่งจ่ายปันผลปีละ 2 ครั้ง โดย SAMARTและ SIM มีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิ
นายวัฒนชัย กล่าวว่า โครงการเช่ารถเมล์ NGV ซึ่งกลุ่ม SAMART จะเข้าร่วมประมูลระบบการเดินรถ การจำหน่ายตั๋ว และเส้นทางการเดินรถ ซึ่งจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยี แต่ขณะนี้โครงการนี้ชะลอออกไป อย่างไรก็ตาม บริษัทยังเตรียมความพร้อมไว้
