ภาวะหุ้นภาคเช้าปิดลบ 1.12% หลังราคาน้ำมันโลกดิ่งลงหนัก หลุดระดับ 60 ดอลลาร์/บาร์เรล นักลงทุนวิตก ศก.สหรัฐฯ ยังมีโอกาสถดถอยได้อีก ค่าเงินบาทนิ่งหลังเม็ดเงินนอกหยุดไหลเข้า คาดต่างชาติยังขายสุทธิ แนวโน้มภาคบ่าย ยังชะลอลงทุน เพราะไม่มีข่าวดีหนุน
ภาวะตลาดหุ้นไทย วันที่ 13 กรกฎาคม 2552 (วันนี้) ดัชนีปิดตลาดช่วงเช้าที่ระดับ 559.68 จุด ลดลง 6.35 จุดเปลี่ยนแปลง -1.12% มูลค่าการซื้อขาย 4,931 ล้านบาท โดยการซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดช่วงเช้า แตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 564.63 จุด และแตะจุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 558.37 จุด
นักวิเคราะห์เผยตลาดหุ้นเช้านี้ปรับลง โดยมีราคาน้ำมันเป็นปัจจัยหลัก ส่งผลให้นักลงทุนต่างประเทศ เกิดความกังวลว่า เศรษฐกิจของสหรัฐฯ อาจจะถดถอยได้อีก พร้อมประเมินว่า การที่น้ำมันในตลาดโลกดิ่งลงหลุดระดับ 60 ดอลลาร์ต่อบาเรล เป็นสัญญาณที่ไม่ดีนัก และให้จับตาระดับราคา หากยังดงดิ่งลงไปที่ 54-55 ดอลลาร์ต่อบาเรล เชื่อว่าจะส่งผลต่อตลาดหุ้นทั่วโลก
สำหรับปัจจัยในประเทศ ต้องดูเรื่องของการเมืองไทยซึ่งการเปลี่ยนแปลงคงรอการประชุมอาเซียนซัมมิต ว่า หลังจากนี้จะเป็นอย่างไร และรอดูผล พ.ร.บ.งบประมาณว่า หากผ่านแล้วจะเป็นอย่างไร รวมทั้งเรื่องไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ ต่างชาติยังคงขายเป็นส่วนใหญ่ ส่วนค่าเงินบาทเริ่มอ่อนค่าลง คาดเงินนอกอาจหยุดไหลเข้า ซึ่งต้องระวังการถอนเงินออกไป
แนวโน้มช่วงบ่าย ตอนนี้พอปัจจัยบวกไม่มีคนก็ชะลอการลงทุนหมด ปริมาณการซื้อขายก็เหลือแค่ประมาณ 4 พันล้านบาท กลยุทธ์โดยส่วนใหญ่แนะนำให้รอดูสถานการณ์ และดัชนีมี new low คนก็ยิ่งกังวล ทางเทคนิคหุ้นจะต้องตีกลับไปยืนเหนือ 580-585 จุดให้ได้ ถ้ายืนเหนือได้ดูเป็น positive ถ้ายังผ่าน 580-585 จุดไม่ได้ให้หาจังหวะขายลดพอร์ต แนวรับหลักใหญ่ 550 จุด
ล่าสุด ดัชนีหุ้นไทยปิดตลาดภาคบ่ายที่ระดับ 562.55 จุด ลดลง 3.48 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.61% มูลค่าการซื้อขาย 10,529.41 ล้านบาท โดยมีแรงขายหนักในหุ้นกลุ่มพลังงาน