กสิกรฯ ฉายภาพรวมตลาดหุ้นไทย หลังเฟดมอง ศก.สหรัฐฯ ขาขึ้น ตลาดหุ้นทั่วโลกรับอานิสงค์ คาดแนวโน้มสัปดาห์หน้า ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในช่วงขาขึ้น และจับตาปัจจัยในประเทศ และต่างประเทศ
บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด แจ้งว่า การซื้อขายหุ้นไทยในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยดัชนีหุ้นไทยปิดที่ 491.69 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.72 จาก 474.07 จุดในสัปดาห์ก่อน และพุ่งขึ้นร้อยละ 9.27 จากสิ้นปี 2551 ขณะที่มูลค่าการซื้อขายรวมทั้งสัปดาห์ลดลงร้อยละ 20.76 จาก 85,314.64 ล้านบาทในสัปดาห์ก่อนหน้า มาอยู่ที่ 67,599.27 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันที่ลดลงจาก 17,062.93 ล้านบาทในสัปดาห์ก่อน มาอยู่ที่ 16,899.82 ล้านบาท โดยนักลงทุนรายย่อยขายสุทธิที่ 3,466.17 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนสถาบันและนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิที่ 1,897.52 ล้านบาท และ 1,568.64 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนตลาดหลักทรัพย์ เอ็มเอไอ ปิดที่ 163.69 จุด ขยับขึ้นร้อยละ 3.07 จาก 158.82 จุดในสัปดาห์ก่อน และร้อยละ 0.47 จากสิ้นปีก่อน
ทั้งนี้ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา การเคลื่อนไหวของดัชนีหุ้นไทยได้รับแรงหนุนจากตลาดหุ้นในภูมิภาค หลังภาวะเศรษฐกิจมีสัญญาณที่ดีขึ้นตลอดสัปดาห์จากการคลายความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ หลังเฟดมองเศรษฐกิจสหรัฐในทิศทางที่ดีขึ้น นอกจากนี้ ผลประกอบการ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) ที่ออกมาดีกว่าคาดก็ยังช่วยหนุนตลาดหุ้นอยู่ นำโดยหุ้นในกลุ่มพลังงาน และธนาคาร ขณะที่มูลค่าการซื้อขายรวมหนาแน่นกว่า 2 หมื่นล้านบาท ส่วนในวันศุกร์ ตลาดหุ้นไทยจะปิดทำการ เนื่องในวันแรงงานแห่งชาติ
สำหรับแนวโน้มในสัปดาห์หน้า ตั้งแต่วันที่ 4-7 พฤษภาคม 2552 บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย จำกัด และศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ดัชนีน่าจะแกว่งตัวผันผวนขึ้น (Sideway Up) โดยปัจจัยที่ยังคงต้องติดตาม ได้แก่ ผลการทดสอบ Stress Tests ของสหรัฐฯ ในวันที่ 4 พฤษภาคม 2552 ความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันในตลาดโลก และการปรับตัวของตลาดหุ้นภูมิภาค ตลอดจนการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐ อาทิ ยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (Pending Home Sales) เดือนมนาคม 2552 และการจ้างงานเดือนเมษายน ขณะที่ปัจจัยในประเทศที่สำคัญ คงจะต้องติดตามการรายงานผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2552 ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด คาดว่า ดัชนีจะมีแนวรับที่ 474 จุด ขณะที่แนวต้านคาดว่าจะอยู่ที่ 507 และ 530 จุด ตามลำดับ
บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด แจ้งว่า การซื้อขายหุ้นไทยในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยดัชนีหุ้นไทยปิดที่ 491.69 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.72 จาก 474.07 จุดในสัปดาห์ก่อน และพุ่งขึ้นร้อยละ 9.27 จากสิ้นปี 2551 ขณะที่มูลค่าการซื้อขายรวมทั้งสัปดาห์ลดลงร้อยละ 20.76 จาก 85,314.64 ล้านบาทในสัปดาห์ก่อนหน้า มาอยู่ที่ 67,599.27 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันที่ลดลงจาก 17,062.93 ล้านบาทในสัปดาห์ก่อน มาอยู่ที่ 16,899.82 ล้านบาท โดยนักลงทุนรายย่อยขายสุทธิที่ 3,466.17 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนสถาบันและนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิที่ 1,897.52 ล้านบาท และ 1,568.64 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนตลาดหลักทรัพย์ เอ็มเอไอ ปิดที่ 163.69 จุด ขยับขึ้นร้อยละ 3.07 จาก 158.82 จุดในสัปดาห์ก่อน และร้อยละ 0.47 จากสิ้นปีก่อน
ทั้งนี้ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา การเคลื่อนไหวของดัชนีหุ้นไทยได้รับแรงหนุนจากตลาดหุ้นในภูมิภาค หลังภาวะเศรษฐกิจมีสัญญาณที่ดีขึ้นตลอดสัปดาห์จากการคลายความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ หลังเฟดมองเศรษฐกิจสหรัฐในทิศทางที่ดีขึ้น นอกจากนี้ ผลประกอบการ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) ที่ออกมาดีกว่าคาดก็ยังช่วยหนุนตลาดหุ้นอยู่ นำโดยหุ้นในกลุ่มพลังงาน และธนาคาร ขณะที่มูลค่าการซื้อขายรวมหนาแน่นกว่า 2 หมื่นล้านบาท ส่วนในวันศุกร์ ตลาดหุ้นไทยจะปิดทำการ เนื่องในวันแรงงานแห่งชาติ
สำหรับแนวโน้มในสัปดาห์หน้า ตั้งแต่วันที่ 4-7 พฤษภาคม 2552 บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย จำกัด และศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ดัชนีน่าจะแกว่งตัวผันผวนขึ้น (Sideway Up) โดยปัจจัยที่ยังคงต้องติดตาม ได้แก่ ผลการทดสอบ Stress Tests ของสหรัฐฯ ในวันที่ 4 พฤษภาคม 2552 ความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันในตลาดโลก และการปรับตัวของตลาดหุ้นภูมิภาค ตลอดจนการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐ อาทิ ยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (Pending Home Sales) เดือนมนาคม 2552 และการจ้างงานเดือนเมษายน ขณะที่ปัจจัยในประเทศที่สำคัญ คงจะต้องติดตามการรายงานผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2552 ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด คาดว่า ดัชนีจะมีแนวรับที่ 474 จุด ขณะที่แนวต้านคาดว่าจะอยู่ที่ 507 และ 530 จุด ตามลำดับ