แผนรถไฟฟ้ามั่วหนัก! ครม.เศรษฐกิจ สั่ง คมนาคม-สนข.ทำแผนรถไฟฟ้าทั้งระบบให้ชัดเจน พบเงื่อนงำปรับแก้ไขใหม่จนสับสน ขีดเส้นตายส่ง ครม.ภายในเดือน ส.ค.นี้ “มาร์ค” กระทุ้งบิ๊กคมนาคมอัปเดตแผนแม่บทระบบขนส่งทางรางทั่วประเทศ หลังพบการใช้ข้อมูลเก่าสุดๆ พร้อมเดินหน้าตั้งบริษัทลูกขึ้นมาบริหารแอร์พอร์ตลิ้งก์ภายในสิ้นปีนี้ หวั่นกระทบความเชื่อมั่นนักลงทุน
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ คณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) โดยระบุว่า ที่ประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจ มีมติให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) และกระทรวงคมนาคม กลับไปศึกษาแผนแม่บทการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนทางรางทั่วประเทศ และระบบขนส่งมวลชนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ให้มีความเชื่อมโยงกันทั้งระบบ ให้แล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคม 2552 นี้ ก่อนนำกลับมาเสนออีกครั้ง
ได้มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) และกระทรวงคมนาคม ไปจัดทำแผนแม่บทการพัฒนาระบบขนส่งรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลทั้งระบบ โดยปรับปรุงจากแผนที่จัดทำไว้สมัยรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี
โดยรายงานของ สนข.พบว่า มีการปรับเพิ่มบางเส้นทาง เช่น รถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงปากเกร็ด-มีนบุรี เป็นต้น รวมถึงเส้นทางเดิมที่ศึกษาไว้แล้ว เช่น สายสีส้ม (บางกะปิ-บางบำหรุ) สายสีน้ำเงิน (หัวลำโพง-บางแค) สายสีเขียว (หมอชิต-สะพานใหม่) เป็นต้น ที่ประชุมจึงมอบหมายให้ปรับปรุงและเสนอกลับเข้ามาให้ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา ในเดือนสิงหาคม 2552 นี้
สำหรับรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่ยังไม่ชัดเจนว่า จะให้กระทรวงคมนาคมหรือกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นผู้ดำเนินการนั้น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มอบหมายกระทรวงคมนาคมไปเชิญ กทม.มาหารือข้อสรุปให้เร็วที่สุด
“นายกรัฐมนตรีให้แนวทางว่า รัฐยังคงยืนยันมติ ครม.ที่เห็นชอบให้มีการจัดตั้งบริษัทเดินรถเป็นบริษัทลูก แยกการบริหารจัดการเรื่องการเดินรถออกจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) อย่างชัดเจน พร้อมทั้งให้หาผู้เข้ามาเป็นเจ้าภาพ ทำความเข้าใจกับสหภาพแรงงานฯ ร.ฟ.ท.ที่ร้องคัดค้านการตั้งบริษัทลูกดังกล่าว เพื่อให้ปัญหาทุกอย่างคลี่คลาย และให้สามารถเปิดใช้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ ภายในปลายปีนี้ เพราะถือเป็นโครงการที่จะสร้างความมั่นใจให้กับไทยในสายตาชาวต่างชาติได้”
นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรียังสั่งการให้กระทรวงคมนาคม พิจารณาถึงความเหมาะสมด้านการลงทุนและผลประโยชน์ในการดำเนินการอย่างละเอียด โดยเฉพาะการพัฒนาทางรถไฟเชื่อมโยงระหว่างประเทศ เพราะหลังจากที่นายกรัฐมนตรีเดินทางไปเยือนประเทศจีน จึงได้ทราบข้อมูลว่า จีนเปลี่ยนแผนการก่อสร้างรถไฟจากเดิมที่จะสร้างผ่านพม่าเข้าเชียงของ มาสร้างผ่านเวียดนาม กัมพูชา ซึ่งอาจทำให้ไทยต้องพัฒนาระบบรางฝั่งอรัญประเทศ เพื่อรองรับการเชื่อมต่อกับประเทศอื่น รวมถึงศึกษาการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเชื่อมโยงระหว่างเมืองหลัก 4 แห่ง ได้แก่ นครราชสีมา พิษณุโลก ชลบุรี และเพชรบุรี
นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า สัปดาห์หน้า ตนเองจะหารือกับ กทม.เพื่อหาข้อสรุปเรื่องการเป็นบริหารการเดินรถ ทั้งสายสีเขียวอ่อน ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ และสายสีเขียวเข้ม ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่
นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคมจะโยกงบประมาณ 400 ล้านบาท จากโครงการรถไฟฟ้าสายวงแหวนรอบในตามแนวถนนรัชดาภิเษก มาใช้ศึกษารถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) รองรับการเปิดใช้ศูนย์ราชการกรุงเทพมหานครแห่งใหม่ และรถไฟฟ้าสายสีส้ม (บางกะปิ-บางบำหรุ) เพราะมีความเร่งด่วนมากกว่า โดยจะสรุปแผนระบบรางทั้งหมด และนำเข้า ครม.อีกครั้ง ภายในเดือนสิงหาคม 2552 นี้ แน่นอน