ครม.นัดพิเศษ เห็นชอบเพิ่มงบอีก 2 กระทรวง 7 พันล้าน ตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง โดยกระทรวงท่องเที่ยวฯ ได้รับเงินเพิ่มอีก 2.5 พันล้าน เพื่อฟื้นฟูหลังผลกระทบไข้หวัด 2009 ส่วนกระทรวงมหาดไทย ได้รับเพิ่มอีก 4.4 พันล้าน เพื่อลงทุนโครงการก่อสร้างในท้องถิ่น
นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสนันกนาบยกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้เรียกประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดพิเศษวันที่ 15 เมษายน 2552 (วันนี้) เพื่อพิจารณากรอบวงเงินลงทุนในการออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ.2552 เพื่อเสนอให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยวิสามัญ พิจารณาเห็นชอบ ภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555
ทั้งนี้ ครม.ได้พิจารณางบประมาณภายใต้แผนปฏิบัติการดังกล่าวเพิ่มอีก 2 กระทรวง โดยอนุมัติให้ดำเนินโครงการพัฒนาด้านการท่องเที่ยว วงเงิน 2,459 ล้านบาท เพื่อพัฒนาและฟื้นฟูด้านการท่องเที่ยว โดยเฉพาะผลกระทบจากกรณีไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 มีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬารับผิดชอบ ส่วนอีกโครงการหนึ่ง เป็นการยกระดับคุณภาพการศึกษาท้องถิ่น เพื่อก่อสร้างอาคารเรียน ศูนย์เด็กเล็ก วงเงิน 1,950 ล้านบาท มีกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้ดูแล ทำให้งบประมาณเพิ่มขึ้นเป็น 4,409 ล้านบาท
สำหรับ พ.ร.ก.ดังกล่าว แยกเป็น 2 ส่วน คือ การกู้เงินเพื่อนำไปชดเชยรายได้ที่ต่ำกว่าประมาณการ ซึ่งเดิมตั้งไว้ 200,000 ล้านบาท แต่เมื่อรายได้จากภาษีเริ่มดีขึ้น กระทรวงการคลังคาดว่าจะใช้เงินชดเชยประมาณ 150,000 ล้านบาท จึงมีงบประมาณไปใช้ในการลงทุนตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็งมากขึ้น โดยวงเงินที่ตั้งไว้ในการลงทุนในช่วงระยะเร่งด่วนมีจำนวน 231,311 ล้านบาท เมื่อเพิ่มอีก 4,000 ล้านบาท จะทำให้วงเงินลงทุนเร่งด่วน อยู่ที่ 235,000 ล้านบาท
สำหรับการชี้แจงในสภาผู้แทนราษฎรวันนี้ กระทรวงการคลังจะจัดทำรายละเอียดแผนการลงทุนเป็นรายจังหวัดให้ ส.ส.ได้รับทราบเกี่ยวกับแผนการลงทุน เพื่อใช้เงินตามกรอบวัตถุประสงค์ทั้ง 7 ข้อ และให้เป็นไปตามสาขาต่างๆ 13 สาขา เช่น การพัฒนาการขนส่ง การพัฒนาทรัพยากรน้ำ การลงทุนพัฒนาระดับชุมชน และการพัฒนาการท่องเที่ยว