xs
xsm
sm
md
lg

ทีดีอาร์ไอ มอง ศก.บวก สวนทุกสำนัก คาด ศก.โลกฟื้นรูปตัวยู

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ทีดีอาร์ไอ ชี้ โครงการไทยเข้มแข็งช่วย ศก.ไทยปี 53 โตได้ 2% "สมชัย" เปิดบทวิเคราะห์แจง ระบุ ปี 52 ตัวเลข "จีดีพี" ติดลบ 2.3% เงินเฟ้อติดลบ 1% ค้านมาตรการ "บาทอ่อน" เพราะได้ผลแค่ช่วงสั้นๆ ชี้เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวเป็นรูปตัว U-Shape แต่ไม่ฟันธง ศก.ไทยถึงจุดต่ำสุด

นายนิพนธ์ พัวพงศกร ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกเป็นไปอย่างอ่อนแรง โดยเฉพาะประเทศที่พึ่งพารายได้จากการส่งออกอาจทำให้เศรษฐกิจไทยติดลบไม่มาก หากภาครัฐเร่งใช้งบกลางปีกว่าแสนล้านบาท ซึ่งมีการใช้ไปแล้วร้อยละ 80 จะช่วยให้เศรษฐกิจขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.8 และหากรัฐบาลเพิ่มงบกระตุ้นเศรษฐกิจตามโครงการไทยเข้มแข็งจะทำให้เศรษฐกิจปีหน้า ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 1.4 เป็นร้อยละ 2

นายสมชัย สุจิตชน ผู้อำนวยการวิจัยด้านการพัฒนาเศรษฐกิจส่วนรวมและการกระจายรายได้ กล่าวว่า เศรษฐกิจโลกจะใช้เวลาฟื้นตัวไม่น้อยกว่า 2-3 ปี และดอลลาร์สหรัฐ จะอ่อนค่าลงร้อยละ 1 ตั้งแต่ไตรมาส 2 ของปีนี้เป็นต้นไป ส่วนราคาน้ำมันจะทยอยปรับขึ้นอย่างช้า ๆ ในปีนี้ และปีหน้าจะมีเสถียรภาพมากขึ้น

นายสมชัย จิตสุชน ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย ทีดีอาร์ไอ ยังเผยบทวิเคราะห์และประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2552-2553 หัวข้อ "เศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจไทย ฟื้นจริงหรือ" โดย ทีดีอาร์ไอ ได้ประมาณการเศรษฐกิจไทยในปี 2552 โดยคาดว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือ จีดีพี จะขยายตัวติดลบ 2.3% โดยเศรษฐกิจไตรมาสแรกขยายตัวติดลบ 7.1% ส่วนไตรมาส 2 ขยายตัว 0.8% ไตรมาส 3 ขยายตัวติดลบ 3.1% และไตรมาส 4 ของปี 2552 ขยายตัว 0.2%

ทั้งนี้ ทีดีอาร์ไอ ได้ให้เหตุผลการขยายตัวเป็นบวกในไตรมาส 2 ของปี 2552 ที่ 0.8% ว่ามาจากผลของการใช้มาตรการการคลังกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านการใช้งบประมาณกลางปี 1.16 แสนล้านบาท ขณะเดียวกันก็มีการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณในไตรมาสที่ 2 ของปี หลังจากที่เบิกจ่ายล่าช้าไปแล้วใน 2 ไตรมาสแรกของปีงบประมาณ (ตุลาคม2551-มีนาคม2552) อย่างไรก็ตาม จีดีพีจะกลับมาติดลบในไตรมาส 3 และขยายตัวได้เล็กน้อยในไตรมาส 4 ตามทิศทางเศรษฐกิจโลก

อย่างไรก็ตาม หากไม่มีการอัดฉีดงบประมาณกลางปี 2552 จำนวน 1.16 แสนล้านบาท ก็คาดว่าจีดีพีปี 2552 จะขยายตัวติดลบเพิ่มขึ้น มาอยู่ที่ติดลบ 3.1% ถือว่ารัฐบาลดำเนินการได้ถูกทาง สะท้อนการใช้บทบาทภาครัฐในการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงที่ชะลอตัว

นอกจากนี้ ยังได้ประมาณการขยายตัวเศรษฐกิจในปี 2553 โดยคาดว่าจะขยายตัวได้ 1.4% เป็นการขยายตัวเป็นบวกทุกไตรมาสเฉลี่ย 2% ยกเว้นไตรมาสที่ 2 ของปี 2553 ที่คาดว่าขยายตัวติดลบ 1.3% เนื่องจากฐานจีดีพีไตรมาส 2 ในปี 2552 อยู่ในระดับสูง

พร้อมกันนี้ทีดีอาร์ไอ เสนอให้รัฐบาล กระจายเงินกู้ตามแผนปฎิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 โดยให้น้ำหนักในปี 2553 มากขึ้น เพิ่มงบลงทุนไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท ก็จะช่วยให้จีดีพีปี 2553 ขยายตัวได้2% ขณะเดียวกันจีดีพีปี 2552 ก็จะติดลบน้อยลงเหลือ 2.2% ซึ่งเป็นระดับที่ภาคเอกชนพึงพอใจ

นายสมชัย กล่าวว่า ทีดีอาร์ไอ ยังได้ประมาณการถึงค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ โดยคาดว่าจะอ่อนค่าลงไตรมาสละ 1% ตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ของปี 2552 เป็นต้นไป ซึ่งจะทำให้ค่าบาทแข็งค่าขึ้นเมื่อเที่ยบกับดอลลาร์สหรัฐ แต่ก็ไม่แข็งไปกว่าประเทศคู่แข็ง จึงไม่มีผลต่อความสามารถทางการค้า ทั้งนี้ ทีดีอาร์ไอไม่สนับสนุนให้ รัฐบาล และ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ใช้นโยบายอัตราแลกเปลี่ยนในการกระตุ้นเศรษฐกิจ

"การใช้นโยบายอัตราแลกเปลี่ยนในการกระตุ้นเศรษฐกิจเพราะจะมีผลไม่นาน และจะหายไปอย่างรวดเร็ว เพราะหากทุกประเทศจงใจใช้อัตราแลกเปลี่ยน และทำเงินอ่อนพร้อมกัน ก็จะไม่มีใครค่าเงินอ่อนกว่าใคร" นายสมชัย กล่าว

ส่วน อัตราเงินเฟ้อปี 2552 ทีดีอาร์ไอ คาดว่าจะอยู่ในระดับติดลบ 1% และปี 2553 อยู่ที่บวก 2.1% และค่าจ้างขั้นต่ำจะไม่ปรับขึ้นตลอดปี 2552 แต่จะปรับขึ้น 3.5% ในปี 2553 รวมถึงราคาน้ำมันที่จะทยอยปรับขึ้นช้าๆตลอดปี 2552 ไปสูงสุดที่ไตรมาส 4 แล้วมีเสถียรภาพตลอดปี 2553

นายสมชัย กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาแม้ว่าเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยแล้ว แต่ยังเป็นการฟื้นตัวช่วงสั้นๆ และฟื้นตัวน้อยเกินไป รวมถึงบทบาทการแก้ไขเศรษฐกิจของรัฐบาลเพิ่งจะเริ่มต้น ดังนั้นเศรษฐกิจไทยคาดว่าจะใช้เวลาอีกนานกว่าจะฟื้นตัว โดยดัชนีต่างๆที่ส่งสัญาณเป็นบวกเช่น ส่วนต่างดอกเบี้ยที่มีความผันผวนน้อยลง ดัชนีด้านการผลิต ผู้จัดการซื้อ การบริโภคเริ่มปรับตัวดีขึ้น แต่ความเชื่อมั่นการบริโภค ความมีเสถียรภาพของราคาบ้าน และดัชนีราคาหลักทรัพย์ ยังมีความผันผวนอยู่มาก

"คำถามที่ถามว่าเศรษฐกิจไทยถึงจุดต่ำสุดหรือยัง..ก็ไม่แน่นอนเสมอไป เราไม่รู้ว่าถ้าเริ่มฟื้นแล้ว เศรษฐกิจจะทรุดลงไปอีกหรือไม่ เพราะปัจจัยพื้นฐานที่เป็นรากเหง้าของปัญหามีการปรับตัวดีขึ้นบ้าง แต่ก็ยังห่างจากระดับปกติอีกมาก รูปแบบการฟื้นตัวเศรษฐกิจโลกน่าจะเป็นแบบ U-Shape จึงต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า 2-3 ปีถึงเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวได้" นายสมชัย กล่าว

นายสมชัย กล่าวว่า นโยบายการเงินถือว่ามีบทบาทในการสนับสนุนให้เศรษฐกิจขยายตัว ซึ่งที่ผ่านมาก็เริ่มดำเนินการไปแล้ว เช่นการลดอัตราดอกเบี้ย อย่างไรก็ตามอยากให้รัฐบาลระมัดระวังการก่อหนี้สาธารณะ เพราะคาดว่าหากรัฐบาลทำงบประมาณขาดดุลต่อเนื่อง และมีการกู้เงินตามแผนปฎิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ใน 2 ปี ระดับหนี้สาธารณะต่อจีดีพี จะอยู่ที่ 60% หากถึงช่วงนั้นเศรษฐกิจไม่ดีขึ้น จะทำให้รัฐบาลไม่มีความคล่องตัวในการใช้นโยบายการคลัง จะมีขีดจำกัดมาก

ทั้งนี้ สนับสนุนให้รัฐบาลขยายเวลามาตรการ 6 เดือน 5 มาตรการต่อไปอีก แม้จะเป็นมาตรการที่ไม่ได้มีผลทางเศรษฐกิจ แต่ก็เป็นมาตรการที่ช่วยเหลือประชาชนโดยตรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าจีดีพีปี 2552 ขยายตัวติดลบ 2.3% ก็จะมีผลต่อรายได้ประชากร และการจ้างงานมาก หากขยายเวลามาตรการได้ ก็จะเป็นประโยชน์กับประชาชนซึ่งสามารถอธิบายได้
กำลังโหลดความคิดเห็น