“ออสสิริส” เชื่อ ราคาทองคำมีโอกาสแตะ 17,000 บาท จากหลายปัจจัยทั้งในแง่บวกและลบต่างช่วยสนับสนุน ไม่ว่าจะเป็นราคาน้ำมัน ความไม่มั่นใจต่อตลาดหุ้น ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนตัว ห รือปัญหาเงินเฟ้อที่อาจมีผลตามมาในอนาคต ล่าสุดบุกตลาดภาคเหนือ เปิดสาขาใหม่รองรับกลุ่มนักลงทุน และคนออม ตั้งเป้า 500 บัญชี ปริมาณซื้อขาย 300 ล้านบาท/ปี พร้อมเล็งเปิดเพิ่มตามภูมิภาคอื่นๆ อาทิ หาดใหญ่ โคราช ขอนแก่น และพัทยา
นายบุญเลิศ สิริภัทรวณิช ประ ธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออส สิริส จำกัด เปิดเผยถึงแนวโน้มราคาทองคำ ว่า ยังเป็นมุมมองที่บวก เพราะมีหลายปัจจัยเข้ามาสนับสนุนราคาทองคำให้ปรับตัวเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความกังวลจากวิกฤตเศรษฐกิจ ราคาน้ำมัน และปัญหาเงินเฟ้อในอนาคต โดยมองว่าภายในอีก 6 เดือนข้างหน้ามีโอกาสสูงที่ราคาจะขยับขึ้นมาแตะ 17,000 บาท ต่อน้ำหนัก 1 บาทในทองคำ 96.50%
ส่วนปัจจัยที่จะทำให้ราคาทองมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น มาจาก 1.กระแสเงินทุนทั้งในและต่างประเทศที่ส่วนใหญ่ยังไหลเข้ามาสู่สินทรัพย์ประเภททองคำในรูปแบบต่างๆ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 2.ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่อ่อนค่าลงมีผลต่อราคาทองคำเช่นกัน และ 3.ภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มดีขึ้นและราคาน้ำมันที่ปรับตัวในระดับสูง มีดโอกาสทำให้ปัญหาเงินเฟ้อกลับมา ซึ่งการลงทุนผ่านทองคำสามารถตอบโจทย์แก้ไขปัญหาในส่วนนี้ได้
“ส่วนตัวผมมองว่าทองคำมีโอกาสขยับราคาเพิ่มขึ้น แต่รอบนี้จะเป็นไปในแบบทยอยปรับตัว ไม่เหมือนที่ผ่านมา เพราะตอนนี้หุ้นเริ่มมีทิศทางดีดขึ้น ทำให้นักลงทุนเริ่มหันกลับไปเพิ่มสัดส่วนลงทุนในหุ้น แต่ในภาพรวมความสนใจลงทุนในทองคำยังมีเข้ามาเยอะเช่นเดิม”
สำหรับแนวคิดที่เริ่มมีกระแสออกมาว่า อาจมีการปรับลดความบริสุทธิ์ของทองคำที่มีการซื้อขายในประเทศไทย โดยเฉพาะทองรูปพรรณ หลังจากราคาทองคำมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้ผู้บริดภคต้องใช้เงินในจำนวนที่มากขึ้น เพื่อซื้อทองคำในน้ำหนักที่เท่าเดิมนั้น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ออสสิริส กล่าวว่า ส่วนตัวก็มองว่าเป็นแนวคิดที่ดี ซึ่งอาจเป็นการเข้ามาช่วยเหลือตลาด โดยเฉพาะในกลุ่มร้านทอง ให้มีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น แต่ทุกคนต้องไม่ลืมว่า หากกระทำเช่นนี้ จำเป็นต้องมีความชัดเจนถึงความบริสุทธิ์ของทองคำที่จะมีการซื้อขายใหม่ โดยน่าจะต้องได้รับการยินยอมจากบรรดาผู้ที่เกี่ยวข้องก่อน
ส่วนเรื่องการเปิดซื้อขาย โกลด์ ฟิวเจอร์สแบบ 24 ชั่วโมง นายบุญเลิศ ให้ความเห็นว่ายังเป็นเพียงแค่แนวคิด ซึ่งอยู่ระหว่างการหาลือและยังไม่ได้ข้อสรุป
ทั้งนี้ ภาพรวมแล้ว ทองคำนับเป็นสินทรัพย์ที่มีคุณค่าสูง ไม่ว่าภาวะเศรษฐกิจในช่วงนั้นจะประสบปัญหาใด เพราะจะมีแรงเข้ามาพยุงให้ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เช่น ความกังวลจากภาวะเศรษฐกิจ ราคาน้ำมัน ผลจากความกังวลของนักลงทุน ซึ่วสังเกตได้จากปัจจุบัน ยังมีเม็ดเงินจำนวนมากไหลเข้ามาสู่การลงทุนในทองคำ แม้ว่าราคาหุ้นและผลดำเนินงานของกองทุนรวมประเภทต่างๆ เริ่มดูดีขึ้น
เพราะนักลงทุนบางรายยังไม่มีความมั่นใจเต็มที่ว่า ภาวะดัชนีตลาดหลักทรัพย์ที่กำลังดูดีในขณะนี้ จะมีความผันผวนเข้ามาสร้างผลกระทบให้กับการลงทุนมากน้อยเพียงใด จึงไม่สนใจที่จะทุ่มน้ำหนักการลง ทุนทั้งหมดของตนเองไปที่เครื่องมือทางการเงินประเภทดังกล่าว
“ปัจจุบันความต้องการทองคำแท่งในประเทศมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นนักลงทุนควรศึกษาถึงปัจจัย และสถานการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาทองคำ เช่น นโยบายทางเศรษฐกิจ การเงิน การคลังของภาครัฐ ดัชนีชี้วัดความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ และทิศทางของค่าเงินดอลลาร์-ค่าเงินบาทอย่างสม่ำเสมอ อย่างไรก็ตามม ราคาทองคำมีความผันผวนสูง ดำนั้นเพื่อลดความเสี่ยง แนะนำให้นักลงทุนควรลงทุนทองคำตามเป้าหมรายในการลงทุนของแต่ละบุคคล และควรเลือกประเภทการลงทุนที่เหมาะสมตามประเภทสินค้าของทองคำ ซึ่งมีทั้งทองคำแท่ง เหรียญทองคำ โกลด์ฟิวเจอร์ส และอื่นๆ”
ขณะที่ในต่างประเทศ นายบุญเลิศ กล่าวว่า หากลองมาพิจารณาพอร์ตการลงทุนขนาดใหญ่ในต่างประเทศ จะพบว่าส่วนใหญ่บรรดากองทุนได้เปลี่ยนแปลงสินทรัพย์ที่ลงทุนไว้ โดยหันมาเพิ่มสัดส่วนลงทุนในทองคำมากขึ้นเช่นกัน เพราะเชื่อว่าทองคำจะเป็นอีกหนึ่งสินทรัพย์ที่ช่วยผลตอบแทนจากการลงทุนได้ในระดับที่ดี
“ภาพรวมของตลาดทองคำ หลายฝ่ายอาจมองว่าจากราคาที่สูงขึ้น เป็นผลให้ทองคำรูปพรรณมีการซื้อขายน้อยลง โดยเฉลี่ยตอลด 3 ปีที่ผ่านมามีลดลงประมาณปีละ 20% แต่ในทางกลับกันการซื้อทองคำในรูปแบบการลงทุนก็เพิ่มมากขึ้น โดย 3 ปีที่ผ่านมามีการปรับตัวเฉลี่ย 15-20%ต่อปี ถือเป็นการทดแทนในส่วนที่หายไปเช่นกัน”
**บุกเปิดตลาดใหม่ที่ภาคเหนือ**
พร้อมกันนี้ บริษัท ออสสิริส ได้ทำการเปิดสาขาของบริษัทที่ เชียงใหม่ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของบริษัทที่เปิดสาขาในต่างจังหวัด โดยเป็นหนึ่งในเป้าหมายการดำเนินธุรกิจของบริษัทที่ต้องการบุกตลาดภาคเหนือ ด้วยการเริ่มทำตลาดที่เชียงใหม่ก่อนขยายตัวไปสู่จังหวัดใกล้เคียง ถือเป็นการขยายตลาดในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน เพื่ออำนวยความสะดวกและตอบสนองความต้องการของลูกค้าในด้านสินค้า และบริการ ตลอดจนสนับสนุนด้านบริการ-สินค้า ให้กับกลุ่มลูกค้าให้มีความแข็งแกร่งในเรื่องมาตรฐานทองคำ รวมถึงสนับสนุนให้ความรู้ความเข้าใจในเรื่องของการลงทุนผ่านทองงคำแก่ลุกค้าที่สนใจ
“ออสสิริส มองว่า ภาคเหนือเป็นตลาดที่มีศักยภาพมาก เพราะเป็ฯภาคที่มีการออมมากที่สุด ดังนั้นจึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเปิดตลาดทั้งเพื่อการลงทุนและการออม อีกทั้งบริษัทเราก็มีผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบโจทย์นักลงทุนได้ทั้งทองคำแท่ง เหรียญทองคำ ดังนั้นในช่วง 2 ปีแรกจะเน้นในการทำแบรนดิ้ง โดยกลยุทธ์การตลาดที่ประกอบด้วย การให้ความรู้การลงทุนทองคำกับตลาด เช่นการจัดสัมมนา การให้ความรู้การลงทุนทองคำในหลายแง่มุมมองที่น่าสนใจจากทีมงานที่ปรึกษามืออาชีพ ตลอดจนบริการซื้อขายและการส่งมอบทองคำ ซึ่งถือเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า ทำให้ไม่ต้องจำเป็นต้องขึ้นมาที่กรุงเทพฯเพื่อรับสินค้า หรือต้องฝากทองคำของตนไว้กับแบงก์ในกรุงเทพฯเหมือนแต่ก่อน”
ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าให้แก่สาขาใหม่ ว่า ภายใน 1ปี จะสามารถมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการ 500 บัญชี และมีปริมาณการซื้อขายผ่านลูกค้าอยู่ที่ 300 ล้านบาทต่อปี จับกลุ่มนักลงทุนและผู้ที่สนใจรวมทั้งกลุ่มผู้ค้าทองในจังหวัด และจังหวัดใกล้ โดยในช่วงแรกบริษัทจะให้บริการการซื้อในด้านทองคำแท่งไปก่อน ขณะที่การให้บริการโกลด์ ฟิวเจอร์ส สำหรับสาขาเชียงใหม่ คาดว่าจะเริ่มได้ประมาณเดือนหน้า
ส่วนเป้าหมายต่อไป นายบุญเลิศ กล่าวว่า จะขอเวลาประเมินผลสาขาใหม่แห่งนี้ประมาณ 1 ปีก่อน หากผลออกมาเป็นที่น่าพอใจ บริษัทก็มีแนวคิดที่จะขยายสาขาไปสู่หัวเมืองใหญ่ในภูมิภาคต่างๆของประเทศมากขึ้น เช่น หาดใหญ่ ขอนแก่น นครราชสีมา และที่สนใจมากคือภาคตะวันออกของประเทศได้แก่ ระยอง และ พัทยา ซึ่งต้องพิจารณาในเรื่องดังกล่าวอีกครั้ง
นอกจากนี้ บริษัท ออสสิริส ได้ทำการเปิดตัว AusiRIS Baht Cold Bar 96.5% ที่ผลิตโดยตรงจากสวิสเซอร์แลนด์ออกสู่ตลาดทองคำของไทย เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับนักลงทุนในการลงทุนทองคำแท่งที่มีคุณภาพระดับสากล ซึ่งจะมีให้เลือก 2 แบบ คือ น้ำหนัก 10 บาท และ 20 บาท
นายบุญเลิศ สิริภัทรวณิช ประ ธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออส สิริส จำกัด เปิดเผยถึงแนวโน้มราคาทองคำ ว่า ยังเป็นมุมมองที่บวก เพราะมีหลายปัจจัยเข้ามาสนับสนุนราคาทองคำให้ปรับตัวเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความกังวลจากวิกฤตเศรษฐกิจ ราคาน้ำมัน และปัญหาเงินเฟ้อในอนาคต โดยมองว่าภายในอีก 6 เดือนข้างหน้ามีโอกาสสูงที่ราคาจะขยับขึ้นมาแตะ 17,000 บาท ต่อน้ำหนัก 1 บาทในทองคำ 96.50%
ส่วนปัจจัยที่จะทำให้ราคาทองมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น มาจาก 1.กระแสเงินทุนทั้งในและต่างประเทศที่ส่วนใหญ่ยังไหลเข้ามาสู่สินทรัพย์ประเภททองคำในรูปแบบต่างๆ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 2.ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่อ่อนค่าลงมีผลต่อราคาทองคำเช่นกัน และ 3.ภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มดีขึ้นและราคาน้ำมันที่ปรับตัวในระดับสูง มีดโอกาสทำให้ปัญหาเงินเฟ้อกลับมา ซึ่งการลงทุนผ่านทองคำสามารถตอบโจทย์แก้ไขปัญหาในส่วนนี้ได้
“ส่วนตัวผมมองว่าทองคำมีโอกาสขยับราคาเพิ่มขึ้น แต่รอบนี้จะเป็นไปในแบบทยอยปรับตัว ไม่เหมือนที่ผ่านมา เพราะตอนนี้หุ้นเริ่มมีทิศทางดีดขึ้น ทำให้นักลงทุนเริ่มหันกลับไปเพิ่มสัดส่วนลงทุนในหุ้น แต่ในภาพรวมความสนใจลงทุนในทองคำยังมีเข้ามาเยอะเช่นเดิม”
สำหรับแนวคิดที่เริ่มมีกระแสออกมาว่า อาจมีการปรับลดความบริสุทธิ์ของทองคำที่มีการซื้อขายในประเทศไทย โดยเฉพาะทองรูปพรรณ หลังจากราคาทองคำมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้ผู้บริดภคต้องใช้เงินในจำนวนที่มากขึ้น เพื่อซื้อทองคำในน้ำหนักที่เท่าเดิมนั้น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ออสสิริส กล่าวว่า ส่วนตัวก็มองว่าเป็นแนวคิดที่ดี ซึ่งอาจเป็นการเข้ามาช่วยเหลือตลาด โดยเฉพาะในกลุ่มร้านทอง ให้มีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น แต่ทุกคนต้องไม่ลืมว่า หากกระทำเช่นนี้ จำเป็นต้องมีความชัดเจนถึงความบริสุทธิ์ของทองคำที่จะมีการซื้อขายใหม่ โดยน่าจะต้องได้รับการยินยอมจากบรรดาผู้ที่เกี่ยวข้องก่อน
ส่วนเรื่องการเปิดซื้อขาย โกลด์ ฟิวเจอร์สแบบ 24 ชั่วโมง นายบุญเลิศ ให้ความเห็นว่ายังเป็นเพียงแค่แนวคิด ซึ่งอยู่ระหว่างการหาลือและยังไม่ได้ข้อสรุป
ทั้งนี้ ภาพรวมแล้ว ทองคำนับเป็นสินทรัพย์ที่มีคุณค่าสูง ไม่ว่าภาวะเศรษฐกิจในช่วงนั้นจะประสบปัญหาใด เพราะจะมีแรงเข้ามาพยุงให้ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เช่น ความกังวลจากภาวะเศรษฐกิจ ราคาน้ำมัน ผลจากความกังวลของนักลงทุน ซึ่วสังเกตได้จากปัจจุบัน ยังมีเม็ดเงินจำนวนมากไหลเข้ามาสู่การลงทุนในทองคำ แม้ว่าราคาหุ้นและผลดำเนินงานของกองทุนรวมประเภทต่างๆ เริ่มดูดีขึ้น
เพราะนักลงทุนบางรายยังไม่มีความมั่นใจเต็มที่ว่า ภาวะดัชนีตลาดหลักทรัพย์ที่กำลังดูดีในขณะนี้ จะมีความผันผวนเข้ามาสร้างผลกระทบให้กับการลงทุนมากน้อยเพียงใด จึงไม่สนใจที่จะทุ่มน้ำหนักการลง ทุนทั้งหมดของตนเองไปที่เครื่องมือทางการเงินประเภทดังกล่าว
“ปัจจุบันความต้องการทองคำแท่งในประเทศมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นนักลงทุนควรศึกษาถึงปัจจัย และสถานการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาทองคำ เช่น นโยบายทางเศรษฐกิจ การเงิน การคลังของภาครัฐ ดัชนีชี้วัดความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ และทิศทางของค่าเงินดอลลาร์-ค่าเงินบาทอย่างสม่ำเสมอ อย่างไรก็ตามม ราคาทองคำมีความผันผวนสูง ดำนั้นเพื่อลดความเสี่ยง แนะนำให้นักลงทุนควรลงทุนทองคำตามเป้าหมรายในการลงทุนของแต่ละบุคคล และควรเลือกประเภทการลงทุนที่เหมาะสมตามประเภทสินค้าของทองคำ ซึ่งมีทั้งทองคำแท่ง เหรียญทองคำ โกลด์ฟิวเจอร์ส และอื่นๆ”
ขณะที่ในต่างประเทศ นายบุญเลิศ กล่าวว่า หากลองมาพิจารณาพอร์ตการลงทุนขนาดใหญ่ในต่างประเทศ จะพบว่าส่วนใหญ่บรรดากองทุนได้เปลี่ยนแปลงสินทรัพย์ที่ลงทุนไว้ โดยหันมาเพิ่มสัดส่วนลงทุนในทองคำมากขึ้นเช่นกัน เพราะเชื่อว่าทองคำจะเป็นอีกหนึ่งสินทรัพย์ที่ช่วยผลตอบแทนจากการลงทุนได้ในระดับที่ดี
“ภาพรวมของตลาดทองคำ หลายฝ่ายอาจมองว่าจากราคาที่สูงขึ้น เป็นผลให้ทองคำรูปพรรณมีการซื้อขายน้อยลง โดยเฉลี่ยตอลด 3 ปีที่ผ่านมามีลดลงประมาณปีละ 20% แต่ในทางกลับกันการซื้อทองคำในรูปแบบการลงทุนก็เพิ่มมากขึ้น โดย 3 ปีที่ผ่านมามีการปรับตัวเฉลี่ย 15-20%ต่อปี ถือเป็นการทดแทนในส่วนที่หายไปเช่นกัน”
**บุกเปิดตลาดใหม่ที่ภาคเหนือ**
พร้อมกันนี้ บริษัท ออสสิริส ได้ทำการเปิดสาขาของบริษัทที่ เชียงใหม่ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของบริษัทที่เปิดสาขาในต่างจังหวัด โดยเป็นหนึ่งในเป้าหมายการดำเนินธุรกิจของบริษัทที่ต้องการบุกตลาดภาคเหนือ ด้วยการเริ่มทำตลาดที่เชียงใหม่ก่อนขยายตัวไปสู่จังหวัดใกล้เคียง ถือเป็นการขยายตลาดในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน เพื่ออำนวยความสะดวกและตอบสนองความต้องการของลูกค้าในด้านสินค้า และบริการ ตลอดจนสนับสนุนด้านบริการ-สินค้า ให้กับกลุ่มลูกค้าให้มีความแข็งแกร่งในเรื่องมาตรฐานทองคำ รวมถึงสนับสนุนให้ความรู้ความเข้าใจในเรื่องของการลงทุนผ่านทองงคำแก่ลุกค้าที่สนใจ
“ออสสิริส มองว่า ภาคเหนือเป็นตลาดที่มีศักยภาพมาก เพราะเป็ฯภาคที่มีการออมมากที่สุด ดังนั้นจึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเปิดตลาดทั้งเพื่อการลงทุนและการออม อีกทั้งบริษัทเราก็มีผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบโจทย์นักลงทุนได้ทั้งทองคำแท่ง เหรียญทองคำ ดังนั้นในช่วง 2 ปีแรกจะเน้นในการทำแบรนดิ้ง โดยกลยุทธ์การตลาดที่ประกอบด้วย การให้ความรู้การลงทุนทองคำกับตลาด เช่นการจัดสัมมนา การให้ความรู้การลงทุนทองคำในหลายแง่มุมมองที่น่าสนใจจากทีมงานที่ปรึกษามืออาชีพ ตลอดจนบริการซื้อขายและการส่งมอบทองคำ ซึ่งถือเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า ทำให้ไม่ต้องจำเป็นต้องขึ้นมาที่กรุงเทพฯเพื่อรับสินค้า หรือต้องฝากทองคำของตนไว้กับแบงก์ในกรุงเทพฯเหมือนแต่ก่อน”
ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าให้แก่สาขาใหม่ ว่า ภายใน 1ปี จะสามารถมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการ 500 บัญชี และมีปริมาณการซื้อขายผ่านลูกค้าอยู่ที่ 300 ล้านบาทต่อปี จับกลุ่มนักลงทุนและผู้ที่สนใจรวมทั้งกลุ่มผู้ค้าทองในจังหวัด และจังหวัดใกล้ โดยในช่วงแรกบริษัทจะให้บริการการซื้อในด้านทองคำแท่งไปก่อน ขณะที่การให้บริการโกลด์ ฟิวเจอร์ส สำหรับสาขาเชียงใหม่ คาดว่าจะเริ่มได้ประมาณเดือนหน้า
ส่วนเป้าหมายต่อไป นายบุญเลิศ กล่าวว่า จะขอเวลาประเมินผลสาขาใหม่แห่งนี้ประมาณ 1 ปีก่อน หากผลออกมาเป็นที่น่าพอใจ บริษัทก็มีแนวคิดที่จะขยายสาขาไปสู่หัวเมืองใหญ่ในภูมิภาคต่างๆของประเทศมากขึ้น เช่น หาดใหญ่ ขอนแก่น นครราชสีมา และที่สนใจมากคือภาคตะวันออกของประเทศได้แก่ ระยอง และ พัทยา ซึ่งต้องพิจารณาในเรื่องดังกล่าวอีกครั้ง
นอกจากนี้ บริษัท ออสสิริส ได้ทำการเปิดตัว AusiRIS Baht Cold Bar 96.5% ที่ผลิตโดยตรงจากสวิสเซอร์แลนด์ออกสู่ตลาดทองคำของไทย เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับนักลงทุนในการลงทุนทองคำแท่งที่มีคุณภาพระดับสากล ซึ่งจะมีให้เลือก 2 แบบ คือ น้ำหนัก 10 บาท และ 20 บาท