อินเตอร์ลิ้งฯ เผยตั้งบริษัทย่อย 2 แห่ง รุกประมูลงานสถานีไฟฟ้า - แท่นขุดเจาะน้ำมัน หวังดันผลงานขยับ ตั้งเป้ารายได้และกำไรโตปีนี้โต 10% จากปีก่อน คาดผลงานไตรมาส 2 สวยกว่างวดเดียวกันของปี 51 อานิสงส์งานในมือหนุน เล็งประมูลใหม่อีก 500 ล้านบาท
นายสมบัติ อนันตรัมพร ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์ลิ้ง คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ILINK เปิดเผยว่าขณะนี้บริษัทฯ ได้ตั้งบริษัทย่อย 2 แห่งเพื่อแตกไลน์และขยายธุรกิจ โดยแบ่งเป็น บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เอนเนอยี่ จำกัด ที่เตรียมเข้าร่วมประมูลงานประเภทสถานีไฟฟ้า และบริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด ที่เล็งประมูลงานด้านแท่นขุดเจาะน้ำมัน เพื่อเป็นการขยายช่องทางรายได้ของบริษัท โดยบริษัททั้งสองแห่งนี้จะเน้นเข้าร่วมประมูลงานขนาด 500-1,000 ล้านบาท และคาดว่าเริ่มประมูลงานในช่วงไตรมาส 3-4 ปีนี้
สำหรับปี 52 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ที่ 1.20 พันล้านบาท และกำไรที่ 110 ล้านบาท จากปี 51 ที่มีรายได้ 1.09 พันล้านบาท 101.94 ล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 10% จากปีก่อน เนื่องจากปัจจุบันบริษัทมีงานในมือด้านวิศวกรรม (black log) มูลค่า 300 ล้านบาท มาจากโครงการ อาทิ โครงการติดตั้งสาย Submarine ของเกาะปูยูและเกาะยาว จังหวัดสตูล ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปี 52 ดังนั้น จึงประเมินว่าผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปีนี้น่าจะออกมาดีกว่างวดเดียวกันของปีก่อน
ขณะเดียวกัน ILINK ก็มีแผนจะประมูลงานวางระบบสายเคเบิ้ลเพิ่มอีกมูลค่า 500 ล้านบาท จากมูลค่างานที่จะเข้าร่วมยื่นซองประมูลที่เหลือปีนี้ประมาณ 3-5 พันล้านบาท รวมทั้งยังจะเพิ่มสินค้าที่เกี่ยวกับระบบไอทีเพิ่มเติมเพื่อผลักดันยอดขาย แต่จะเป็นสิ้นค้าชนิดใดนั้นยังอยู่ระหว่างการพิจารณา ซึ่งหากได้ข้อสรุปแล้วก็เตรียมจะสร้างคลังสินค้าบนพื้นที่ขนาด 5 ไร่ เพื่อรองรับการจัดเก็บสินค้าชนิดใหม่ อย่างไรก็ดี แผนดังกล่าวถือเป็นการเพิ่มช่องทางรายได้อีกทางในภาวะเศรษฐกิจซบเซา
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าปัจจุบันจะเริ่มมีสินค้าประเภทไอทีราคาถูกจากประเทศจีนเข้ามาตีตลาดในประเทศจำนวนมาก โดยส่วนตัวก็ไม่ได้รู้สึกกังวลใจเพราะสินค้าของประเทศจีนราคาค่อนข้างถูก เนื่องจากได้การสนับสนุนจากรัฐบาลจีน และค่าแรงที่ต่ำกว่า แต่ว่าหากในด้านของคุณภาพแล้วยังถือว่าด้อยกว่ามาก
นายสมบัติ อนันตรัมพร ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์ลิ้ง คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ILINK เปิดเผยว่าขณะนี้บริษัทฯ ได้ตั้งบริษัทย่อย 2 แห่งเพื่อแตกไลน์และขยายธุรกิจ โดยแบ่งเป็น บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เอนเนอยี่ จำกัด ที่เตรียมเข้าร่วมประมูลงานประเภทสถานีไฟฟ้า และบริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด ที่เล็งประมูลงานด้านแท่นขุดเจาะน้ำมัน เพื่อเป็นการขยายช่องทางรายได้ของบริษัท โดยบริษัททั้งสองแห่งนี้จะเน้นเข้าร่วมประมูลงานขนาด 500-1,000 ล้านบาท และคาดว่าเริ่มประมูลงานในช่วงไตรมาส 3-4 ปีนี้
สำหรับปี 52 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ที่ 1.20 พันล้านบาท และกำไรที่ 110 ล้านบาท จากปี 51 ที่มีรายได้ 1.09 พันล้านบาท 101.94 ล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 10% จากปีก่อน เนื่องจากปัจจุบันบริษัทมีงานในมือด้านวิศวกรรม (black log) มูลค่า 300 ล้านบาท มาจากโครงการ อาทิ โครงการติดตั้งสาย Submarine ของเกาะปูยูและเกาะยาว จังหวัดสตูล ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปี 52 ดังนั้น จึงประเมินว่าผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปีนี้น่าจะออกมาดีกว่างวดเดียวกันของปีก่อน
ขณะเดียวกัน ILINK ก็มีแผนจะประมูลงานวางระบบสายเคเบิ้ลเพิ่มอีกมูลค่า 500 ล้านบาท จากมูลค่างานที่จะเข้าร่วมยื่นซองประมูลที่เหลือปีนี้ประมาณ 3-5 พันล้านบาท รวมทั้งยังจะเพิ่มสินค้าที่เกี่ยวกับระบบไอทีเพิ่มเติมเพื่อผลักดันยอดขาย แต่จะเป็นสิ้นค้าชนิดใดนั้นยังอยู่ระหว่างการพิจารณา ซึ่งหากได้ข้อสรุปแล้วก็เตรียมจะสร้างคลังสินค้าบนพื้นที่ขนาด 5 ไร่ เพื่อรองรับการจัดเก็บสินค้าชนิดใหม่ อย่างไรก็ดี แผนดังกล่าวถือเป็นการเพิ่มช่องทางรายได้อีกทางในภาวะเศรษฐกิจซบเซา
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าปัจจุบันจะเริ่มมีสินค้าประเภทไอทีราคาถูกจากประเทศจีนเข้ามาตีตลาดในประเทศจำนวนมาก โดยส่วนตัวก็ไม่ได้รู้สึกกังวลใจเพราะสินค้าของประเทศจีนราคาค่อนข้างถูก เนื่องจากได้การสนับสนุนจากรัฐบาลจีน และค่าแรงที่ต่ำกว่า แต่ว่าหากในด้านของคุณภาพแล้วยังถือว่าด้อยกว่ามาก