3 ผู้ต้องหาตระกูลดังเมืองภูเก็ต บุกรุกเกาะยาว 500 ไร่ มูลค่าเสียหาย 500 ล้าน เข้าพบพนักงานสอบสวนดีเอสไอเพื่อรับทราบ 3 ข้อกล่าวหา ส่วนอีกรายอยู่ระหว่างประสานขอเข้ารับทราบข้อกล่าวหา
วันนี้ (28 เม.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายธวัช ตันติพิริยะกิจ นายธรา ตันติพิริยะกิจ และนายประสิทธิ์ ตันติพิริยะกิจ นักธุรกิจชื่อดัง จ.ภูเก็ต ผู้ต้องหาในคดีบุกรุกพื้นที่ป่าใน อ.เกาะยาว จ.พังงา พื้นที่ประมาณ 500 ไร่ มูลค่าเสียหายกว่า 500 ล้านบาท เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล ผู้เชี่ยวชาญคดีพิเศษด้านป่าไม้และที่ดิน ดีเอสไอ โดยนายบำรุง วงศ์ชุมพิศ ผู้ต้องหาอีก 1 ราย อยู่ระหว่างติดต่อเข้ารับทราบข้อกล่าวหา
พ.ต.ท.กรวัชร ปานประภากร ผอ.คดีอาญา 1 สำนักคดีอาญาพิเศษ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ชาวบ้าน บ้านย่าหมี หมู่ที่ 3 ต.เกาะยาวใหญ่ อ.เกาะยาว จ.พังงา ได้ร้องทุกข์ต่อดีเอสไอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินคดีต่อผู้ที่ครอบครองที่ดินโดยมิชอบในพื้นที่อ่าวคลองสน เพื่อจะพัฒนาเป็นโครงการต่อเนื่องจากการก่อสร้างท่าเทียบเรือของบริษัทข้ามชาติที่บ้านย่าหมี ซึ่งเป็นบริเวณที่มีสภาพชีวภาพทางทะเลที่อุดมสมบูรณ์ และเป็นพื้นที่ที่ชาวบ้านได้ใช้ประโยชน์จากการประมง
จากนั้นชาวบ้านได้รวมตัวกันต่อต้านการก่อสร้างท่าเทียบเรือ จนกระทั่งได้มีการเพิกถอนใบอนุญาตฯ แต่ยังพบว่าพื้นที่บนบกพัฒนาเป็นศูนย์การค้า บ้านพักตากอากาศ โรงแรม และอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีการออกเอกสารสิทธิทับป่าต้นน้ำในเขตป่าสงวนแห่งชาติ 2 แห่ง คือ ป่าเกาะยาวใหญ่ และป่าช่องหลาด
พ.ต.ท.ประวุธ กล่าวอีกว่า ผู้ต้องหาทั้ง 3 คนได้เข้ารับทราบข้อกล่าหา 1.ยึดถือครองทำประโยชน์ เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ 2.ยึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่นเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ และ 3.ยึดถือครอบครองที่ดินของรัฐโดยมิได้มีสิทธิครอบครองเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน
รายงานข่าวแจ้งว่า ผู้ต้องหาทั้ง 3 คนเป็นนายทุนรายใหญ่ของจังหวัดภูเก็ตที่พบการบุกรุกพื้นที่ในจังหวัดภูเก็ต พังงา และกระบี่ เป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องทั้ง 3 รายยังให้การปฏิเสธ และขอชี้แจงภายหลัง ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ปล่อยตัวไปหลังสอบปากคำ และนัดมาพบอีกครั้งวันที่ 2 มิ.ย.52
วันนี้ (28 เม.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายธวัช ตันติพิริยะกิจ นายธรา ตันติพิริยะกิจ และนายประสิทธิ์ ตันติพิริยะกิจ นักธุรกิจชื่อดัง จ.ภูเก็ต ผู้ต้องหาในคดีบุกรุกพื้นที่ป่าใน อ.เกาะยาว จ.พังงา พื้นที่ประมาณ 500 ไร่ มูลค่าเสียหายกว่า 500 ล้านบาท เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล ผู้เชี่ยวชาญคดีพิเศษด้านป่าไม้และที่ดิน ดีเอสไอ โดยนายบำรุง วงศ์ชุมพิศ ผู้ต้องหาอีก 1 ราย อยู่ระหว่างติดต่อเข้ารับทราบข้อกล่าวหา
พ.ต.ท.กรวัชร ปานประภากร ผอ.คดีอาญา 1 สำนักคดีอาญาพิเศษ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ชาวบ้าน บ้านย่าหมี หมู่ที่ 3 ต.เกาะยาวใหญ่ อ.เกาะยาว จ.พังงา ได้ร้องทุกข์ต่อดีเอสไอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินคดีต่อผู้ที่ครอบครองที่ดินโดยมิชอบในพื้นที่อ่าวคลองสน เพื่อจะพัฒนาเป็นโครงการต่อเนื่องจากการก่อสร้างท่าเทียบเรือของบริษัทข้ามชาติที่บ้านย่าหมี ซึ่งเป็นบริเวณที่มีสภาพชีวภาพทางทะเลที่อุดมสมบูรณ์ และเป็นพื้นที่ที่ชาวบ้านได้ใช้ประโยชน์จากการประมง
จากนั้นชาวบ้านได้รวมตัวกันต่อต้านการก่อสร้างท่าเทียบเรือ จนกระทั่งได้มีการเพิกถอนใบอนุญาตฯ แต่ยังพบว่าพื้นที่บนบกพัฒนาเป็นศูนย์การค้า บ้านพักตากอากาศ โรงแรม และอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีการออกเอกสารสิทธิทับป่าต้นน้ำในเขตป่าสงวนแห่งชาติ 2 แห่ง คือ ป่าเกาะยาวใหญ่ และป่าช่องหลาด
พ.ต.ท.ประวุธ กล่าวอีกว่า ผู้ต้องหาทั้ง 3 คนได้เข้ารับทราบข้อกล่าหา 1.ยึดถือครองทำประโยชน์ เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ 2.ยึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่นเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ และ 3.ยึดถือครอบครองที่ดินของรัฐโดยมิได้มีสิทธิครอบครองเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน
รายงานข่าวแจ้งว่า ผู้ต้องหาทั้ง 3 คนเป็นนายทุนรายใหญ่ของจังหวัดภูเก็ตที่พบการบุกรุกพื้นที่ในจังหวัดภูเก็ต พังงา และกระบี่ เป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องทั้ง 3 รายยังให้การปฏิเสธ และขอชี้แจงภายหลัง ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ปล่อยตัวไปหลังสอบปากคำ และนัดมาพบอีกครั้งวันที่ 2 มิ.ย.52
