นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิดงานโอท็อป เฟสติวัล อิน เดอะ ซิตี้ 2009 (OTOP Festival in the City 2009) ว่า การจัดงานครั้งนี้เนื่องจากรัฐบาลต้องการสานต่อนโยบายให้ต่อเนื่อง ซึ่งสินค้าโอท็อปเป็นการสะท้อนภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยหากสามารถพัฒนาให้มากขึ้น จะเป็นแนวทางในการเพิ่มสินค้าส่งออกให้โลกได้รู้จักสินค้าไทยได้มากยิ่งขึ้น
ขณะที่นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดงานฯ กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้เป็นโครงการตามนโยบายเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการโครงการ 1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์ ของรัฐบาล เพื่อเป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจ เพิ่มช่องทางการตลาด สร้างรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการโอท็อป รวมทั้งการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งเป็นการจัดงานในรูปแบบใหม่ ต่างจากที่เคยจัดกันมา โดยการนำสินค้าระดับ 3-5 ดาว กว่า 3,200 รายการ มาจำหน่ายในใจกลางเมือง ได้แก่ การจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ และสนามศุภชลาศัย โดยงานเริ่มตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม - 5 เมษายน ทั้งนี้ คาดว่าจะมีประชาชนทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเข้าร่วมชมงานไม่ต่ำกว่า 2 ล้านคน และมียอดการจำหน่ายสินค้าตลอดงานไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท
ขณะที่นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดงานฯ กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้เป็นโครงการตามนโยบายเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการโครงการ 1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์ ของรัฐบาล เพื่อเป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจ เพิ่มช่องทางการตลาด สร้างรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการโอท็อป รวมทั้งการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งเป็นการจัดงานในรูปแบบใหม่ ต่างจากที่เคยจัดกันมา โดยการนำสินค้าระดับ 3-5 ดาว กว่า 3,200 รายการ มาจำหน่ายในใจกลางเมือง ได้แก่ การจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ และสนามศุภชลาศัย โดยงานเริ่มตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม - 5 เมษายน ทั้งนี้ คาดว่าจะมีประชาชนทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเข้าร่วมชมงานไม่ต่ำกว่า 2 ล้านคน และมียอดการจำหน่ายสินค้าตลอดงานไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท