สมาคมประกันชีวิตไทยเผยยอดสมัครสอบตัวแทนไตรมาสแรกของปีมีจำนวน 34,436 คน ลดลงกว่า 38% ระบุสาเหตุจากปัญหาเศรษฐกิจที่ตกต่ำ และเกณฑ์ใหม่ของคปภ.
นางบุษรา อึ๊งภากรณ์ ผู้อำนวยการสมาคมประกันชีวิตไทย กล่าวว่า การสอบความรู้เพื่อขอรับใบอนุญาตเป็นตัวแทนประกันชีวิต สำหรับในไตรมาสแรกของปี 2552 ระหว่าง เดือนมกราคม-มีนาคมที่ผ่านมา มีผู้สมัครสอบทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น 34,436 คน ลดลงจากปีก่อนในระยะเดียวกัน ซึ่งมีผู้สมัครสอบ 56,055 คน จำนวน 21,619 คน หรือลดลงร้อยละ 38.57 ในจำนวนดังกล่าว เข้าสอบ 26,621 คน หรือร้อยละ 77.31 ของผู้สมัครสอบ และสอบผ่าน 16,690 คน หรือร้อยละ 62.69 ของผู้เข้าสอบ”
ทั้งนี้ ในการสอบตัวแทนประกันชีวิตดังกล่าว เป็นการสอบในส่วนกลาง มีผู้สมัครสอบ 16,672 คน เข้าสอบ 14,768 คน หรือร้อยละ 88.58 ของผู้สมัครสอบ และสอบผ่าน 10,246 คน หรือร้อยละ 69.38 ของผู้เข้าสอบ เป็นการสอบในส่วนภูมิภาค มีผู้สมัครสอบ 17,764 คน เข้าสอบ 11,853 คน หรือร้อยละ 66.72 ของผู้สมัครสอบ และสอบผ่าน 6,444 คน หรือร้อยละ 54.37 ของผู้เข้าสอบ และในจำนวนผู้สมัครสอบทั่วประเทศ กรุงเทพมหานครเป็นจังหวัดที่มีผู้สมัครสอบมากที่สุด ซึ่งมีจำนวน 16,672 คน อันดับที่ 2 ขอนแก่น จำนวน 1,426 คน อันดับ 3 เชียงใหม่ จำนวน 1,171 คน อันดับ 4 นครราชสีมา จำนวน 972 คน และอันดับ 5 สงขลา จำนวน 961 คน
นางบุษรากล่าวอีกว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้มีผู้สมัครสอบตัวแทนประกันชีวิตในไตรมาสแรกลดลงถึงร้อยละ 38.57 เนื่องจากปัญหาภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่ตกต่ำ ซึ่งเป็นผลกระทบทั้งจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก และปัญหาการเมืองภายในประเทศ ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการที่จะชักจูงคนใหม่ให้เข้ามาสู่อาชีพตัวแทนประกันชีวิต ประกอบกับหลักเกณฑ์ใหม่ ที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) มีนโยบายมุ่งจะทำให้อาชีพคนกลางมีคุณภาพสูงขึ้น โดยกำหนดให้ผู้ที่จะขอรับและขอต่อใบอนุญาตเป็นตัวแทนหรือนายหน้าประกันชีวิต จะต้องผ่านการอบรมตามหลักเกณฑ์ที่ สำนักงาน คปภ.กำหนด ซึ่งเริ่มมีผลบังคับตั้งแต่ 1 มกราคม 2552เป็นต้นมา
นางบุษรา อึ๊งภากรณ์ ผู้อำนวยการสมาคมประกันชีวิตไทย กล่าวว่า การสอบความรู้เพื่อขอรับใบอนุญาตเป็นตัวแทนประกันชีวิต สำหรับในไตรมาสแรกของปี 2552 ระหว่าง เดือนมกราคม-มีนาคมที่ผ่านมา มีผู้สมัครสอบทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น 34,436 คน ลดลงจากปีก่อนในระยะเดียวกัน ซึ่งมีผู้สมัครสอบ 56,055 คน จำนวน 21,619 คน หรือลดลงร้อยละ 38.57 ในจำนวนดังกล่าว เข้าสอบ 26,621 คน หรือร้อยละ 77.31 ของผู้สมัครสอบ และสอบผ่าน 16,690 คน หรือร้อยละ 62.69 ของผู้เข้าสอบ”
ทั้งนี้ ในการสอบตัวแทนประกันชีวิตดังกล่าว เป็นการสอบในส่วนกลาง มีผู้สมัครสอบ 16,672 คน เข้าสอบ 14,768 คน หรือร้อยละ 88.58 ของผู้สมัครสอบ และสอบผ่าน 10,246 คน หรือร้อยละ 69.38 ของผู้เข้าสอบ เป็นการสอบในส่วนภูมิภาค มีผู้สมัครสอบ 17,764 คน เข้าสอบ 11,853 คน หรือร้อยละ 66.72 ของผู้สมัครสอบ และสอบผ่าน 6,444 คน หรือร้อยละ 54.37 ของผู้เข้าสอบ และในจำนวนผู้สมัครสอบทั่วประเทศ กรุงเทพมหานครเป็นจังหวัดที่มีผู้สมัครสอบมากที่สุด ซึ่งมีจำนวน 16,672 คน อันดับที่ 2 ขอนแก่น จำนวน 1,426 คน อันดับ 3 เชียงใหม่ จำนวน 1,171 คน อันดับ 4 นครราชสีมา จำนวน 972 คน และอันดับ 5 สงขลา จำนวน 961 คน
นางบุษรากล่าวอีกว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้มีผู้สมัครสอบตัวแทนประกันชีวิตในไตรมาสแรกลดลงถึงร้อยละ 38.57 เนื่องจากปัญหาภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่ตกต่ำ ซึ่งเป็นผลกระทบทั้งจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก และปัญหาการเมืองภายในประเทศ ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการที่จะชักจูงคนใหม่ให้เข้ามาสู่อาชีพตัวแทนประกันชีวิต ประกอบกับหลักเกณฑ์ใหม่ ที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) มีนโยบายมุ่งจะทำให้อาชีพคนกลางมีคุณภาพสูงขึ้น โดยกำหนดให้ผู้ที่จะขอรับและขอต่อใบอนุญาตเป็นตัวแทนหรือนายหน้าประกันชีวิต จะต้องผ่านการอบรมตามหลักเกณฑ์ที่ สำนักงาน คปภ.กำหนด ซึ่งเริ่มมีผลบังคับตั้งแต่ 1 มกราคม 2552เป็นต้นมา
