ทีดีอาร์ไอ ชี้ มาตรการกระตุ้น ศก.ชุด 2 ต้องสอดคล้องทุกภาคส่วน ทั้งรัฐ เอกชน และท้องถิ่น เพื่อให้สอดรับกับแผนหลัก เน้นศึกษาความเป็นไปได้ และการรับฟังการมีส่วนร่วม ห่วงแผนการจัดทำแหล่งเงินทุนและการลงทุน ที่มีระยะเวลาในการจัดทำเพียง 1 เดือน เพราะน้อยเกินไป โดยเฉพาะการลงทุนในเรื่องของแหล่งน้ำ เพราะที่ผ่านมาได้มีการลงทุนไปแล้ว เป็นแสนล้านบาท แต่ให้ผลตอบแทนการลงทุนต่ำ ส่วนแผนการกู้เงินเพิ่มเพื่อลงทุน ยังสามารถทำได้ ในช่วงที่กลไกระบบเศรษฐกิจไม่ทำงานเพราะผลกระทบจากภาวะวิกฤต
นายนิพนธ์ พัวพงศกร ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) กล่าวถึงการจัดทำแผนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ระยะที่ 2 ที่มีการลงทุน ในช่วงปี 2552 - 2555 โดยใช้เงินลงทุน 1.56 ล้านล้านบาทนั้น รัฐบาลจะต้องเป็นการประสานการลงทุนทุกส่วน ทั้งรัฐบาล ส่วนกลาง รัฐวิสาหกิจ และองค์กรส่วนท้องถิ่น เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่เป็นแผนหลัก และต้องมีการศึกษาความเป็นไปได้ ในการรับผลตอบแทน
ทั้งนี้ มีความเป็นห่วงเรื่องแผนการจัดทำแหล่งเงินทุนและการลงทุน ที่มีระยะเวลาในการจัดทำเพียง 1 เดือน ซึ่งน้อยเกินไป โดยเฉพาะการลงทุนในเรื่องของแหล่งน้ำ เพราะที่ผ่านมาได้มีการลงทุนไปแล้ว เป็นแสนล้านบาท แต่ให้ผลตอบแทนการลงทุนต่ำ ดังนั้น รัฐบาลควรจัดประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร เพื่อรับฟังความคิดเห็นนโยบายของภาครัฐจากประชาชนในชนบทและเพื่อเป็นการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ ทั้งเป็นการตรวจสอบการประเมินผลการทำงานของภาครัฐด้วย
ส่วนวินัยการเงินการคลังนั้น มองว่า ยังมีฐานะดี และการที่รัฐบาลจะกู้เงินเพิ่มในขณะนี้ ก็ถือว่ามีความเหมาะสมเพราะภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน อาจทำให้การจัดเก็บรายได้ของรัฐ ลดต่ำลง 1.3 - 2.5 แสนล้านบาท รวมทั้งยังเสนอให้มีการออกกฎหมายนิรโทษกรรม บุคคลที่มีการเลี่ยงภาษี