เอเชียน มารีน เซอร์วิสส์ เบนเข็มสู่งานดัดแปลงเรือ หลังงานซ่อมเรือแข่งขันสูง เผยอยู่ระหว่างดีลงานดัดแปลงเรือของสิงคโปร์ คาดได้ข้อสรุปกลางปีนี้ รุกทำตลาดหาลูกค้าใหม่เพิ่ม เบรกแผนลงทุนอู่ต่อเรื่อขนาดใหญ่เป็นปี 54-55 อ้างเศรษฐกิจซบ ยอมรับปี 52 รายได้หดเหลือ 1 พันล้านบาท ขณะที่ปัจจุบันมีงานในมูลค่ากว่า 450 ล้านบาท รับรู้ต่อเนื่องถึงปีหน้า
นางวรวรรณ งานทวี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชียน มารีน เซอร์วิสส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASIMAR เปิดเผยว่าขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างเจรจางานเกี่ยวกับการดัดแปลงเรือของประเทศสิงคโปร์จำนวน 1 ลำ มูลค่าประมาณ 300 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปช่วงกลางปี 52 อย่างไรก็ตาม หากทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางไว้ก็น่าจะสามารถรับรู้รายได้ทั้งหมดปีนี้
" จากสภาพเศรษฐกิจที่ซบเซา บริษัทฯ จำเป็นต้องระมัดระวังเรื่องของการลงทุน โดยเตรียมชะลอแผนลงทุนอู่ต่อเรื่อขนาดใหญ่ ที่มีมูลค่าโครงการ 700-800 ล้านบาท บริเวณภาคใต้ของไทย ออกไปจากเดิมที่จะเริ่มดำเนินการช่วงปี 52-53 ไปเป็นปี 54-55 แทน" นางวรวรรณ กล่าว
สำหรับในปี 52 บริษัทคาดการณ์ว่าจะมีรายได้ประมาณ 1 พันล้านบาท เทียบกับปี 51 ที่มีรายได้อยู่ที่ 1.08 พันล้านบาท ลดลง 0.08 พันล้านบาท หรือคิดเป็น 7.41% อันเป็นผลจากการแข่งขันในส่วนงานซ่อมเรือที่สูงขึ้น แต่ทาง ASIMAR ได้หันมาลุยงานดัดแปลงเรือเพื่อทดแทนรายได้ในส่วนดังกล่าวแทน จึงเชื่อว่ากำไรสุทธิของปีนี้น่าจะใกล้เคียงกับปี 51 ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 58.79 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทฯ เตรียมรุกทำการตลาดงานดัดแปลงเรือ เพื่อหาลูกค้าใหม่ในประเทศ สิงคโปร์ อินเดีย และมัลดิฟส์ เพิ่มอีก 2-3 งาน เพื่อเป็นออเดอร์สำหรับงานในปี 53 อันจะทำให้งานในมือ (black log) เพิ่ม ส่วนไตรมาสแรกปีนี้ มองว่าน่าจะเป็นจุดต่ำสุดของปีนี้ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่หดตัว แต่ประเมินว่าในครึ่งปีหลังน่าจะเริ่มฟื้นตัวได้ ซึ่งถ้าทุกอย่างเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ จะส่งผลให้ไตรมาสแรกก็น่าจะมีกำไร เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 51 ที่พบว่าบริษัทขาดทุนสุทธิ 10 ล้านบาท
ปัจจุบัน บริษัทมีงานในมืออยู่จำนวน 2 งาน คือ งานต่อเรือ AZZAM ซึ่งเป็นเรือลักษณะ Offshore ที่กำหนดส่งมอบงานหลังจากนี้ 2 เดือน ซึ่งเหลือรายได้ที่จะรับรู้อีก 10 % ของมูลค่างานทั้งหมดหรือประมาณ 64 ล้านบาท และจะรับรู้รายได้หมดในไตรมาส 3/52 รวมถึงงานต่อเรื่อใหม่อีก 1 ลำ ที่มีมูลค่างาน 600 ล้านบาท โดยเป็นงานที่รับมาตั้งแต่ปี 51 จะเริ่มทยอยรับรู้รายได้ในไตรมาส 3-4 ปีนี้ประมาณ 60% หรือคิดเป็น 350-400 ล้านบาท ขณะสองงานที่กล่าวมาแล้วข้างต้นจะรับรู้รายได้ปี 52 มูลค่ารวม 450 ล้านบาทขึ้นไป
นางวรวรรณ งานทวี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชียน มารีน เซอร์วิสส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASIMAR เปิดเผยว่าขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างเจรจางานเกี่ยวกับการดัดแปลงเรือของประเทศสิงคโปร์จำนวน 1 ลำ มูลค่าประมาณ 300 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปช่วงกลางปี 52 อย่างไรก็ตาม หากทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางไว้ก็น่าจะสามารถรับรู้รายได้ทั้งหมดปีนี้
" จากสภาพเศรษฐกิจที่ซบเซา บริษัทฯ จำเป็นต้องระมัดระวังเรื่องของการลงทุน โดยเตรียมชะลอแผนลงทุนอู่ต่อเรื่อขนาดใหญ่ ที่มีมูลค่าโครงการ 700-800 ล้านบาท บริเวณภาคใต้ของไทย ออกไปจากเดิมที่จะเริ่มดำเนินการช่วงปี 52-53 ไปเป็นปี 54-55 แทน" นางวรวรรณ กล่าว
สำหรับในปี 52 บริษัทคาดการณ์ว่าจะมีรายได้ประมาณ 1 พันล้านบาท เทียบกับปี 51 ที่มีรายได้อยู่ที่ 1.08 พันล้านบาท ลดลง 0.08 พันล้านบาท หรือคิดเป็น 7.41% อันเป็นผลจากการแข่งขันในส่วนงานซ่อมเรือที่สูงขึ้น แต่ทาง ASIMAR ได้หันมาลุยงานดัดแปลงเรือเพื่อทดแทนรายได้ในส่วนดังกล่าวแทน จึงเชื่อว่ากำไรสุทธิของปีนี้น่าจะใกล้เคียงกับปี 51 ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 58.79 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทฯ เตรียมรุกทำการตลาดงานดัดแปลงเรือ เพื่อหาลูกค้าใหม่ในประเทศ สิงคโปร์ อินเดีย และมัลดิฟส์ เพิ่มอีก 2-3 งาน เพื่อเป็นออเดอร์สำหรับงานในปี 53 อันจะทำให้งานในมือ (black log) เพิ่ม ส่วนไตรมาสแรกปีนี้ มองว่าน่าจะเป็นจุดต่ำสุดของปีนี้ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่หดตัว แต่ประเมินว่าในครึ่งปีหลังน่าจะเริ่มฟื้นตัวได้ ซึ่งถ้าทุกอย่างเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ จะส่งผลให้ไตรมาสแรกก็น่าจะมีกำไร เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 51 ที่พบว่าบริษัทขาดทุนสุทธิ 10 ล้านบาท
ปัจจุบัน บริษัทมีงานในมืออยู่จำนวน 2 งาน คือ งานต่อเรือ AZZAM ซึ่งเป็นเรือลักษณะ Offshore ที่กำหนดส่งมอบงานหลังจากนี้ 2 เดือน ซึ่งเหลือรายได้ที่จะรับรู้อีก 10 % ของมูลค่างานทั้งหมดหรือประมาณ 64 ล้านบาท และจะรับรู้รายได้หมดในไตรมาส 3/52 รวมถึงงานต่อเรื่อใหม่อีก 1 ลำ ที่มีมูลค่างาน 600 ล้านบาท โดยเป็นงานที่รับมาตั้งแต่ปี 51 จะเริ่มทยอยรับรู้รายได้ในไตรมาส 3-4 ปีนี้ประมาณ 60% หรือคิดเป็น 350-400 ล้านบาท ขณะสองงานที่กล่าวมาแล้วข้างต้นจะรับรู้รายได้ปี 52 มูลค่ารวม 450 ล้านบาทขึ้นไป