“อภิสิทธิ์” มั่นใจเช็คช่วยชาติ 2 พัน ช่วยกระตุ้น ศก.ขยายตัวได้ ยันเป็นการเพิ่มกำลังซื้อให้รากหญ้า โดยใส่เม็ดเงินเข้าไปหมุนเวียนในระบบ เพราะไตรมาสที่ 1 ถือเป็นจุดที่เลวร้ายที่สุดของปี 52 “กรณ์” ยันเช็ค 9.5 ล้านฉบับ ช่วยให้เม็ดเงินสะพัด 0.2% ของจีดีพี เชื่อเห็นผลไตรมาส 2 ต่อเนื่องไตรมาส 3 แน่นอน
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีเช็คช่วยชาติ 2,000 บาท ที่จะออกมาในวันพรุ่งนี้ เชื่อว่า จะมีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวได้ และถือเป็นจุดหนึ่งซึ่งรัฐบาลกำลังจะช่วยเสริมกำลังซื้อของผู้มีรายได้น้อย และต้องการให้การหมุนเวียนเงินในระบบเศรษฐกิจขณะนี้สามารถผ่านช่วงนี้ไปได้
“ต้องยอมรับว่า ช่วงนี้ถือเป็นช่วงที่เราพูดมาตลอดว่าจะยากลำบากที่สุด ฉะนั้น การออกเช็คช่วยชาติกับมาตรการอื่นๆ ที่จะมีการใช้เงินงบประมาณกลางปี ซึ่งกำลังออกมาในช่วง 2 เดือนนี้ ก็หวังว่าจะช่วยทำให้เรารักษากิจกรรมทางเศรษฐกิจไปได้ ส่วนการลงทุนต่างๆ จะเกิดขึ้นได้ในช่วงไตรมาส 3 และ 4 ตามมาตรการอื่นๆ ทั้งงบปกติด้วยที่ล่าช้ามา”
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายทุนมีความห่วงใยว่าสิ่งที่รัฐบาลกระตุ้นนี้เป็นเพียงผิวเผินเท่านั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นมาตรการเฉพาะหน้า แต่ไม่ได้เป็นมาตรการเดียว และจะต้องตามมาด้วยมาตรการอื่นๆ ซึ่งกำลังเตรียมการกันอยู่ โดยการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เศรษฐกิจ วันนี้ ก็มีการคุยเรื่องการลงทุนในกรอบ 3 ปีข้างหน้า
นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวเสริมว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านเช็คช่วยชาติ 2 พันบาทนั้น คาดว่า จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ประมาณ 0.2% ของจีดีพี และช่วยเรื่องการจ้างงานได้ 80,000-100,000 อัตรา โดยจะส่งผลทางเศรษฐกิจในไตรมาส 2 และไตรมาส 3 ของปีนี้ ซึ่งเป็นการปั๊มเม็ดเงินแรงๆ เข้าไปในระบบ เพื่อปลุกเครื่องยนต์ ก่อนใช้มาตรการด้านอื่นๆ เข้าไปกระตุ้น