xs
xsm
sm
md
lg

ตลาดหุ้นเล็งหั่นเป้าบจ.ใหม่ พร้อมลดวอลุ่มเฉลี่ยหลังตลาดหุ้นซบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ตลาดหลักทรัพย์ฯ เตรียมปรับลดเป้าหมายบริษัทจะทะเบียนใหม่ปี 52 หลังจบไตรมาส1/52 จากเป้าหมายเดิม 46 บริษัท แบ่งเป็นตลาดหลักทรัพย์ 22 แห่ง และเอ็มเอไอ 24 แห่ง ระบุสาเหตุเกิดจากมูลค่าการซื้อขายตลาดหุ้นซบเซา ด้านผู้บริหาร “ภัทรียา” ยังหวังเป้าเอ็มเอไอไม่พลาดเป้า พร้อมทบทวนเป้ามูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันใหม่ จากก.พ. 52 มูลค่าเฉลี่ยลดวูบเหลือแค่วันละ 8 พันล้านบาท แนะนักลงทุนเลือกลงทุนในหุ้นจ่ายปันผลดี

บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทย ยังคงได้รับผลต่อเนื่องจากวิกฤตการเงินสหรัฐฯ ที่บานปลายและขยายวงกว้างกระทบออกไปสู่ภาวะเศรษฐกิจทั่วโลก และยังไม่มีวี่แววที่จะทุเลาเบาบางลง แม้ว่าทางการของหลายๆ ประเทศพยายามเร่งรัดและนำมาตรการต่างๆ มาใช้เพื่อแก้ปัญหาวิกฤตการณ์ดังกล่าว จากวิกฤตการเงินและภาวะเศรษฐกิจโลกได้ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นทั่วโลก รวมถึงตลาดหุ้นไทยที่ตกอยู่ในภาวะที่ซบเซาต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา

นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีแผนที่จะทบทวนลดเป้าหมายของบริษัทที่จะเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) ในช่วงสิ้นไตรมาส1/52 จากเป้าหมายดิมที่คาดจะมีบริษัทเข้าจดทะเบียนจำนวน 46 บริษัท เนื่องจากมูลค่าการซื้อขายปรับตัวลดลงทำให้บรรยากาศการลงทุนไม่เอื้อในการเสนอขายหุ้น

ทั้งนี้ บริษัทที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ นั้น คงไม่เป็นไปตามเป้าที่จะมีจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์ 22 บริษัท แต่บริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) 24 บริษัท คาดว่าเป็นไปตามเป้าจากบริษัทขนาดเล็กมีช่องทางระดมทุนน้อยจากที่ธนาคารพาณิชย์มีการปล่อยกู้ที่ยากขึ้น จึงทำให้ต้องเข้ามาระดมทุน

“บอร์ดตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้นโยบายที่ทุกๆ 3 เดือนจะมีการทบทวนเป้าหมายการดำเนินงานต่าง ๆ ซึ่งสิ้นไตรมาส 1/52 นั้น จะมีการหารือทบทวนเป้าหมายบริษัทเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และเอ็มเอไอ ซึ่งบริษัทที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ อาจจะยากหน่อยที่จะได้ตามเป้าหมาย แต่ตลาดเอ็มเอไอน่าจะทำได้”

นางภัทรียา กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้เป้าหมายบริษัทจดทะเบียนในปีนี้จะไม่เป็นไปตามเป้าที่กำหนดไว้ แต่คาดว่าจะมีบริษัทจดทะเบียนไม่ต่ำกว่าปี 2551 ที่ผ่านมา ที่มีบริษัทเข้าจดทะเบียนรวม 11 บริษัท เนื่องจากมีบริษัทที่ได้รับอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) อีก 10 บริษัท ซึ่งในช่วงที่ผ่านมามีบริษัทเข้าจดทะเบียนแล้วจำนวน 3 บริษัท และจะเข้าจดทะเบียนอีก 1 บริษัทในเดือนนั้น รวมถึงการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่บริษัทที่จะเข้ามาจดทะเบียนในปีนี้นั้น ถือว่าเป็นแรงจูงใจหนึ่งที่จะทำให้บริษัทเข้ามา

สำหรับตลาดหลักทรัพย์ฯ จะพยายามผลักดันให้เกิดระบบการการรับหลักทรัพย์แบบการเปิดเผยข้อมูล (disclosurebased) ซึ่งเป็นการลดระยะเวลาในการเข้าจดทะเบียนทำได้เร็วขึ้น แต่ทางที่ปรึกษาทางการเงินนั้นถือว่าจะมีบทบาทและหน้าที่สำคัญในการทำหน้าที่ในการเปิดเผยข้อมูลให้กับนักลงทุนทราบข้อมูลต่างรวมถึงความเสี่ยง

นางภัทรียา กล่าวว่า นอกจากจะมีการทบทวนบริษัทที่จะเข้ามาจดทะเบียนแล้ว จะมีการทบทวนมูลค่าการซื้อขายปีนี้ด้วย เนื่องจากในช่วงเดือนม.ค.วอลุ่มการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันเหลือ 1 หมื่นล้านบาท เดือนก.พ.เหลือ 8 พันล้านบาท ซึ่งต้องยอดมรับว่าขณะนี้สภาพคล่องการซื้อขายนั้นปรับตัวลดลง จากนักลงทุนรอความชัดเจน ภาวะเศรษฐกิจโลก ปัญหาสถาบันเงินต่างประเทศ โดยภาวะที่เกิดขึ้นนั้นก็เข้าใจว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเป็นปัจจัยต่างประเทศ

ทั้งนี้ เชื่อว่าหากในช่วงครึ่งปีเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นและมีการแก้ไขปัญหาสถาบันการเงินต่างประเทศดีขึ้นเชื่อว่าการลงทุนในตลาดหุ้นไทยจะดีขึ้น แต่ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นนิวยอร์กมีการปรับตัวดีขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี แต่นักวิเคราะห์ต่างๆก็ยังขอรอดูความชัดเจนก่อนยังไม่มีการปรับประมาณการอย่างไร

สำหรับนักลงทุนนั้นควรที่จะมีการเลือกลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่ดี ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯได้มีการรวบรวมข้อมูลการจ่ายเงินปันผลของบริษัทจดทะเบียนนั้นถือว่ามีการจ่ายเงินปันผลที่สูงถึง 6.6% ซึ่งควรเลือกลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มการเติบโตดี และทางบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ได้มีการออกกองทุนอ้างอิงกับบริษัทจดทะเบียนที่มีการจ่ายเงินปันผลที่สูง

อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมาตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ใช้ความพยายามอย่างหนักที่จะจูงใจและสนับสนุนให้เอกชนนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ไม่ว่าจะเป็นการลดค่าธรรมเนียม การสร้างแรงจูงใจต่างๆ และล่าสุดกำลังพิจารณาทบทวนปรับลดการจัดสรรหุ้นที่จะเสนอขายให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) ของบริษัทขนาดกลางและขนาดใหญ่ ที่มีทุนจดทะเบียนตั้งแต่ 300-500 ล้านบาทขึ้นไป เพื่อสนับสนุนให้บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้สะดวกยิ่งขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น