xs
xsm
sm
md
lg

คลังหนุน ธ.อิสลาม ชูหลักธุรกิจที่เป็นธรรม ต้นแบบธนาคารเพื่อ ปชช.ของจริง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รมช.คลัง หนุนแบงก์อิสลาม เร่งขยายสินเชื่อ 2.4 หมื่นล้าน แบ่งเบาภาระประชาชนในช่วงวิกฤต โดยเน้นจุดเด่น การดำเนินธุรกิจ-ผลกำไรที่เป็นธรรม เพื่อเป็นต้นแบบให้ธนาคารพาณิชย์ “ธีระศักดิ์” เผย โครงการสินเชื่อซับน้ำตา ทั้งการไถ่ถอน-ซื้อที่อยู่อาศัย ที่ให้วงเงินสูงสุดถึง 110% ปลอดเงินต้น 3 ปี ชูสินเชื่อรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต-สินเชื่อบุคคล ผ่อนชำระนานถึง 6 ปี มั่นใจช่วยแบ่งเบาภาระหนี้ให้ประชาชนได้

นายพฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยระหว่างเป็นประธานเปิดงาน ปรับภาพลักษณ์ใหม่สู่ไอแบงก์ ของธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ธอท.) โดยระบุว่า การปรับภาพลักษณ์ใหม่ในปีนี้ นับเป็นส่วนหนึ่งในยุทธศาสตร์ของธนาคาร เพื่อรองรับการให้บริการที่ครอบคลุมทั้งด้านเงินฝาก และการให้สินเชื่อ โดยเฉพาะในปีนี้ ธนาคารตั้งเป้าหมายเร่งขยายสินเชื่อเป็น 24,000 ล้านบาท จาก 16,726 ล้านบาท ในปีก่อน โดยมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เช่น สินเชื่อเช่าซื้อ สินเชื่อบุคคล และบริการด้านต่างประเทศ

ทั้งนี้ มั่นใจว่า การที่ ธอท.ได้ออกผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายมากขึ้น จะทำให้สามารถแข่งขันกับธนาคารพาณิชย์อื่นได้ แม้การดำเนินธุรกิจของธนาคารจะอยู่ภายใต้หลักการไม่ขัดต่อหลักศาสนาอิสลาม เพราะจุดเด่นของธนาคารเป็นการให้บริการทางการเงินที่เป็นธรรม ทั้งเงินฝาก และเงินกู้ โดยไม่ได้คำนึงถึงกำไรที่เกิดจากส่วนต่างของอัตราผลตอบแทน (สเปรด)

นายธีรศักดิ์ สุวรรณยศ กรรมการผู้จัดการ ธอท.เปิดเผยว่า ธนาคารได้จัดโครงการสินเชื่อ 3 ผลิตภัณฑ์ ประกอบด้วย สินเชื่อเพื่อไถ่ถอนที่อยู่อาศัย สินเชื่อเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย และสินเชื่อรีไฟแนนซ์หนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคล เพื่อช่วยเหลือภาระหนี้ของประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในภาวะที่เศรษฐกิจตกต่ำ ซึ่งสินเชื่อทั้ง 3 โครงการ ธนาคารจะเริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม-31 สิงหาคม 2552 นี้

“ยอมรับว่า ในภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ยากขึ้น ประกอบกับหลายอุตสาหกรรมมีการเลิกจ้างงาน ทำให้ผู้บริโภคมีปัญหาภาระหนี้เพิ่มขึ้น”

ดังนั้น ธนาคารจึงพร้อมให้ความร่วมมือสนับสนุนนโยบายภาครัฐในการเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยการออกโครงการสินเชื่อซับน้ำตา เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระหนี้ให้แก่ผู้บริโภค ซึ่งมีให้เลือกใช้บริการ 3 ผลิตภัณฑ์ คือ สินเชื่อเพื่อไถ่ถอนที่อยู่อาศัยทั้ง บ้าน ทาวน์เฮาส์ อาคารพาณิชย์ ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของตนเองและครอบครัวจากสถาบันการเงินอื่น ให้วงเงินสูงสุด 110% ของภาระหนี้คงเหลือ รวมถึงการให้สินเชื่อเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย วงเงินสูงสุดไม่เกิน 90% ของราคาซื้อขายหรือราคาประเมิน ซึ่งทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์ จะกำหนดระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุดไม่เกิน 30 ปี และสามารถขอปลอดชำระเงินต้นได้สูงสุด 3 ปี คิดอัตรากำไรแบบคงที่พิเศษต่ำสุด ปีที่ 1 คิดอัตรากำไร 4.25% ปีที่ 2 และ 3 อัตรากำไร 6.00% พร้อมปลอดเงินต้น 3 ปี

สำหรับผลิตภัณฑ์ที่สาม คือ สินเชื่อรีไฟแนนซ์หนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคล เพื่อไถ่ถอนหนี้บัตรเครดิต หรือหนี้ส่วนบุคคลจากสถาบันการเงินอื่น วงเงินไม่เกิน 100% ของภาระหนี้คงเหลือรวมทั้งหมดในกรณีที่ลูกค้ารีไฟแนนซ์มากกว่า 1 วงเงิน แต่ทั้งนี้ ต้องขึ้นอยู่กับความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้า มีบุคคลค้ำประกันและสามารถเลือกปลอดชำระเงินต้นได้สูงสุด 6 เดือน ภายในระยะเวลาการขอสินเชื่อสูงสุด 6 ปี อัตรากำไร SPRR+7.75% (ปัจจุบัน SPRR 7.75%)

ทั้งนี้ การออกโครงการสินเชื่อซับน้ำตา เชื่อว่า จะสามารถช่วยบรรเทาความเดือดร้อน และแบ่งเบาภาระหนี้ให้แก่ผู้บริโภคได้
กำลังโหลดความคิดเห็น