ทอท.ยอมรับ ศก.โลกตกต่ำ กระทบยอดนักท่องเที่ยวหายไปเกือบ 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อาจส่งผลต่อรายได้ลดลงต่ำกว่าปีก่อน จากที่เคยได้รับ 2 หมื่นล้านบาท
นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ในฐานะรักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. กล่าวยอมรับว่า วิกฤตเศรษฐกิจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการบิน พร้อมระบุว่า ปีนี้เป็นปีเผาหลอกที่เศรษฐกิจทั่วโลกตกต่ำถึงขั้นวิกฤตทำให้จำนวนผู้โดยสารที่จะเข้ามาใช้สนามบินลดลงประมาณ 10% จากเดิมในช่วงเดียวกัน โดยปีที่แล้วมีผู้โดยสาร ประมาณวันละ 100,000-120,000 คน แต่ปัจจุบันมีเพียง 105,000 คน แต่ก็ยังสูงกว่าจำนวนที่เคยประมาณการไว้ ส่วนรายได้ที่จะเข้ามานั้นในปีนี้ก็คาดว่าจะต่ำกว่ารายได้ที่ ทอท. เคยได้รับที่ 20,000 ล้านบาท ในปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ทอท. ก็ยังมั่นใจว่า ทอท.จะยังติด 1 ใน 10 สนามบินที่มีความเป็นเลิศในด้านการให้บริการผู้โดยสารที่ได้เริ่มทำการสำรวจความคิดเห็นผู้โดยสารไปบ้างแล้ว โดยสมาคมธุรกิจท่าอากาศยานระหว่างประเทศ จะเป็นผู้ดำเนินการและตัดสินอย่างเป็นธรรม ส่วนปัญหาการปิดล้อมสนามบินนั้นขณะนี้ตนก็มั่นใจว่าจะไม่มีการทำลักษณะนี้อีกเพราะทุกฝ่ายต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติ และ ทอท. เองก็เพิ่งออกมาตรการเพิ่มความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยให้กับสนามบินทั้ง 6 แห่งทั่วประเทศ จึงไม่น่าจะมีปัญหาในส่วนดังกล่าวอีก
นอกจากนี้ ปัจจุบัน ทอท.ยังได้เสนอให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาเพื่อเสนอให้มีการบังคับใช้กฎหมาย Airport Act เพื่อให้เจ้าหน้าที่ของ ทอท.มีอำนาจในการเข้าดำเนินการกับผู้ที่กระทำผิดกฎหมาย ก่อความไม่สะดวกแก่ผู้โดยสารภายในสนามบิน เนื่องจากปัจจุบัน ทอท.ไม่มีอำนาจในการเข้าดำเนินการกับผู้ที่กระทำผิดกฎหมายภายในสนามบิน เช่น แท็กซี่ป้ายดำ ไกด์เถื่อน เป็นต้น และต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้จับกุม ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่ทันการทำให้การแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่ได้ผล
นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ในฐานะรักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. กล่าวยอมรับว่า วิกฤตเศรษฐกิจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการบิน พร้อมระบุว่า ปีนี้เป็นปีเผาหลอกที่เศรษฐกิจทั่วโลกตกต่ำถึงขั้นวิกฤตทำให้จำนวนผู้โดยสารที่จะเข้ามาใช้สนามบินลดลงประมาณ 10% จากเดิมในช่วงเดียวกัน โดยปีที่แล้วมีผู้โดยสาร ประมาณวันละ 100,000-120,000 คน แต่ปัจจุบันมีเพียง 105,000 คน แต่ก็ยังสูงกว่าจำนวนที่เคยประมาณการไว้ ส่วนรายได้ที่จะเข้ามานั้นในปีนี้ก็คาดว่าจะต่ำกว่ารายได้ที่ ทอท. เคยได้รับที่ 20,000 ล้านบาท ในปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ทอท. ก็ยังมั่นใจว่า ทอท.จะยังติด 1 ใน 10 สนามบินที่มีความเป็นเลิศในด้านการให้บริการผู้โดยสารที่ได้เริ่มทำการสำรวจความคิดเห็นผู้โดยสารไปบ้างแล้ว โดยสมาคมธุรกิจท่าอากาศยานระหว่างประเทศ จะเป็นผู้ดำเนินการและตัดสินอย่างเป็นธรรม ส่วนปัญหาการปิดล้อมสนามบินนั้นขณะนี้ตนก็มั่นใจว่าจะไม่มีการทำลักษณะนี้อีกเพราะทุกฝ่ายต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติ และ ทอท. เองก็เพิ่งออกมาตรการเพิ่มความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยให้กับสนามบินทั้ง 6 แห่งทั่วประเทศ จึงไม่น่าจะมีปัญหาในส่วนดังกล่าวอีก
นอกจากนี้ ปัจจุบัน ทอท.ยังได้เสนอให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาเพื่อเสนอให้มีการบังคับใช้กฎหมาย Airport Act เพื่อให้เจ้าหน้าที่ของ ทอท.มีอำนาจในการเข้าดำเนินการกับผู้ที่กระทำผิดกฎหมาย ก่อความไม่สะดวกแก่ผู้โดยสารภายในสนามบิน เนื่องจากปัจจุบัน ทอท.ไม่มีอำนาจในการเข้าดำเนินการกับผู้ที่กระทำผิดกฎหมายภายในสนามบิน เช่น แท็กซี่ป้ายดำ ไกด์เถื่อน เป็นต้น และต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้จับกุม ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่ทันการทำให้การแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่ได้ผล