บลูมเบิร์ก - สำนักจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ฟิทช์ เรตติ้งส์ (Fitch Ratings) เตือนว่า จีนกำลังเผชิญกับเศรษฐกิจที่ดิ่งลงอย่างแรง (Hard Landing) และมีความเสี่ยงที่จะเกิดความไม่สงบในสังคมได้ โดยคาดว่าปีนี้เศรษฐกิจจีนจะเติบโตเเค่ 6% หรือน้อยกว่า ซึ่งเป็นอัตราที่ต่ำที่สุด นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1990
เจมส์ แมคคอร์แมกค์ หัวหน้าฝ่ายจัดอันดับควสามน่าเชื่อถือประจำภูมิภาคเอเชีย ของ ฟิชท์ เรตติ้งส์ ที่มีฐานในฮ่องกง กล่าวในวันที่ 16 ม.ค. ว่า ปีนี้เศรษฐกิจจีนอาจเติบโตในอัตราที่น้อยกว่า ครึ่งหนึ่งของปี 2007 ที่เติบโตถึง 13% โดยในปีที่แล้วมีแรงงานอพยพตกงานถึง 4 ล้านคน และจะเพิ่มขึ้นอีก 5 ล้านคนในปี 2009
“ตัวเลขอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ 6% เป็นสิ่งที่เรากล่าวได้ว่า เศรษฐกิจจีนจะดิ่งลงอย่างแรง ซึ่งหมายความว่าจะมีการว่างงานเพิ่มขึ้น และต้องการนโยบายที่แรงขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหา” เจมส์ แมคคอร์แมกค์ กล่าว พร้อมเตือนด้วยว่า อาจเกิดความไม่สงบในสังคมขึ้นได้ในจีน
ทั้งนี้ การส่งออกของจีนได้ซบเซาลงมาก และตลาดอสังหาริมทรัพย์ก็เงียบเหงาลงเช่นกัน จนทำให้รัฐบาลจีนต้องออกมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจขนานใหญ่ มูลค่า 4 ล้านล้านหยวน ไปเมื่อปลายปีที่แล้ว ซึ่งวิกฤตเศรษฐกิจโลก ได้ส่งผลกระทบต่อจีน ทั้งธุรกิจผลิตของเล่น เสื้อผ้า สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ตลอดจน อุตสาหกรรมการบิน และอสังหาริมทรัพย์
ผู้แทนจากฟิทช์ เรตติ้งส์ ยังคาดว่า อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะเวลา 1 ปี อาจจะลดลงเหลือ 3% จากอัตราปัจจุบันที่ 5.31% ส่วนยอดการส่งออกปี 2009 อาจจะลดลง 6% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
ทั้งนี้ยอดการส่งออกในปีที่แล้วของจีนทั้งปียังคงขยายตัว 17.2% โดยเพิ่งจะมาลดลง 2.8% ในเดือนธันวาคมและพฤศจิกายน
“จีนเผชิญกับการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการจ้างงาน ตั้งแต่ยุคที่มีการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจในช่วงทศวรรษ 1990 ซึ่งโจทย์ใหญ่ ก็คือว่า จะทำอย่างไรที่จะกระจายแรงงานหลายล้านคน ที่ตกงานจากโรงงานที่ปิดตัวลง ให้ไปอยู่ในโครงการก่อสร้างสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ที่มีอยู่ทั่วทั้งประเทศจีน” เจมส์ แมคคอร์แมกค์ กล่าว