ปธ.กมธ.ทหารสภาฯ สร้างราคาปูดอดีตบิ๊ก คมช.พัวพันทุจริตบิ๊กโปรเจกต์หลายโครงการ สงสัยอุตสาหกรรมการบินเอื้อประโยชน์ บ.เอกชน ในการปรับปรุงอิเลกทรอนิกส์เครื่องบิน เตรียมเรียก สตง.แจง พร้อมจี้จเรทหารตรวจสอบ
วันนี้ (8 ม.ค.) ที่รัฐสภา พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร แถลงภายหลังการประชุม ซึ่งมีการพิจารณาเรื่องการใช้งบประมาณในการปรับปรุงระบบอิเลกทรอนิกส์ของเครื่องบินในกองทัพอากาศ จำนวน 21 ลำ วงเงิน 565.5 ล้านบาท ซึ่งจะหมดสัญญาในปี 2552 ซึ่งขณะนี้มีการเบิกจ่ายงบประมาณไปแล้ว 50% มูลค่ากว่า 300 ล้านบาท ซึ่งบริษัทที่ได้งานคือบริษัท อุตสาหกรรมการบิน จำกัด โดยกองทัพอากาศใช้วิธีการจัดซื้อจัดจ้างแบบพิเศษ แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าบริษัทนี้เพิ่งตั้งเมื่อปี 47 และไม่ใช่บริษัทที่ผลิตเครื่องบิน หรือมีความชำนาญในด้านนี้
นอกจากนี้ บริษัทดังกล่าวก็ไม่ได้ดำเนินการเอง แต่ไปให้บริษัท เอวี แอลเอ แซท จำกัด มารับช่วงเป็นผู้ดำเนินการแทน ซึ่งน่าเป็นห่วงเพราะบริษัทดังกล่าวไม่ใช่รัฐวิสาหกิจ แต่เป็นบริษัทเอกชนที่ตั้งขึ้นมาได้ไม่นาน ซึ่งทางสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ก็ได้ตรวจสอบเรื่องนี้และยืนยันไปยังกองทัพว่าไม่สามารถทำได้ หากไม่มีการเปิดซองประมูล แต่ทางกองทัพก็ยังยืนยันที่จะดำเนินการ ดังนั้น ทางกรรมาธิการทหารฯ จะตรวจสอบเรื่องนี้โดยละเอียด ซึ่งในสัปดาห์หน้าจะเชิญ สตง.มาชี้แจงเพื่อให้เกิดความโปร่งใสและสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับกองทัพ
พ.ต.ท.สมชาย กล่าวว่า เป็นที่น่าสังเกตว่าบริษัท อุตสาหกรรมการบิน จำกัด ไม่ได้เป็นรัฐวิสาหกิจ เป็นเพียงบริษัทเอกชนธรรมดา แต่กลับเบิกจ่ายงบประมาณก่อนได้ถึง 50% ซึ่งความเป็นจริงบริษัทเอกชนจะสามารถเบิกจ่ายงบประมาณได้เพียง 25% เท่านั้น นอกจากนี้จะเห็นว่าในระยะเวลาเพียงปีเศษที่มีการทำสัญญาแล้ว บริษัทดังกล่าวสามารถดำเนินการปรับปรุงเครื่องบินได้เพียงแค่ 2 ลำ ดังนั้นเชื่อว่าจะมีการจับเสือมือเปล่า และมีอะไรที่ไม่ชอบมาพากลแน่นอน
พ.ต.ท.สมชาย กล่าวด้วยว่า โครงการฯดังกล่าวอยู่ในสมัยของ พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข เป็น ผบ.ทอ.เท่าที่ตนตรวจสอบสามารถพูดได้ว่ามีการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทเอกชนในสมัย ผบ.ทอ.คนนี้ และโครงการรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจี ก็ไม่มีเลย นอกจากนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า โครงการของกองทัพอากาศที่มีปัญหาส่วนใหญ่จะอยู่ในสมัยของ พล.อ.อ.ชลิต ดังนั้นเรื่องนี้ควรให้จเรทหารเข้ามาตรวจสอบว่าโครงการเหล่านี้นี้มีการทุจริตอย่างไร ซึ่งเรื่องนี้อาจจะเข้าข่ายส่งให้ ป.ป.ช.ดำเนินการต่อไป