xs
xsm
sm
md
lg

“พาณิชย์” ประกาศกฎเหล็กคุมร้านทอง เข้มมาตรฐาน-ความเป็นธรรม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


พาณิชย์ เตรียมประกาศใช้มาตรการดูแลตลาดทองคำ ทั้งการติดป้ายรายละเอียด-ราคาที่ชัดเจน การคิดค่ากำเหน็จ การประกาศราคาซื้อ-ขาย การใช้ตราชั่งมาตรฐาน การหักค่าเสื่อมราคา เพื่อสร้างมาตรฐาน และความเป็นธรรมทางการค้า

นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวถึงการเข้าไปดูแลสถานการณ์ผันผวนของราคาทองคำในประเทศ โดยระบุว่า กรมการค้าภายในได้มีการหารือร่วมกับสมาคมค้าทองคำ กลุ่มชมรมค้าปลีกทองคำแห่งประเทศไทย และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เกี่ยวกับร่างประกาศสำนักงานคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) และสำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า เพื่อกำหนดแนวทางปฏิบัติการค้าทองของผู้ประกอบธุรกิจทองที่เป็นธรรม

สำหรับประกาศดังกล่าว ประกอบด้วย ผู้ประกอบการต้องปิดป้ายจำหน่ายทองคำแท่ง และทองรูปพรรณให้ชัดเจน และต้องเป็นภาษาที่เข้าใจง่ายในสถานที่ชัดเจนและเปิดเผย การคิดค่ากำเหน็จทองรูปพรรณน้ำหนัก 1 บาท อยู่ที่ 400-700 บาท หากเปลี่ยนแปลงราคา ทางสมาคมค้าทองคำ ต้องระบุวันเวลาที่ชัดเจน และต้องแจ้งให้กรมการค้าภายในทราบ

ขณะเดียวกัน ร้านค้าทอง ต้องประกาศราคารับซื้อทองคำแท่งและทองรูปพรรณ รวมถึงทางสมาคม ต้องแจ้งราคาซื้อและราคาจำหน่ายทองคำแท่ง ค่าพรีเมียม และค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้กรมการค้าภายใน ทราบ และหากมีการเปลี่ยนแปลง ผู้ค้าต้องใช้ตราชั่งดิจิตอล สามารถแสดงจุดทศนิยม 2 ตำแหน่ง ออกเอกสารแสดงน้ำหนัก ทองคำแท่งและทองรูปพรรณให้ลูกค้าไว้เป็นหลักฐานทุกครั้ง

ส่วนการรับซื้อคืนทองรูปพรรณ ผู้ค้าจะต้องคิดค่าเสื่อมราคาไม่เกินร้อยละ 5 ของราคาทองขณะนั้น ต้องแจ้งวันเปิด-ปิดร้านให้ชัดเจน หากจะปิดกรณีพิเศษต้องแจ้งให้กรมการค้าภายใน ทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วัน และปิดประกาศให้ลูกค้าทราบในที่ชัดเจน

ส่วนกรณีที่ราคาทองผันผวนและเป็นที่ต้องการของประชาชน ร้านค้าทองไม่สามารถส่งมอบสินค้าได้ ต้องออกหลักฐานให้แก่ลูกค้า ส่วนการจองซื้อทองคำแท่ง จะต้องมีการออกเอกสารกำหนดชื่อ สถานที่ตั้ง เลขที่เอกสาร วันที่ซื้อขายสินค้า วันที่กำหนดรับสินค้า ชื่อหรือที่อยู่ของผู้ซื้อพร้อมสำเนาบัตรประชาชน

ทั้งนี้ เงื่อนไขต่างๆ ในการดูแลตลาดทองคำ ทางสมาคมค้าทองคำ และชมรมฯ ยอมรับและพร้อมปฏิบัติตามคำประกาศของกระทรวงพาณิชย์ได้ ขั้นตอนต่อไปทางกรมการค้าภายในในฐานะเลขานุการ กกร.จะเสนอที่ประชุม กกร.ในวันที่ 2 มีนาคม 2552 นี้
กำลังโหลดความคิดเห็น