การันตีเงินฝากแบงก์ปลอดภัย ช่วงวิกฤต ศก.แนะรีบเปลี่ยนตั๋วพี/เอ็น

สถาบันคุ้มครองเงินฝาก การันตีเงินฝากทุกบัญชียังปลอดภัย ในช่วง 1-3 ปี ตั้งแต่ 11 ส.ค.51 ถึง 10 ส.ค.53 แม้จะเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ ยืนยันไม่มีผลกระทบต่อสถาบันคุ้มครองเงินฝาก พร้อมแนะ ปชช.ที่ถือตั๋ว P/N จะต้องเปลี่ยนรูปแบบเป็นบัตรฝากเงิน หรือใบรับฝากเงิน กับสถาบันการเงินที่ถือตั๋ว P/N อยู่ เพื่อให้ได้รับสิทธิ์การคุ้มครองทางกฎหมาย

นายสิงหะ นิกรพันธุ์ ผู้อำนวยการสถาบันคุ้มครองเงินฝาก กล่าวว่า สถาบันคุ้มครองเงินฝากเป็นผู้ดูแลและคุ้มครองเงินฝากประชาชน แทนกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ตั้งแต่วันที่ 11 สิงหาคม 2551 โดยในปีที่ 1-3 คือ จนถึง 10 สิงหาคม 2554 สถาบันยืนยันว่า สามารถคุ้มครองเงินฝากประชาชนเต็มวงเงินพร้อมอัตราดอกเบี้ย ตามที่ปรากฏในบัญชีเงินฝาก แม้ว่าขณะนี้ประเทศไทยจะเกิดปัญหาภาวะเศรษฐกิจ จึงขอให้ประชาชนมั่นใจว่า เงินฝากในบัญชีจะได้รับการคุ้มครองอย่างแน่นอน

ส่วนในปีที่ 4 สถาบันจะคุ้มครองเงินฝากและดอกเบี้ยไม่เกิน 50 ล้านบาท ปีที่ 5 ไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อคนต่อสถาบันการเงิน ซึ่งวงเงินคุ้มครอง 1 ล้านบาทนั้น อยู่ในระดับที่สูงคิดเป็น 8.33 เท่าต่อรายได้ประชากร ซึ่งสูงกว่าประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และสูงกว่าสหรัฐฯ ที่คุ้มครอง 1 แสนดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 3.5 ล้านบาท คิดเป็น 2.38 เท่าต่อรายได้ประชากร แต่ต่ำกว่าอินโดนีเซียที่คุ้มครอง 100 ล้านรูเปียะห์ หรือ 3.8 แสนบาท หรือ 9.42 เท่าของรายได้ประชากร

นายสิงหะ กล่าวว่า หลังเกิดวิกฤตปี 2551 หลายประเทศได้เปลี่ยนแปลงวงเงินคุ้มครองให้สูงขึ้น โดยเฉพาะประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เพิ่มการคุ้มครองเป็นเต็มจำนวน เพื่อให้ประชาชนมั่นใจว่า เงินฝากมีความปลอดภัยในภาวะที่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจ ประเทศไทยก็เช่นเดียวกัน มีการเปลี่ยนแปลงระยะเวลาการคุ้มครองเต็มจำนวนให้นานขึ้น ซึ่งหลักเกณฑ์ใหม่จะต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) อีกครั้ง เพราะมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลใหม่ แต่เชื่อว่า คงจะไม่มีปัญหาใดๆ หลังจากนั้นประกาศใช้เป็นพระราชกฤษฎีกาต่อไป

นายสิงหะ กล่าวว่า ตามกฎหมายสถาบันคุ้มครองเงินฝาก คำว่าเงินฝาก ไม่นับรวมเงินกู้ยืมของประชาชน (ตั๋ว P/N) ดังนั้น ประชาชนที่ถือตั๋ว P/N จะต้องเปลี่ยนรูปแบบเป็นบัตรฝากเงิน หรือใบรับฝากเงิน (Certificate of Deposit) กับสถาบันการเงินที่ถือตั๋ว P/N อยู่ เพื่อให้ได้รับสิทธิ์การคุ้มครองทางกฎหมาย ซึ่งปัจจุบันสถาบันการเงินส่วนใหญ่ ได้เปลี่ยนรูปแบบตั๋ว P/N มาเป็นบัตรเงินฝากเกือบทั้งหมดแล้ว

ทั้งนี้ หลักการเดิมในปีที่ 1 ตั้งแต่ 11 สิงหาคม 2551 ถึง 10 สิงหาคม 2552 สถาบันคุ้มครองเงินฝากจะคุ้มครองเงินฝากเต็มจำนวน จากนั้นจะลดลงเหลือไม่เกิน 100 ล้านบาท ในปีที่ 2 ไม่เกิน 50 ล้านบาท ในปีที่ 3 ไม่เกิน 10 ล้านบาท ในปีที่ 4 และไม่เกิน 1 ล้านบาท ตั้งแต่ปีที่ 5 หรือตั้งแต่ 11 สิงหาคม 2555 เป็นต้นไป แต่ในรัฐบาลสมัยของ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ได้มีการแก้ไขหลักเกณฑ์ใหม่ในเดือนตุลาคม 2551